“ศิษย์พี่เย่?”
“ถูกต้อง ข้าเอง และชื่อที่แท้จริงของข้าก็ไม่ใช่เย่ห้าวหรานเช่นกัน แต่เป็นหลัวซิว”
เสิ่นปิงหยูผงะไปแล้ว นางคิดอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่าคนที่อยู่ตรงหน้านี้จะเป็นผู้ที่ตนพบเห็นในโลกามนุษย์เมื่อปีนั้น
นางยังจำได้อยู่ว่าเมื่อนั้นนางค้นพบว่าพรสวรรค์ของคนดังกล่าวไม่เลว ดังนั้นจึงมีความคิดที่จะเชิญชวนเขาเข้ามาในวังเซียนมหาวาลแต่ทว่าทุกสรรพสิ่งในโลกล้วนเปลี่ยนแปลงได้เสมอ นี่เพิ่งผ่านไปแค่ไม่กี่ปีเอง ตัวเองกลับกลายเป็นผู้ติดตามของฝ่ายตรงข้ามไปแล้ว
นึกย้อนกลับไปถึงภาพเหตุการณ์ที่ตนอยากเชิญชวนเขาเมื่อปีนั้น เสิ่นปิงหยูก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าตัวเองน่าขำเล็กน้อย ผู้ที่แข็งแกร่งเช่นนี้จะมีทางต้องตานางได้อย่างไร จะมีทางต้องตาวังมหาวาลได้อย่างไร?
“คุณชาย แล้วเมื่อปีนั้นเหตุใดท่านถึงสามารถปล่อยพลังอมตะเคล็ดวิชาในเคล็ดฟ้าดินมหาวาลของวังมหาวาลของเราได้ล่ะเจ้าคะ? หรือว่าท่านเคยฝึกวรยุทธ์นี้มาก่อนจริง ๆ ?”เสิ่นปิงหยูถามคำถามที่สงสัยในใจอย่างอดไม่ได้
“ข้าไม่เคยฝึกเคล็ดฟ้าดินมหาวาล แต่ทว่าเคยเรียนรู้แก่นแท้ของวรยุทธ์ดังกล่าวมาก่อน ทราบความเร้นลับที่อยู่ภายใน จึงสามารถปลดปล่อยออกมาได้เป็นธรรมดาอยู่แล้ว”
หลัวซิวไม่ได้อธิบายมากนัก จากนั้นเขาก็ถ่ายทอดวิชาการฝึกเคล็ดตรีภพโกลาหลให้แก่เสิ่นปิงหยู
ในส่วนของกระบี่ตรีภพนั้น ก็ต้องเก็บไว้ที่หลัวซิวก่อนอยู่แล้ว มีเพียงรอให้เสิ่นปิงหยูฝึกร่างตรีภพสำเร็จแล้ว ถึงจะสามารถควบคุมกระบี่ผงาดเลิศเล่มนี้ได้อย่างแท้จริง
“ศิษย์พี่ ท่านจะเอากระบี่ตรีภพให้นางจริง ๆ หรือ?”
เมื่อได้รับเคล็ดตรีภพโกลาหลแล้วเสิ่นปิงหยูจึงฝึกตนปิดขัง จะฝึกฐานร่างของตนให้บรรลุเป็นร่างตรีภพ และหลัวซิวก็ไม่ได้ตระหนี่วิธีการฝึกของตนเช่นกัน ให้นางฝึกตนในโลกาศุภร จะได้ลงแรงน้อยและได้ผลสูง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...