ในขณะที่ใจลอย หลัวซิวรู้สึกว่าดูเหมือนยังมีเรื่องราวอีกหลายอย่างที่ตนต้องไปจัดการ ทว่าท้ายที่สุดแล้วเขากลับเป็นตัวคนเดียวเท่านั้น ไม่สามารถแยกร่างออกเป็นหลายร่างเพื่อไปจัดการปัญหาต่าง ๆ พร้อมกัน
“ในแดนศักดิ์สิทธิ์ มีค่ายวาร์ฟล่องหนที่มุ่งหน้าไปสู่โลกเสวียนเทียน จากผลการฝึกตน ณ ปัจจุบันของเจ้า เพียงพอที่จะไปฝ่าฟันในโลกเสวียนเทียนได้แล้ว”
หลัวซิวไม่ได้แนะนำให้ฮู๋ชิงชิงล้มเลิกความคิดในการเดินตามเส้นทางในอดีตของตนแต่อย่างใด เนื่องจากทุกคนล้วนมีการตัดสินใจของตัวเอง เขาจำเป็นต้องเคารพการตัดสินใจของฮู๋ชิงชิง
ขณะที่แยกจากกัน ฮู๋ชิงชิงมองดูเงาหลังของเขาค่อย ๆ ห่างไกลออกไป ภายในดวงตาที่งดงามคู่นั้นเปี่ยมล้นไปด้วยความแน่วแน่
นางกำแหวนเก็บของไว้ในมือหนึ่งวง ซึ่งภายในแหวนเก็บของดังกล่าวมีค่ายกลฮู้ที่หลัวซิวกลั่นขึ้นมาด้วยตนเอง
เมื่อมีสิ่งของเหล่านี้คอยคุ้มกันวิถีของนาง บางทีสักวันระหว่างเขาและนางอาจจะได้พบหน้ากันในมหาโลกาพันสามอีก
“ควรออกเดินทางแล้ว……”
ไม่รู้ว่าฮู๋ชิงชิงยืนอยู่ที่นี่นานเท่าไหร่ เงาร่างของหลัวซิวหายไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว ยิ่งกว่านั้นคือมีหิมะร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้าตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
หิมะพัดโบก เงียบเหงาดุจหิมะ มีเพียงเงาร่างเดียว เงาหลังเดียว รอยยิ้มเดียว ได้ประทับไว้ในส่วนลึกของหัวใจ
ฮู๋ชิงชิงจากไปแล้ว นางมุ่งหน้าไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์ นางจะเดินตามรอยเท้าของหลัวซิวเมื่อครั้นนั้น ทลายอนัตตา มุ่งหน้าตรงไปยังโลกเสวียนเทียน
นางจะไล่ตามรอยเท้าที่หลัวซิวเคยเดิน จนกระทั่งถึงวันที่ทั้งสองได้พบหน้ากันอีกครั้ง
“หิมะตกแล้ว”
เดินเล่นอยู่ในทุ่งราบที่รกร้างว่างเปล่า จู่ ๆ หลัวซิวก็หยุดฝีเท้าลง บนแผ่นดินใหญ่นับหมื่นไมล์ ทิวทัศน์หิมะขาวโพลนงดงามแบบอธิบายไม่ถูก ทว่ากลับมีความเงียบเหงาวังเวงอย่างอธิบายไม่ถูกเช่นกัน
ทันใดนั้นเองก็มีความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้นในใจเขา ก่อนจะแหงนหน้ามองอนัตตาที่ไร้ขอบเขต
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...