มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 232

ความโกลาหลทางนี้ ทำให้แขกคนอื่นที่ชั้นสองของร้านเหล้า พากันตกใจ คนจำนวนไม่น้อยขมวดคิ้ว มองไปด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตร

โต๊ะริมหน้าต่างที่อยู่ไม่ไกล สาวคลุมหน้านั่งอยู่อย่างสง่างาม ด้านหลังของเธอ มีผู้หญิงหน้าตาสะสวย ร่างกายบอบบางสองคน ยืนอยู่อย่างนอบน้อม น่าจะเป็นนางสนองพระโอษฐ์ของสาวคลุมหน้า

คนที่ลงมือ เป็นหนึ่งในนางสนองพระโอษฐ์

“กล้าดูหมิ่นเจ้าสำนักน้อยของเรา สมควรตาย!” นางสนองพระโอษฐ์ที่ลงมือ มีสีหน้าเย็นชา น้ำเสียงเฉยเมย

ส่วนสาวคลุมหน้าที่นั่งอยู่ กลับไม่มีท่าทีขัดขวางแม้แต่น้อย

“ลูกค้าทุกท่าน อย่าสร้างความวุ่นวายในร้านเหล้า”

ผู้ดูแลร้านเหล้า เดินเข้ามาด้วยสีหน้าอึมครึม การที่สามารถเปิดร้านเหล้า ที่ขนาดไม่เล็ก ในเมืองเทียนหวู แน่นอนว่าต้องมีเบื้องหลังที่แข็งแกร่ง

“ถอยไป!”

นางสนองพระโอษฐ์ที่ลงมือ โชว์ป้ายบัญชาการ ข้างบนสลักภาพตำหนักสีม่วง ที่ลอยอยู่ในเมฆ

เมื่อป้ายบัญชาการโชว์ออกมา คนที่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ต่างหน้าเปลี่ยนสี

ผู้ดูแลร้านเหล้า ที่มีสีหน้าอึมครึม เตรียมจะถามหาคนผิดเมื่อครู่ ไม่กล้าพูดอะไรแม้แต่คำเดียว รีบโค้งตัวถอยไป

“เป็นคนของตำหนักจื่อ”

ขณะนั้น คนบนชั้นสองในร้านเหล้า เพิ่งสังเกตเห็น หญิงสาวคนที่ลงมือ ไม่ใช่แค่นางสนองพระโอษฐ์เท่านั้น กลับมีผลการฝึกตน ที่เป็นฝึกจิตขั้น1

ซี๊ด!……

เสียงหายใจเย็นยะเยือกดังขึ้นมา ปรมาจารย์ฝึกจิต เป็นนางสนองพระโอษฐ์ แล้วสาวคลุมหน้าคนนั้น คงเป็นคนใหญ่คนโตในตำหนักจื่ออย่างไม่ต้องสงสัย

ชายวัยกลางคนที่พูดฉอดๆ เมื่อครู่ สร่างเมาทันที แต่สีหน้าซีดเหมือนตาย รู้ว่าตัวเองหาเรื่องวุ่นวายเข้าให้แล้ว

ชายวัยกลางคนกับเพื่อน มีเพียงผลการฝึกตนพรสวรรค์ขั้น5

แววตาของนางสนองพระโอษฐ์ ฉายแววเย็นยะเยือก จากนั้นแยกปราณกระบี่ธาตุไฟในมือเป็นสอง เพื่อที่จะฆ่าชายวัยกลางคนกับเพื่อน ที่ดูหมิ่นเจ้าสำนักน้อยตำหนักจื่อ

เมื่อหลัวซิวเห็นภาพตรงหน้า ก็รีบยื่นมือออกไปทันที เปลวไฟดำก่อตัวอยู่ในฝ่ามือ บีบปราณกระบี่ธาตุไฟทั้งสอง ของนางสนองพระโอษฐ์จนแหลกสลาย

“สหายท่านนี้ แค่ดื่มมากจนพูดเลอะเทอะ เธอจะลงมือฆ่าคน เกินไปหน่อยมั้ง” หลัวซิวพูดออกมาตามตรง

“นายกล้ามาก้าวก่ายเรื่องตำหนักจื่อของฉัน ไม่รู้ดีชั่ว!” นางสนองพระโอษฐ์มองมายังหลัวซิวอย่างเย็นชา

ระหว่างที่พูด นางสนองพระโอษฐ์คนนี้ก็ลงมือทันที กระบี่เล่มหนึ่งปรากฏขึ้นในมือ และพุ่งเข้ามาหาหลัวซิว

“แค่ฝึกจิตขั้น1 ธรรมดาๆ เท่านั้น ทำไมถึงกล้าอวดดี”

เสียงของหลัวซิวเย็นยะเยือก ยกมือขึ้นมาบีบกระบี่เล่มยาว ของนางสนองพระโอษฐ์ ที่พุ่งเข้ามา จากนั้นจึงใช้แรง สะบัดคนไปพร้อมกับกระบี่

นางสนองพระโอษฐ์โงนเงนถอยไปข้างหลัง บนกระบี่เล่มยาวในมือ ถูกบีบเป็นรอยนิ้ว ใบหน้าสะสวยเปลี่ยนสีทันที

สาวคลุมหน้าที่กำลังนั่งดื่มชาอยู่ หันมามองทางหลัวซิว ดวงตาสวยโดนบดบังด้วยผ้าคลุมหน้า มองไม่ออกว่ามีสีหน้าอย่างไร

“บังอาจ รู้ไหมว่าฐานะของพวกเราคืออะไร”

นางสนองพระโอษฐ์อีกคนเดินออกมา จ้องหลัวซิวอย่างเย็นชา แล้วพูดอย่างดุดัน

หลัวซิวทำเหมือนไม่ได้ยิน เขาดื่มเหล้า บีบจอกเหล้า แล้วแสยะยิ้มพูดว่า “ก็แค่ผู้หญิงต่ำต้อยเท่านั้น จะมีฐานะอะไรได้ล่ะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ