มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 1932

หลัวซิวไม่ได้เล่าเรื่องหินนิรันดร์ยอมรับเขาเป็นนายให้จีเสี่ยวจื่อฟังแต่อย่างใด แต่เป็นการบอกว่าหินนิรันดร์หายไปแล้ว

อย่างไรซะนางก็เห็นเองกับตาตัวเองเลยว่าความเร็วของหินนิรันดร์มันเป็นอย่างไร อีกทั้งนางก็ไม่ได้สงสัยในคำพูดของหลัวซิวเช่นกัน 

หลัวซิวก็รู้สึกละอายใจต่อเรื่องนี้เล็กน้อยอยู่ ทว่าในเกณฑ์นิรันดร์มีความเร้นลับของการเป็นอมตะซ่อนอยู่ หากปล่อยให้ผู้อื่นทราบเรื่องราวเช่นนี้ละก็ เช่นนั้นต้องเป็นหายนะครั้งหนึ่งแน่นอน ยิ่งกว่านั้นคืออาจารย์คนนั้นของตนเองก็อาจจะหวั่นไหวได้ด้วย

ถึงแม้จิตใจของหลัวซิวจะรู้สึกเชื่อใจจีเสวียนคงมาก ๆ ก็ตาม แต่ทว่าจิตใจของมนุษย์เป็นสิ่งที่คาดคะเนยากที่สุด การที่เขาที่อ่อนแอและเล็กน้อยสามารถค่อย ๆ ก้าวขึ้นมาถึงจุดนี้ได้นั้น เขาเข้าใจดีมากว่าจะให้บุคคลที่สองทราบเรื่องเช่นนี้ไม่ได้เด็ดขาด ถึงแม้จะเป็นคนที่มีความสัมพันธ์สนิทสนมกับตัวเองก็ตาม 

นี่ไม่ใช่การไม่เชื่อใจแต่อย่างใด แม้ผู้คนที่อยู่รอบข้างตนจะไม่แพร่งพรายเรื่องนี้มั่วซั่ว ทว่าผู้อื่นก็สามารถใช้วิธีค้นวิญญาณได้เช่นกัน จึงจะไม่มีจิตใจที่ระแวดระวังไม่ได้!

“ไป ต้องไปอยู่แล้วสิ!”

ถึงแม้ตัวเองจะได้รับหินนิรันดร์แล้ว แต่ไม่มีผู้ใดรังเกียจสมบัติล้ำค่าที่มีความเร้นลับของเกณฑ์แฝงซ่อนหรอกจริงหรือไม่?

หากมีความเป็นไปได้ หลัวซิวยิ่งอยากให้อัญเกณฑ์ทั้งสามชิ้นในแดนเทวนิรันกาลตกอยู่ในกำมือของตัวเองด้วยซ้ำ

ไม่มีผู้ใดไม่มีความทะเยอทะยานอันร้อนแรง ซึ่งหลัวซิวก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน มิเช่นนั้นละก็เขาคงไม่อยากเดินบนวิถียุทธ์ที่ใช้หมื่นจักรวาลไร้รูปวิวัฒนาการสรรพวิชาหรอก

วิถียุทธ์ที่เขาจะเดินนั้น เป็นวิถีที่ครอบคลุมสรรพวิชาทุกอย่างในโลก เป็นวิถียุทธ์ที่อัดแน่นไปด้วยแก่นแท้ของวิถียุทธ์ทั้งหลาย ความเร้นลับที่แฝงซ่อนอยู่ในอัญเกณฑ์ที่แตกต่างกัน ต้องสามารถทำให้เขาได้รับการตระหนักรู้และดอกผลที่มากกว่าแน่นอน  

……

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ