มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 233

“หลัวซิวงั้นเหรอ”

บนร้านเหล้าชั้นสอง คนจำนวนไม่น้อยมองหน้ากัน ไม่เคยได้ยินคนๆ นี้มาก่อน

แต่คนจำนวนน้อยที่รอบรู้ทั่วด้าน มีแววตาวูบไหว เคยได้ยินชื่อหลัวซิวและข่าวลือทั้งหมดเกี่ยวกับหลัวซิว

“หึ ก็แค่คนที่ไม่มีชื่อเสียงเท่านั้น กล้าบอกว่ามีที่มาที่ไปอย่างไรหรือเปล่า” สีหน้าของนางสนองพระโอษฐ์ทั้งสองคน ฉายแววไม่พอใจ

“องค์กรนักล่ายุทธ์” หลัวซิวพูดอย่างเฉยเมย แล้วเอาตรานักล่าอสูรของตัวเองออกมา

“ตลก นักยุทธ์ครึ่งหนึ่งบนโลก ล้วนมีชื่ออยู่ในองค์กรนักล่ายุทธ์ นายคิดว่าตัวเองเป็นคนมีความสามารถ ในองค์กรน่าล่ายุทธ์เหรอ” นางสนองพระโอษฐ์ทั้งสองคน มีสีหน้าเย้ยหยัน

หนึ่งในนางสนองพระโอษฐ์ เอาตรานักล่าอสูรสามดาวออกมา แสยะยิ้มแล้วพูดว่า “ฉันก็พูดได้เหมือนกัน ว่าตัวเองเป็นคนขององค์กรนักล่ายุทธ์”

“ถ้ายึดตามที่เธอพูด ฉันก็เป็นคนของแก๊งนักกลั่นยาเหมือนกันน่ะสิ”

หลัวซิวไม่สนใจ เอาตราปรมาจารย์กลั่นยาระดับ4 ออกมาด้วยสีหน้าราบเรียบ แล้วใส่ไว้ตรงหน้าอก

“ปรมาจารย์กลั่นยาระดับ4 งั้นเหรอ” เมื่อเห็นตราอันนี้ ชั้นสองของร้านเหล้า มีเสียงตกใจดังขึ้นมา

ตราปรมาจารย์กลั่นยาระดับ4 ใหญ่กว่าตรานักล่าอสูรสี่ดาว ที่แฝงไปด้วยทองเยอะมาก

“เหอะๆ น่าสนใจนี่”

ทันใดนั้น สาวคลุมหน้าหัวเราะออกมา เสียงแสนไพเราะ “คิดไม่ถึงว่าในประเทศเล็กๆ อย่างประเทศเทียนหวู จะมีคนมีความสามารถโดดเด่นอย่างท่านชาย ได้ยินว่าเมื่อหนึ่งปีก่อน มีผู้มีความสามารถ ฝ่าฟันเข้าไปในหอคอยมังกรบินชั้นที่ 7 คิดว่าจะเป็นท่านชายสินะ”

ขณะพูด สาวคลุมหน้ามองไปยังหลัวซิว “แต่ท่านชายล่วงเกินคนของตำหนักจื่อ ต้องระวังตัวแล้วล่ะ”

เมื่อได้ยิน สีหน้าของหลัวซิวอึ้งเล็กน้อย “เธอไม่ใช่คนของตำหนักจื่อเหรอ”

ผู้หญิงต่ำต้อยทั้งสองคนเรียกตัวเองว่าคนของตำหนักจื่อ แต่ฟังจากคำพูดของสาวคลุมหน้า ราวกับเจ้านายอย่างเธอ ไม่ใช่คนของตำหนักจื่อ

“พวกเธอมาจากตำหนักจื่อจริงๆ แต่ฉันไม่ใช่” สาวคลุมหน้าพูดช้าๆ และไม่ได้อธิบายอะไรมาก

จากนั้นสาวคลุมหน้า ก็มองผู้หญิงต่ำต้อยทั้งสองคนด้วยแววตาเย็นชา พูดตำหนิอย่างเฉยเมยว่า “ถาวโจว่จวิ้นส่งพวกเธอมา ทางที่ดีพวกเธอทำตามหน้าที่ อย่าหาเรื่องใส่ตัว ไม่งั้นต้องรับผลที่ตามมาเอง”

ผู้หญิงต่ำต้อยทั้งสองคนโดนตำหนิ ต่างพากันก้มหน้า ไม่กล้าโต้เถียง จากนั้นจึงถอยไปด้านหลังสาวคลุมหน้าอย่างนอบน้อม แต่สายตาที่มองหลัวซิว ยังมีความอาฆาตอย่างชัดเจน

“ลาก่อนท่านชาย หวังว่าจะมีโอกาสได้พบกันอีก”

สาวคลุมหน้าลุกขึ้นช้าๆ ยิ้มบางๆ ให้หลัวซิว และเดินไปทางบันไดทันที

หลัวซิวไม่ได้สัมผัสถึงเจตนาร้าย จากตัวของสาวคลุมหน้า อีกทั้งอีกฝ่ายยังเตือนให้เขาระวังตำหนักจื่อ ดังนั้นเขาจึงเอามือขึ้นมาทำความเคารพ

หลังพวกสาวคลุมหน้าออกไป ชั้นสองของร้านเหล้า ยังเต็มไปด้วยความเงียบ สายตาของคนจำนวนไม่น้อย มองหลัวซิวเหมือนมีอะไร แววตาสับสน

ชายวัยกลางคนที่เกือบจะโดนฆ่าก่อนหน้านี้ ถอนหายใจยาวออกมา

“สหายท่านนี้ มาคุยกันหน่อยได้ไหม” หลัวซิวมองคนนั้น แล้วเอ่ยขึ้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ