มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 1957

สรุปบท บทที่ 1957: มหายุทธ์ สะท้านภพ

ตอน บทที่ 1957 จาก มหายุทธ์ สะท้านภพ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 1957 คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายประวัติศาสตร์ มหายุทธ์ สะท้านภพ ที่เขียนโดย หลงเซียว-มังกรคำราม เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

“เวิง!”

ทันใดนั้นเอง หลัวซิวก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกหวาดหวั่นเล็กน้อยที่ส่งตรงมาจากมนุษย์หินนิรันดร์ที่อยู่ในจุดตันเถียน ก่อนจะมีพลังแห่งเกณฑ์นิรันดร์พลังหนึ่งหลอมรวมเข้าไปในวัฏสงสาร

เมื่อมีการปลุกเสกจากเกณฑ์นิรันดร์ หอกหนึ่งที่มีเกณฑ์วัฏสงสารแฝงซ่อนจึงทลายปราณกระบี่ตรีภพจนเสียงดังสะเทือนเลื่อนลั่น!

ชายหนุ่มชุดม่วงนั่นตกตะลึงพรึงเพริด ตอนแรกเริ่มทันทีที่ได้ครอบครองกระบี่ตรีภพเขาก็เลือกที่จะหลบหนีเป็นอย่างแรกแล้ว เมื่อเขาค้นพบว่าตนสามารถอาศัยกระบี่ตรีภพฆ่าล้างนักยุทธ์ทั้งหลายได้ จึงคิดว่าภายในแดนเทวนิรันกาลไม่มีผู้ใดที่สามารถเป็นคู่ต่อสู้ของตนเองได้

แต่ทว่าวินาทีนี้กลับมีคนสามารถทลายปราณกระบี่ตรีภพที่เขาฟาดฟันออกไปอย่างนั้นหรือ นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?

ถึงแม้ปราณกระบี่ตรีภพที่เขาฟาดฟันออกไปยังเทียบเคียงกับปราณกระบี่ครั้นเมื่อเฉือนทลายมือใหญ่ของมหาจักรพรรดิยุทธ์ไม่ได้ ทว่าหากผู้ที่อยู่ต่ำกว่าจ้าวมหาเทพได้ปะทะกับมันก็ต้องได้ตายอย่างแน่นอน ในวัยรุ่นยุคใหม่มีผู้ที่เก่งกาจเช่นนี้บังเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อใด?

อั่กก!

ปราณกระบี่ตรีภพถูกทลายจนแตกสลาย ทำให้ชายหนุ่มชุดม่วงก็ถูกโจมตีภายในพริบตาเช่นกัน ร่างกายกระเด็นบินลอยออกไป พลางกระอักเลือดเฮือกใหญ่

สุดท้ายแล้วเขาก็แค่อาศัยกระบี่ผงาดตรีภพถึงจะมีต้นทุนในการทำตัวกําเริบเสิบสาน ในความเป็นจริงศักยภาพที่แท้จริงของเขากลับไม่เท่าไหร่นัก

อย่างไรก็ตาม ณ วินาทีนี้ หลัวซิวไม่ได้ไล่โจมตีชายหนุ่มชุดม่วงต่อแต่อย่างใด แต่เป็นการขยับเงาร่าง พุ่งฆ่าไปทางมู่ช่าวหวงปานแสงฟ้าแลบ!

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกะทันหันนี้อยู่เหนือการคาดหมายของทุกคน แม้แต่ตัวมู่ช่าวหวงเองก็นึกไม่ถึงเช่นกันว่าคนดังกล่าวจะไม่ไปจัดการชายหนุ่มที่ยึดกุมกระบี่ตรีภพนั่น แต่เลือกที่จะมาฆ่าตนเองอย่างนั้นหรือ?

และในความเป็นจริงสำหรับตัวหลัวซิวแล้ว การฆ่ามู่ช่าวหวงสำคัญกว่าการแย่งกระบี่ตรีภพเสียอีก เนื่องจากทันทีที่ปล่อยให้มู่ช่าวหวงมีชีวิตรอดออกไปจากแดนเทวนิรันกาลได้ เช่นนั้นพวกเฒ่าประหลาดในตระกูลมู่สรรพสิทธิ์ต้องทราบแน่นอนว่าหินนิรันดร์อยู่ในมือเขา

ถึงแม้จะมีจีเสวียนคงคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลังตน แต่หลัวซิวก็ไม่คิดว่าตนเอง ณ บัดนี้จะต่อกรกับตระกูลมู่สรรพสิทธิ์ที่เทียบเท่าสำนักจักรพรรดิหนึ่งได้

การลงมือในครั้งนี้ของหลัวซิวไม่มีความลังเลใจใด ๆ เลย มีการปลุกเสกจากเกณฑ์วัฏสงสาร มีพลานุภาพที่มากมายมหาศาลอย่างไร้ขอบเขตแผ่กระจายออกมาจากหอกมังกรแดงมืด

จากการที่เสียงดังสะเทือนเลื่อนลั่นดังขึ้น รัศมีเทวที่แวววาวจับตาอย่างไร้ขอบเขตพุ่งทะยานขึ้นฟ้า พลังแห่งวัฏสงสารกดอัดเทพธรรมบาล

เห็นเพียงหอกมังกรแดงมืดที่อยู่ในมือหลัวซิวกลายเป็นเศษเงา ภายในเวลาชั่วพริบตาเดียวหอกก็ถูกแทงออกไปไม่รู้ตั้งกี่หน สุดท้ายแสงหอกทั้งหมดก็รวมตัวกันและกลายเป็นคมหอกที่ไร้เทียมทาน!

คมหอกดังกล่าวปรากฏกลางห้วงดารา เหมือนดั่งทางช้างเผือกที่มโหฬารพันลึก ภายในห้วงหอกมีการเวียนว่ายตายเกิดและห้วงเวลาแฝงซ่อน

โดยส่วนใหญ่แทบจะไม่มีเงื่อนงำใด ๆ เลย การโจมตีนี้เป็นวิธีการที่ทรงพลังที่สุดของหลัวซิว ทันทีที่เงาสะท้อนวัฏสงสารปรากฏ ทุกสรรพสิ่งในโลกก็จะถูกกวาดล้าง ทุกสรรพสิ่งล้วนต้องกลายเป็นเถ้าธุลี ไร้ซึ่งทางเลือกที่สองอย่างแน่นอน

โครมคราม……

จากนั้นห้วงดารานี้ก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ทุกคนที่อยู่บริเวณรอบ ๆ ล้วนรู้สึกว่าตัวเองเป็นเรือเล็กลำหนึ่งที่อยู่ท่ามกลางคลื่นยักษ์ สีหน้าอารมณ์ของทุกคนล้วนตกตะลึงมากจนหน้าถอดสี

โอรสสวรรค์โชคลาภที่แย่งกระบี่ผงาดตรีภพไปได้ก็น่าทึ่งมาก ๆ แล้ว คนดังกล่าวน่ากลัวยิ่งกว่าโอรสสวรรค์โชคลาภที่ถือกระบี่ผงาดตรีภพอีกหรือ?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ