มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 1947

ในฐานะที่เป็นเทพบุตรท้ายแถวที่โดดเด่นของวังมหาวาล จากบรรดาผู้สืบทอดสำนักจักรพรรดิทั้งหมด ศักยภาพของซูปินมากสุดก็ถือว่าอยู่ระดับกลาง

หากศักยภาพของตัวเองแข็งแกร่งมากพอ เขาก็คงไม่ไปสมคบกับคนในสำนักจักรพรรดิมรณะเพื่อมาจัดการเสิ่นปิงหยูอยู่ ณ ที่แห่งนี้แล้ว 

“ให้ข้าช่วยสังหารมันไหม”หลัวซิวใช้นิ้วชี้ไปทางซูปินพลางมองไปทางเสิ่นปิงหยู

นาง ณ วินาทีนี้มีเลือดไหลออกมาจากมุมปาก บนโฉมหน้าอันงดงามและเย็นชาดุจเทพธิดาไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ พลางตอบกลับอย่างเรียบนิ่ง: “ไม่ต้อง อนาคตข้าจะลงมือจัดการมันด้วยน้ำมือข้าเอง”

แตกต่างจากซูปิน เสิ่นปิงหยูเป็นคนที่มั่นใจในตัวเองอย่างเต็มเปี่ยม เทพธิดาของวังมหาวาลในอนาคตต้องเป็นนางอย่างแน่นอน และตำแหน่งเจ้าอาจารย์ก็ต้องเป็นของนางอย่างแน่นอน!

หลัวซิวอมยิ้มไม่ได้พูดอะไร ทว่าซูปินกลับรู้สึกเหมือนตัวเองเพิ่งไปเดินวนที่ประตูนรกมารอบหนึ่ง เมื่อครู่หากเสิ่นปิงหยูพยักหน้า เขาเชื่อว่าชายหนุ่มที่อยู่ในชุดคลุมยาวดำนั่นต้องลงมือสังหารตนแน่นอน

“เหตุใดเจ้าถึงต้องช่วยข้า?”เสิ่นปิงหยูเขม็งมองหลัวซิวพลางถาม

“ข้าเป็นผู้ที่ทนดูสาวงามถูกรังแกไม่ได้ จึงต้องยื่นมือช่วยเหลืออยู่แล้ว”หลัวซิวยิ้มพลางพูดหยอกล้อ

เสิ่นปิงหยูขมวดคิ้ว นางไม่เชื่อคำพูดของฝ่ายตรงข้ามหรอก ในส่วนของจุดประสงค์ที่คนดังกล่าวช่วยเหลือนางนั้น นางเองก็ไม่อาจคาดเดาได้ด้วยซ้ำ

นางนึกอย่างไรก็ไม่มีทางนึกถึงว่านักยุทธ์โลกามนุษย์ที่นางเคยเชิญชวนให้เข้าร่วมวังมหาวาลเมื่อครั้นนั้น จะเป็นชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้านาง  

“ท่านคือผู้ใดกันแน่?”เสิ่นปิงหยูเปลี่ยนลักษณะคำถามใหม่

“ข้ามีนามว่าเหยียนโม่!”หลัวซิวตอบกลับพลางยิ้มอย่างมีเลศนัย

“เหยียนโม่?”เสิ่นปิงหยูขมวดคิ้วลงอย่างอดไม่ได้ นางไม่คุ้นเคยกับชื่อดังกล่าว และไม่มีอยู่ในความทรงจำของนางเลย

หลัวซิวไม่ได้พูดอะไรอีก ง้างมือโยนขวดหยกให้นางหนึ่งขวดพลางพูด: “ด้านในมียาถอนพิษ ซึ่งเพียงพอที่จะสามารถถอนผงสิบพิษผนึกปราณที่อยู่บนตัวเจ้าได้”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ