มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 2213

เขาสวมหน้ากากเหล็กสีดำครึ่งหนึ่งของใบหน้า และผลการฝึกฝนของเขาไม่สามารถหยั่งรู้ได้ อย่างน้อยก็อยู่ในจักรพรรดิเทพช่วงปลาย

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าชายวัยกลางคนที่สวมหน้ากากนี้น่าจะเป็นเจ้าเผ่าคนปัจจุบันของตระกูลจี้ คนทั้งสี่ที่อยู่รอบตัวเขาก็เป็นผู้อาวุโสเช่นกัน ซึ่งทุกคนมีพื้นฐานผลการฝึกฝนของจักรพรรดิเทพ

จักรพรรดิเทพหกคน?

ม่านตาของหลัวซิวหดลงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับตระกูลจี้ที่รุ่งเรืองในอดีตแล้วภูมิหลังด้านความแข็งแกร่งแบบนี้ไม่มีค่าที่จะกล่าวถึงเลย

แต่ถ้าเทียบกับมหาโลกาพันสาม แม้แต่สำนักจักรพรรดิในโลกใหญ่ก็แทบจะไม่สามารถมีการสืบทอดของจักรพรรดิเทพทั้งหกได้

แม้จะอยู่ในช่วงวิกฤตแต่ก็แข็งแกร่งกว่าอีกฝ่าย ไม่ว่าตระกูลจี้จะยากลำบากเพียงใด พวกเขาก็ยังมีมรดกตกทอดมาอย่างยาวนาน ใน มหาโลกายอดอัมพร แม้แต่หอยอดอัมพร ก็ไม่มีอะไรเทียบได้กับตระกูลจี้

เมื่อหลัวซิวเดินเข้าไปในห้องโถงใหญ่ สายตาของชายวัยกลางคนที่เป็นผู้นำก็จับจ้องมาที่เขา

“เจ้าเป็นศิษย์ของผู้อาวุโสเสวียนคงหรือไม่?” ระหว่างถาม ความแข็งแกร่งที่ทรงพลังได้หลั่งออกมาจากร่างกายของเขา

ในเวลาเดียวกัน ตัวสำนึกของเขาก็แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของหลัวซิวโดยไม่มีการปกปิดใด ๆ เมื่อเขาพบว่าผลการฝึกฝนของหลัวซิวเป็นเพียงราชาเทพขั้น 9 เขาก็อดประหลาดใจไม่ได้ เพราะเขาสามารถรู้สึกได้ แม้ว่าผลการฝึกตนของชายหนุ่มคนนี้จะไม่สูงนัก แต่ความแข็งแกร่งนั้นน่าทึ่งมาก

“ผู้น้อยหลัวซิวคารวะผู้อาวุโส” หลัวซิวก้าวไปข้างหน้าเพื่อคำนับ ในชาตินี้ เขาเป็นเพียงหลัวซิวและเขาไม่ได้มองทุกอย่างจากมุมมองของไท่ซ่างฉิง

...

ในฐานะสำนักจักรพรรดิแห่งมหาโลกายอดอัมพร การปรากฏตัวของตระกูลจี้ทำให้ศักดิ์ศรีของหอยอดอัมพรรู้สึกเหมือนถูกท้าทาย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งทันทีที่ตระกูลจี้ปรากฏตัว พวกเขาทำลายตระกูลตวนมู่อย่างรวดเร็ว ดังนั้น หอยอดอัมพรจึงไม่สามารถนิ่งอยู่เฉยๆได้

เรือรบออกเดินทางจากหอยอดอัมพร มุ่งหน้าไปยังโลกาแดนปริศนาซึ่งเป็นที่ตั้งของตระกูลจี้

การกระทำของหอยอดอัมพรได้ดึงดูดความสนใจของกองกำลังต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักจักรพรรดิจากแดนศักดิ์สิทธิ์ในโลกใหญ่อื่น ๆ ได้รวบรวมเบาะแสเกี่ยวกับตัวตนของหลัวซิว พวกเขายังได้รวมตัวกันที่มหาโลกายอดอัมพรอีกด้วย

อาจกล่าวได้ว่าการปรากฏตัวของตระกูลจี้ไม่เพียงดึงดูดความสนใจจากหอยอดอัมพรเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสำนักจักรพรรดิจากแดนศักดิ์สิทธิ์ด้วย ต่างค่อนข้างสงสัยเกี่ยวกับกองหำลังลึกลับที่ปรากฏขึ้นอย่างกระทันหันนี้

ช่องว่างอนัตตาแยกออกจากกัน นักยุทธ์ตระกูลจี้สองคนสวมชุดเกราะเดินออกมา พวกเขาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเมื่อเห็นเรือรบขนาดใหญ่คร่อมท้องฟ้าสูงอยู่ข้างนอก

“พวกเจ้าเป็นใคร มีเรื่องอะไรจึงมาตระกูลจี้ของเรา?”

ผู้คุ้มกันตระกูลจี้สองคนถามคำถามโดยไม่เกรงกลัวใดๆ

“เจ้าหอยอดอัมพรมาที่นี่ด้วยตัวเอง ให้เจ้าเผ่าตระกูลจี้รีบออกมาต้อนรับเดี๋ยวนี้!”

บนเรือรบ ผู้อาวุโสคนหนึ่งของหอยอดอัมพรตะคอกอย่างเย็นชา แผ่กระจายออร่าของผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิเทพออกมา

ผู้คุ้มกันสองคนของตระกูลจี้ที่เฝ้าทางเข้าแดนปริศนา ผลการฝึกตนมีเพียงราชาเทพเท่านั้น เมื่อเผชิญกับออร่าของผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิเทพพวกเขารู้สึกทรมาน

...

ในห้องโถงใหญ่ของตระกูลจี้หลัวซิวหยิบรังสีดาบของจี้หวูชวงออกมาอีกครั้ง ในรังสีดาบนี้มีเจตนาดาบ ซึ่งแม้ว่าเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานก็ไม่ได้ถูกลบล้างอย่างสมบูรณ์

พลังที่มีอยู่ในรังสีดาบที่ดูเหมือนไม่เด่นนี้สามารถฆ่าจ้าวมหาเทพได้อย่างง่ายดายและเป็นอันตรายต่อผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิเทพได้

เจ้าตระกูลจี้ยืนขึ้นด้วยความตกใจ ในตอนนี้ร่างกำยำสั่นเล็กน้อย

การปรากฏตัวของรังสีดาบดูเหมือนจะสะท้อนกับประติมากรรมบนจัตุรัสนอกห้องโถงใหญ่ ในขณะนี้ ประติมากรรมของสตรีที่มองขึ้นไปบนท้องฟ้าดูเหมือนจะหันศีรษะของนางมาทางนี้ จ้องมองห้องโถงใหญ่ เผยให้เห็นร่องรอยแห่งความทรงจำนิรันดร์