ถอดผ้าคลุมหน้าลง ก่อนจะเผยให้เห็นใบหน้าที่งดงามจนเมืองล่มนั่น วินาทีนี้สภาพจิตใจฉียู่หรงแปรปรวนมาก นางไม่เคยนึกมาก่อนว่าวันหนึ่งตนเองจะได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง
“ยู่หรง!”
“ยู่หรงเจ้ายังมีชีวิตรอดอยู่หรือ!?”
ผู้อาวุโสส่วนมากที่อยู่ในห้องโถงใหญ่ต้องรู้จักฉียู่หรงเป็นธรรมดาอยู่แล้ว โดยเฉพาะชายชราสองสามคนนั่นที่เคยจงรักภักดีต่อนายท่านตระกูลฉีรุ่นก่อน พวกเขายิ่งลุกขึ้นมาด้วยสีหน้าอารมณ์ที่ตื่นเต้นดีใจ
“หลัวซิว เจ้าหมายความว่าอย่างไร? นังนี่คือผู้ที่เป็นปฏิปักษ์ต่อตระกูลฉีของข้า เจ้าจะออกหน้าแทนนางหรอ?”สีหน้าของฉีถงหั้วหม่นหมองลงพลางตวาดเสียงต่ำ
“ฉีถงหั้ว เจ้าคืออาแท้ ๆ ของข้า คือน้องชายแท้ ๆ ของท่านพ่อข้า ทว่าเมื่อปีนั้นท่านพ่อกลับถูกคนต่ำทรามหลอกลวง ไม่เห็นความทะเยอทะยานที่โฉดชั่วของเจ้า!”
หน้าอกของฉียู่หรงขึ้น ๆ ลง ๆ ความโกรธแค้นที่อยู่ในใจปะทุออกมาปานน้ำหลาก “เจ้าลอบทำร้ายท่านพ่อข้า ใช้วิธีการที่ชั่วช้าเช่นนี้เดินขึ้นไปสู่ตำแหน่งนายท่าน เจ้าว่าผู้ใดกันแน่ที่เป็นปฏิปักษ์?!”
“เหลวไหล!”
ฉีถงหั้วตะคอกอย่างเยือก “ยู่หรง ในฐานะที่เห็นว่าเจ้าเป็นสายเลือดเพียงหนึ่งเดียวของท่านพี่ข้า ข้าสามารถไม่ถือสาเอาความกับสิ่งที่เคยทำผิดมาก่อน แต่ถ้าเกิดเจ้าสมคบกับคนนอกเพื่อโค่นล้มตระกูลฉี ข้าจักเป็นคนแรกที่ไม่ยินยอม!”
“ถุ้ย! หน้าไม่อาย!”
หนิงหานยู่ทนดูต่อไปไม่ได้แล้ว ก่อนจะใช้นิ้วชี้หน้าฉีถงหั้วพลางด่า: “ไอ้คนต่ำทรามชั่วช้าไร้ยางอาย กูจะล้างแค้นเพื่อพ่อบุญธรรมกู!”
เมื่อปีนั้นนายท่านตระกูลฉีรุ่นก่อนฉีชางเหวินได้รับเลี้ยงหนิงหานยู่ที่โดดเดี่ยวไร้ที่พึ่ง ดังนั้นหนิงหานยู่ก็ถือเป็นครึ่งหนึ่งของตระกูลฉีเช่นกัน
“โอหัง!”
ฉีถงหั้วตบโต๊ะแล้วลุกพรวดขึ้นมา “สตรีผู้เป็นปฏิปักษ์อย่างพวกเจ้าทั้งสองสมคบกับคนนอก สมรู้ร่วมคิดกันกระทำการชั่ว บังอาจปากดีในตระกูลฉีของข้า นึกว่าตระกูลฉีของข้าไร้ซึ่งผู้แข็งแกร่งหรือ?”
“กูเคยเตือนมึงตั้งนานแล้ว ครั้งนี้กูไม่ได้มาเสวนากับมึง ต้องบีบบังคับให้กูลงมือกดอัดพวกมึงให้ได้เลยสินะ?”
นายท่านตระฉีผู้สง่าผ่าเผย ผู้แข็งแกร่งแดนมกุฎเทพขั้นสูง วินาทีนี้กลับถูกหลัวซิวยกอยู่ในกำมือ เหมือนดั่งลูกเจี๊ยบตัวเล็ก ๆ ที่ไม่มีแรงต่อต้านเลยแม้แต่น้อย
มีความทรงจำในอดีตของไท่ซ่างฉิง พูดได้เลยว่าหลัวซิวเข้าใจความลี้ลับของกฎดีมาก ๆ ถึงแม้แดนกฎ ณ ปัจจุบันของเขาจะอยู่แค่ระดับขั้น 6 ทว่ากลับสามารถใช้สอยกฎขั้น 6 ให้ถึงขีดสุด บวกกับร่างยุทธ์จ้าวมหาเทพที่เพิ่งเลื่อนขั้น การจะกดอัดมกุฎเทพขั้นสูงนั้นจึงเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายดั่งปอกกล้วยเข้าปาก
“บัดนี้เราสามารถเจรจากันดี ๆ ได้แล้ว”บีบคอของฉีถงหั้วเอาไว้ หลัวซิวนั่งลงบัลลังก์ของนายท่านตระกูลฉีโดยที่ไม่เกรงใจเลยแม้แต่น้อย กราดมองลงไปด้านล่าง ก้มมองทุกคนที่อยู่ภายในห้องโถง
เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันนี้เกิดขึ้นกะทันหัน ซึ่งอยู่เหนือการคาดหมายของทุกคน อย่างไรเสียที่นี่ก็เป็นอาณาบริเวณของตระกูลฉี ไม่มีผู้ใดนึกเลยว่าหลัวซิวนี่จะจองหองพองขนเช่นนี้
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้ผู้อาวุโสตระกูลฉีต่างตะลึงและหวาดหวั่นก็คือ ในฐานะที่ฉีถงหั้วเป็นนายท่าน ไม่ว่าอย่างไรก็มีผลการฝึกตนแดนมกุฎเทพขั้นสูงอยู่ แต่ผู้แข็งแกร่งเช่นนี้กลับถูกจับกุมตัวภายในพริบตา อีกทั้งยังไร้เรี่ยวแรงในการต่อต้าน สามารถพูดได้เลยว่าศักยภาพของหลัวซิวนี่น่ากลัวจนหาที่เปรียบไม่ได้จริง ๆ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
นี้ก็หายไปเป็นปีเลย แอแ...
รออ่านยุ...
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...