มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 1933

นอกเหนือจากนี้แล้วยังมีเศษของขลังอาวุธสงครามต่าง ๆ ตกกระจัดกระจายอยู่บนพื้น แต่ทว่าเศษเหล่านี้ล้วนสูญเสียธาตุทิพย์ไปหมดแล้ว เทียบเคียงของเศษโลหะไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ขอแค่สัมผัสเพียงเล็กน้อย มันก็เปราะบางดั่งเต้าหู้ แตกสลายเป็นฝุ่นผงแล้ว

ในกาลเวลาเก่าแก่ที่ผ่านพ้นมายาวนานอย่างไม่รู้จบ ที่นี่ต้องเคยมีการเข่นฆ่าและสงครามครั้งยิ่งใหญ่ที่สะเทือนฟ้าสะเทือนดินเกิดขึ้นอย่างไร้ข้อสงสัยแน่นอน สุดท้ายไม่รู้ว่ามีจำนวนคนเท่าไหร่ที่ต้องจบชีวิตในสงครามครั้งนี้ และหลงเหลือเพียงโครงกระดูก

เมื่อเห็นโครงกระดูกนับไม่ถ้วนที่เกลื่อนทั่วทั้งดวงดาวดวงนี้แล้ว มีคนไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ที่สั่นสะดุ้งอย่างควบคุมไม่ได้ มาตรแม้นว่าเป็นคนที่ถือดีอย่างพระโอรสจ้านเทียนและมู่ช่าวหวงก็อดไม่ได้ที่จะเสียวสันหลังวาบเช่นกัน รู้สึกขนหัวลุกซู่

“ทะ……ที่นี่เคยเกิดเรื่องอะไรกันแน่?”มีใบหน้าของวัยรุ่นผู้มีความฉลาดเป็นเลิศบางคนขาวซีด เนื่องจากภาพเหตุการณ์เช่นนี้มันน่าช็อกและน่าขนลุกเกินไปจริง ๆ 

“ตำนานเล่ากันว่าเคยมีภัยพิบัติเกิดขึ้นในยุคดึกดำบรรพ์ สถานภาพในโลกหล้าถูกแบ่งออกเป็นสองพรรค พรรคหนึ่งคือนี่เทียน ส่วนอีกพรรคหนึ่งคือจ่างเทียน การต่อสู้แย่งชิงระหว่างทั้งสองพรรคทำให้ห้วงดาราโบราณพังทลาย มีผู้แข็งแกร่งเสียชีวิตในสงครามครั้งยิ่งใหญ่เมื่อครั้นนั้นมากเท่าไหร่นั้น คิดคำนวณเป็นตัวเลขได้ไม่ชัดเจนด้วยซ้ำ……”จู่ ๆ ก็มีคนกล่าวเช่นนี้

“อย่างไรซะตำนานก็เป็นเพียงตำนาน ห้วงดารานั้นกว้างใหญ่ไพศาลมากเพียงใด จักมีทางถูกมนุษย์โจมตีจนทลายได้อย่างไรเล่า? มาตรแม้นว่าเป็นมหาจักรพรรดิยุทธ์ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน ก็ไม่มีความสามารถที่จะทำเช่นนั้นได้หรอกกระมัง?”มีคนดูถูกดูแคลนต่อตำนานเรื่องเล่าดังกล่าว

“การต่อสู้แย่งชิงระหว่างพรรคจ่างเทียนและนี่เทียนนั้นเป็นไปตามความเป็นจริงอยู่ แต่ทว่าการทำให้ห้วงดาราโบราณพังทลายนั้น มันเป็นเพียงเรื่องเล่าจริง ๆ ซึ่งไม่เคยศึกษาค้นคว้าและพิสูจน์มาก่อน”

จู่ ๆ ชายหนุ่มที่อยู่ในชุดจีวรของนักบวชเต๋าก็กล่าวเช่นนี้

“ผู้สืบทอดของเขาดึกดำบรรพ์หรือ!?”

สายตาของคนจำนวนไม่น้อยร่วงลงบนตัวชายหนุ่มชุดจีวรนักบวชเต๋านั่น มีคนอุทานตัวตนของเขาออกมาอย่างตะลึง 

เขาดึกดำบรรพ์ ตั้งอยู่ในมหาโลกะดึกดำบรรพ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในมหาโลกาพันสาม

เสียงคำรามของมังกรดังสะท้อนมา พระโอรสจ้านเทียนเท้าเหยียบมังกรทองห้าอุ้งเท้า บินตรงมาด้วยท่าทางที่น่าเกรงขาม คนจำนวนมากต่างพากันหลบหลีก ไม่กล้ามีปัญหากับเขา

สำหรับชายหนุ่มชุดจีวรนักบวชเต๋าที่มาจากเขาดึกดำบรรพ์นั้น พระโอรสจ้านเทียนมองเขารอบหนึ่งแล้วขมวดคิ้วลงเล็กน้อย จากนั้นเขาก็ไม่สนใจอีกเลย ควบคุมมังกรห้าอุ้งเท้ามุ่งหน้าบินตรงไปยังส่วนลึกของดวงดาวที่มีโครงกระดูกเกลื่อนดุจมหานที

เมื่อได้ยินคำประกาศของพระโอรสจ้านเทียน มู่ช่าวหวงจึงทำเสียงหึอย่างเยือกเย็นทีหนึ่ง ก่อนจะควบคุมเรือรบทองคำพุ่งตรงเข้าไปเช่นกัน

คนอื่นที่เหลือก็ไม่ยอมตกอยู่ข้างหลัง หลังจากผู้คนเริ่มค่อย ๆ เข้าไปถึงส่วนลึกของดวงดาวดวงนี้แล้ว ก็พบว่าพื้นดินด้านล่างโครงกระดูกที่กองเท่าภูเขาแตกร้าว ทำให้คนมองรู้สึกว่าดวงดาวดวงนี้เปราะบางอย่างยิ่ง ซึ่งอาจระเบิดแตกได้ทุกเวลา

พลานุภาพของดวงดาวที่ระเบิดแตกนั้นน่าสยดสยองอย่างยิ่ง มีเพียงผู้แข็งแกร่งระดับจ้าวมหาเทพเท่านั้นถึงจะมีโอกาสรอดชีวิต หากเปลี่ยนเป็นผู้อื่น มาตรแม้นว่าเป็นมกุฎเทพขั้นสูงก็ต้านทานไม่ไหว