หลงหมิงด่าอยู่ภายในใจ รู้ว่าหลัวซิวได้ขับเคลื่อนตราสำนึก ทำให้วิญญาณหยั่งรู้ของมันเจ็บปวด
วินาทีที่การเชื่อมต่อระหว่างพลังแห่งปริภูมิถูกตัดขาด ร่างสีขาวเงินของมันก็ได้ปรากฏขึ้นมา และถูกหลัวซิวบีบคอเอาไว้ทันที
ภายใต้การเผาผลาญของเพลิงมรณะ ทำหลงหมิงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด
จากนั้นไม่นาน เสียงร้องของหลงหมิงก็อ่อนแรงลงเรื่อย ๆ ราวกับงูสีขาวเงินที่ไร้ลมหายใจตัวหนึ่ง ถูกหลัวซิวถือเอาไว้ในมือ
หลัวซิวสีหน้าไร้ความรู้สึกใด ๆ สายตาจับจ้องมังกรไร้ร่างที่อยู่ในมือตนนี้อย่างเย็นชา เผยให้เห็นไอสังหารที่เฉียบคม
“ข้าผิดไปแล้ว อย่างเผาอีกเลย เผาต่อไปข้าต้องตายแน่!” หลงหมิงร่ำร้องอย่างอ่อนแรง ภายใต้การแผดเผาของเพลิงมรณะ เจ็บปวดแทบเป็นแทบตาย
“เจ้ารู้ไหมว่าเมื่อครู่เจ้าเกือบทำให้ข้าต้องตาย?” หลัวซิวยิ้มอย่างเยือกเย็น และไม่ได้เก็บเพลิงมรณะบนฝ่ามือลง
“ข้าไม่กล้าอีกแล้ว......” หลงหมิงขอร้องอ้อนวอน
“ถ้าหากมีครั้งต่อไป ข้าจะขับเคลื่อนตราสำนึก ทำให้เจ้าวิญญาณแตกสลาย!” หลัวซิวกล่าวเตือนอย่างเย็นชา จากนั้นก็ทิ้งหลงหมิงลงไปบนพื้น
หลงหมิงทรุดตัวลงกับพื้น ด่าตัวเองอยู่ภายในใจว่าทำไมต้องหาเรื่องปีศาจร้ายผู้นี้ ถ้าไม่ใช่เพราะหาเหาใส่หัวโดยการแอบเข้าไปขโมยหินสัจธรรมในสำนักไท่เสวียนเมื่อห้าหมื่นปีที่แล้ว ก็คงไม่ต้องถูกกักขังไว้ที่วังใต้ดินในแดนนานาอสูรจนเกือบสิ้นอายุขัยและตายอยู่ในนั้น
“อำนาจเหนือกว่ามนุษย์ ตอนนี้ท่านชายหลงเป็นมังกรเกยตื้น จะเก็บความอัปยศนี้เอาไว้ก่อนแล้วกัน!”
“ข้าท่านชายมังกรยืดได้หดได้ ปล่อยให้เจ้าอวดดีไปก่อน จะต้องมีสักวันที่ข้ายืนหยัดขึ้นมาได้อีกครั้ง”
ภายในใจของหลงหมิงเต็มไปด้วยความโกรธแค้น แต่กลับไม่กล้าแสดงออกมาเลยแม้แต่น้อย
หลัวซิวเองก็รู้ว่าหลงหมิงนั้นเป็นผู้แข็งแกร่งในสมัยโบราณ เพราะการบีบบังคับในตอนนั้นถึงได้ยินยอมปลูกตราสำนึกและติดตามตน ความจริงแล้วนั้นได้ขัดขืนมาโดยตลอด คิดจะแว้งกัดตนในทุกครั้งที่มีโอกาส หลุดพ้นจากการถูกควบคุม
แต่หลัวซิวเชื่อว่า ขอเพียงให้เวลาที่มากพอกับเขา ไม่ช้าก็เร็วความเย่อหยิ่งของตระกูลมังกรโบราณของมันจะถูกกำจัดออกไปอย่างหมดสิ้น สำหรับเรื่องที่คิดจะมีผลการฝึกตนที่เหนือกว่าตนเองและหลุดพ้นจากการควบคุมนั้น หลัวซิวจะต้องไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน
“อย่าแกล้งทำเป็นนอนตายอยู่บนพื้น นี่เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย เข้าใจหรือยัง?” หลัวซิวกล่าวอย่างเย็นชา
หลงหมิงพยักหน้าอย่างรวดเร็ว จากบทเรียนในครั้งนี้ มันก็ได้เข้าใจแล้วว่าปีศาจร้ายผู้นี้ไม่อาจหาเรื่องได้ง่าย ๆ ตนทำได้เพียงใช้ชีวิตที่น่าเศร้าโดยการเป็นเบี้ยล่างของผู้อื่นต่อไป
หลังจากที่ได้ตระหนักรู้ห้วงยุทธ์มรณะ ไอมรณะที่แผ่ซ่านอยู่ในที่แห่งนี้ก็ไม่สามารถขัดขวางใด ๆ หลัวซิวได้อีกต่อไป
ห้วงดาบมรณะนี้ได้ผ่านพ้นกาลเวลามาอย่างน้อยห้าหมื่นปี สามารถอยู่รอดมาวนถึงวันนี้ได้ เห็นได้ว่าผู้ที่เป็นเจ้าของนั้นจักต้องเป็นผู้แข็งแกร่งแห่งโลกยุทธ์ที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
หลังจากที่ได้เดินผ่านพื้นที่ที่ถูกปกคลุมไปด้วยห้วงยุทธ์มรณะมา ปราณหยินที่หนาแน่นก็ได้พุ่งเข้ามากระทบใบหน้า นอกจากนี้แล้วปราณหยินนี้บริสุทธิ์เป็นอย่างยิ่ง ทำให้เขารู้สึกเหมือนว่าผลการฝึกตนของตนนั้นกำลังจะทะลวงขั้น
“เจ้าคุ้มกันให้ข้า!”
หลัวซิวกล่าวกับหลงหมิงหนึ่งประโยค จากนั้นก็นั่งขัดสมาธิลง และเริ่มซึมซับกลั่นแปรฝึกฝนปราณหยินบริสุทธิ์ที่อยู่ ณ ที่นี้
กลั่นแปรปราณหยินบริสุทธิ์เช่นนี้ ผลของการฝึกตนเมื่อเทียบกับพลังฟ้าดินจิตแล้วนั้น ต่างกกันราวฟ้ากับดิน
ผลการฝึกตนของหลัวซิวเพิ่มขึ้นอย่างไม่ขาดสาย ผ่านไปไม่นานนัก กระแสพลังที่แข็งแกร่งกว่าได้แผ่ซ่านออกมาจากร่างกายของเขา ผลการฝึกตนได้บรรลุถึงแดนฝึกจิตขั้น 6
“ให้ตายเถอะ เจ้าคนเหนือมนุษย์มนาผู้นี้ได้บรรลุอีกแล้ว......” เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังจิตแท้ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเคลื่อนไหวอยู่บนร่างกายของหลัวซิว หลงหมิงก็คร่ำครวญอยู่ภายในใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...