“จ้าวมหาเทพขั้น 1 กระจอก ๆ ก็บังอาจลงมือต่อกูอย่างนั้นหรือ?”
หลัวซิวแสยะยิ้มเยือกเย็นอย่างดูหมิ่น ก่อนจะถอดแหวนเก็บของลงมา แล้วโยนแขนที่ถูกกระชากลงมาไปข้าง ๆ อย่างสบาย
และในเวลานี้เอง ประตูของห้องพักห้องหนึ่งที่อยู่ข้าง ๆ ก็ถูกเปิดออก สตรีผู้มีนามว่าตงโหรวที่มาจากโลกาบรรพมารเดินออกมา
และตงโหรวก็ออกมาเพราะได้ยินเสียงกรีดร้องอย่างหน้าเวทนาของเผิงเล่อเสียนเช่นกัน เมื่อนางเห็นภาพเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้านี้แล้ว สีหน้าอารมณ์ก็ดูผงะไปเล็กน้อยอย่างควบคุมไม่ได้
“เทพธิดาตงโหรว รีบสังหารมันซะ มันแย่งแหวนเก็บของของข้าไป ม้วนหยกอยู่ในแหวนเก็บของ!”เผิงเล่อเสียนหยิบยาเซียนรักษาตัวออกมาหนึ่งเม็ดแล้วโยนเข้าปาก เมื่อเห็นตงโหรวปรากฏตัว เขาจึงรีบใช้ตัวสำนึกส่งเสียงพูดกับตงโหรวอย่างลุกลน
เมื่อตงโหรวได้ยินคำพูดดังกล่าว ใบหน้าอันเรียวบางที่ทำให้ทุกสรรพสิ่งลุ่มหลงนั้นก็เย็นยะเยือกลงไปภายในพริบตา กิริยาท่าทางของนางไม่มีการลังเลใจใด ๆ เลยแม้แต่น้อย เงาร่างกระพริบทีหนึ่ง แล้วปล่อยพลังฝ่ามือไปทางหลัวซิว
นางคือมหามารที่ฝึกตนมาจากจิ้งจอกฟ้าหิมาลัย ปล่อยฝ่ามือหนึ่งออกไป กฎธาตุน้ำแข็งผนึกรวม ทำให้ทั้งโรงเตี๊ยมราวกับกลายเป็นบ่อน้ำแข็ง
“อัคคีมา!”
หลัวซิวตะคอกเสียงดังลั่นคำหนึ่ง อัคคีซิวหลัวสีแดงมืดจึงผนึกรวมกันกลางฝ่ามือ ใช้กฎเพลิงอัคคีปะทะกับกฎธาตุน้ำแข็งของตงโหรว
ตู้มม!
ฝ่ามือของทั้งสองคนกระทบกันกลางอากาศที่ว่างเปล่า กฎน้ำแข็งอัคคีสองขั้วพุ่งชนกัน พายุพลังกฎที่น่ากลัวจึงม้วนซัดออกไปในทันที คลื่นพลังทะยานขึ้นฟ้า
ถึงแม้โรงเตี๊ยมแห่งนี้จะมีการคุ้มกันโดยค่ายกล ทว่าเมื่ออยู่ท่ามกลางควันหลงที่ผู้แข็งแกร่งระดับจ้าวมหาเทพต่อกรกัน ก็ไม่มีทางคงสภาพสมบูรณ์ต่อไปได้เลยด้วยซ้ำ พังทลายลงไปภายในพริบตา ทำให้เศษฝุ่นที่ละเอียดตลบฟุ้งไปทั่วทั้งท้องฟ้า
มีเงาดำทั้งหลายพุ่งออกไปจากโรงเตี๊ยมอย่างรวดเร็ว สีหน้าของคนจำนวนไม่น้อยล้วนขาวซีด มีเลือดไหลออกมาจากมุมปาก เห็นได้ชัดเจนเลยว่าได้รับบาดเจ็บจากควันหลงจากการประมือในเมื่อครู่นี้ของหลัวซิวและตงโหรว
ในขณะเดียวกัน แสงค่ายทั้งหลายก็ผสมผสานรวมกันเหนือนภาเมืองเทียนหยุน มีคนเปิดมหาค่ายคุ้มกันของเมืองเทียนหยุน จะทำการผนึกเขาเอาไว้ในคูเมืองแห่งนี้
“ส่งแหวนเก็บของของเผิงเล่อเสียนมาให้ข้า แล้วข้าจะไม่ทำให้เจ้าลำบากใจ”ตงโหรวเขม็งมองหลัวซิวด้วยใบหน้าที่เย็นชา พลางพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือก
“นึกว่าข้าคือเด็กอายุสามขวบหรือ?”
หลัวซิวแสยะยิ้มเยือกเย็นอย่างดูหมิ่น ตงโหรวนี่มีผลการฝึกตนจ้าวมหาเทพขั้น 7 ทันทีที่โจมตีก็ทุ่มสุดกำลังสามารถเลย หากเปลี่ยนเป็นผู้อื่นแล้วก็ มาตรแม้นว่าเป็นผู้แข็งแกร่งจ้าวมหาเทพช่วงกลางคนหนึ่ง เมื่ออยู่ภายใต้สถานการณ์ในเมื่อครู่นี้ถึงไม่ตายก็ต้องบาดเจ็บสาหัสแน่นอน
แต่เมื่อพบว่าลงมือโจมตีอย่างต่อเนื่องแล้วกลับไม่สามารถทำอะไรเขาได้ หญิงมารนี่ก็บอกว่าจะไม่ทำให้ตัวเองลำบากใจอีก หลัวซิวจึงต้องดูหมิ่นดูแคลนนางเป็นธรรมดาอยู่แล้ว
อีกทั้งหญิงมารคนนี้บอกแล้วว่าจะเอาแหวนเก็บของของเผิงเล่อเสียน จึงแสดงให้เห็นว่าภายในแหวนเก็บของวงนี้น่าจะมีความลับอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ ยิ่งเป็นเช่นนี้ หลัวซิวก็ยิ่งไม่มีทางส่งแหวนเก็บของออกไปแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
นี้ก็หายไปเป็นปีเลย แอแ...
รออ่านยุ...
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...