ลิ่งฮู๋จื่อเซวียนมีมารดาเตาผืนทอง ชีชีมีขิมเก้าบรรเลงอาดูร เมื่อยึดกุมสิ่งล้ำค่าระดับนี้ในแดนจ้าวมหาเทพ ก็สามารถต่อกรกับจักรพรรดิเทพได้แล้ว
“แฮะ ๆ แค่บังเอิญโชคดีบรรลุเท่านั้นเอง”ลิ่งฮู๋จื่อเซวียนหลีกเลี่ยงคำถามหลักแล้วตอบกลับอย่างถ่อมตัว ไม่ได้พูดถึงคำถามนี้มากเท่าไหร่นัก
แต่หลัวซิวกลับสามารถคาดเดาได้คร่าว ๆ ว่าตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ เขาและชีชีน่าจะได้รับโอกาสบางอย่างจากสถานที่อื่น มิเช่นนั้นไม่มีทางที่จะบรรลุถึงแดนจ้าวมหาเทพเร็วเช่นนี้
แน่นอนอยู่แล้วว่าลิ่งฮู๋จื่อเซวียนและชีชีก็ไม่มีทางปฏิบัติต่อหลัวซิวเหมือนจอมยุทธ์มกุฎเทพคนหนึ่งเช่นกัน ระหว่างทั้งสองฝ่าย ดูเหมือนเป็นมิตรสหายที่คุ้นเคยกันมาก ๆ ทว่าแท้จริงแล้วต่างระมัดระวังซึ่งกันและกันอยู่
“ท่านชายหลัว ที่เราเดินทางมาในครั้งนี้ เพราะอยากเชื้อเชิญท่านชายให้ไปตามหาตำหนักไท่ซ่างเทียนหย่งพร้อมกัน”
หลังจากพบหน้ากัน นี่ก็เป็นครั้งแรกเช่นกันที่ชีชีเป็นฝ่ายเอ่ยปากพูดก่อน อีกทั้งทันทีที่พูดก็พูดตรงเข้าประเด็นเลย ไม่มีการอ้อมค้อมใด ๆ
“ใช่แล้ว สหายหลัว ข้าและชีชีมีเศษใจแห่งศุภรสามชิ้น เจ้ามีสองชิ้น เช่นนี้ก็สามารถไปตามหาตำหนักไท่ซ่างเทียนหย่งได้พอดีแล้ว”ลิ่งฮู๋จื่อเซวียนก็รีบพูดตามเช่นกัน
สาเหตุที่เลือกตามหาหลังจากผลการฝึกตนบรรลุถึงจ้าวมหาเทพแล้วนั้น ก็ต้องเป็นเพราะเช่นนี้มีโอกาสสำเร็จมากกว่า อย่างไรเสียตำหนักไท่ซ่างเทียนหย่งนั่นก็เป็นโบราณสถานที่ผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิเทพระดับเก้าคนหนึ่งทิ้งไว้ ทันทีที่ประสบพบภยันตรายอะไรละก็ ในเมื่อศักยภาพยิ่งแข็งแกร่ง โอกาสในการอยู่รอดจึงยิ่งมากอยู่แล้ว
แน่นอนอยู่แล้วว่ารวมไปถึงภยันตรายที่จะดับสลายสูญสิ้นอยู่ภายในเช่นกัน แต่เมื่อย่างกรายลงเส้นทางแห่งการฝึกยุทธ์ เช่นลิ่งฮู๋จื่อเซวียน ชีชีหรือหลัวซิว ต่างจะไม่ทอดทิ้งการตามหาโชคโอกาสเพียงเพราะเกรงกลัวภัยอันตราย
“ข้าก็คิดเช่นนี้พอดี แล้วไม่ทราบว่าทั้งสองจะออกเดินทางเมื่อใดหรือ?”หลัวซิวก็ไม่ได้ลังเลใจเช่นกัน พยักหน้าตอบตกลงทันที
“ออกเดินทางให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้น่ะดีที่สุดอยู่แล้ว”ลิ่งฮู๋จื่อเซวียนยิ้มพลางตอบกลับ
ทั้งสามคนบรรลุข้อตกลง ดังนั้นลิ่งฮู๋จื่อเซวียนจึงเรียกเรือรบออกมาหนึ่งลำ เขาและชีชีนั่งบนเรือรบลำเดียวกัน ส่วนหลัวซิวกลับไม่ได้ตามขึ้นไป แต่เป็นการเรียกอสูรดูดจิตออกมา ก่อนจะนั่งท่าขัดสมาธิลงเหนือศีรษะอสูรดูดจิต
“เหอะ ๆ เรื่องนี้ข้ามีการเตรียมการไว้ตั้งนานแล้ว”ลิ่งฮู๋จื่อเซวียนหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะพลิกมือหยิบฮู้สีทองหนึ่งชิ้นออกมา
“ฮู้ทลายผนึก?”เมื่อหลัวซิวเห็นฮู้ชิ้นนี้ รูม่านตาก็หดลงอย่างควบคุมไม่ได้
“โอ๊ะ? สหายหลัวก็รู้จักฮู้ทลายผนึกด้วยหรือ?”ลิ่งฮู๋จื่อเซวียนมองเขาด้วยสายตาที่แปลกใจรอบหนึ่ง มาตรแม้นว่าอยู่ในโลกมหาศักดิ์ทั้งแปด ฮู้ทลายผนึกก็เป็นสิ่งที่หายากมาก ๆ
หลัวซิวพยักหน้าแล้วตอบกลับ: “เล่ากันว่าฮู้ทลายผนึกสามารถทลายผนึกทั้งปวง การตัดขาดจากโลกภายของแดนเทวนิรันกาลก็ถูกปกคลุมโดยผนึกประเภทหนึ่งเช่นกัน บางทีฮู้ทลายผนึกอาจจะมีผลจริง ๆ”
“ข้าก็หวังว่ามันจะมีผลเช่นกัน ข้าต้องแลกเปลี่ยนกับราคาที่สูงมากเชียวนะ ถึงจะได้ครอบครองฮู้ชิ้นนี้ อีกทั้งใช้งานได้เพียงสองครั้งเท่านั้น ซึ่งสามารถทำให้เราเข้าไปและออกมาได้พอดี”
ลิ่งฮู๋จื่อเซวียนหัวเราะแล้วพูด: “ข้าเป็นผู้เสนอฮู้ทลายผนึก ไม่ว่าอย่างไรสหายหลัวก็ต้องชดเชยหน่อยหรือไม่? หรือว่าหลังจากเจอตำหนักไท่ซ่างเทียนหย่งแล้ว จักให้ข้าเลือกสมบัติที่พบเจอภายในก่อนหนึ่งชิ้น?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
นี้ก็หายไปเป็นปีเลย แอแ...
รออ่านยุ...
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...