จักรพรรดิเทพเทียนหย่งนั่นคือผู้แข็งแกร่งระดับใด? ระดับของโอสถแก่นแท้ที่นางทิ้งไว้นั้นต้องสูงมากแน่นอน หากเป็นโอสถแก่นแท้ระดับเก้า ต่อให้มีเพียงล้านกว่าเม็ด มันก็เป็นสมบัติที่ไม่สามารถประมาณค่าได้แน่นอน
และทั้งหมดที่พวกเขามองเห็น เป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของตำหนักไท่ซ่างเทียนหย่งเท่านั้น!
“สหายหลัว นำเศษใจศุภรของเจ้าออกมาด้วยสิ”ลิ่งฮู๋จื่อเซวียนรีบพูด
ชีชีหยิบเศษใจศุภรออกมาเอง ง้างมือเขวี้ยงทีหนึ่ง เศษใจศุภรชิ้นนั้นก็บินเข้าไปในร่องบนบานประตู ถัดจากนั้นบานประตูที่มืดครึ้มก็ค่อย ๆ เปิดออกอีกเล็กน้อย
หลัวซิวก็ไม่ลังเลใจเช่นกันนำเศษใจศุภรออกมาฝังลงบานประตู หลังจากเศษใจศุภรทั้งห้าชิ้นฝังลงบานประตูเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็มีรัศมีที่แวววาวจับตาถึงขีดสุดแย้มบานออกมาจากประตูใหญ่ที่มืดครึ้มในตอนแรกภายในพริบตา มีพลังเกณฑ์เวลาที่ลึกลับและมหัศจรรย์ถึงขีดสุดแผ่กระจายออกมา
ภายใต้การแผ่คลุมจากเกณฑ์เวลา หลัวซิวรู้สึกว่าเวลาไหลผ่านไปรวดเร็วมาก ราวกับเพียงเสี้ยววินาทีเดียวก็ล่วงเลยไปหลายศักราชแล้ว ทว่าก็รู้สึกเหมือนเวลาไหลย้อนกลับด้วย ราวกับตนกลับไปถึงเมื่อหลายร้อยล้านปีก่อน ตนไม่ใช่หลัวซิว แต่เป็นไท่ซ่างฉิง……
ไม่เพียงแค่หลัวซิวเท่านั้น ลิ่งฮู๋จื่อเซวียนและชีชีก็ต่างเป็นเฉกเช่นเดียวกัน ในเกณฑ์เวลาที่กว้างใหญ่จนไม่อาจคาดได้ พวกเขาที่มีผลการฝึกตนเพียงเทพมารระดับสี่ก็เล็กน้อยมากประดุจมดตัวจ้อย
“ไท่ซ่างฉิง......”
ในช่วงเวลาที่เลือนราง หลัวซิวรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงกระซิบกระซาบของสตรีนางหนึ่ง ถัดจากนั้นร่างกายเขาก็หายวับไปจากหน้าประตูใหญ่บานนี้ภายในพริบตา
ไม่รู้ดำเนินการไปนานเท่าไหร่ หลังจากพลังเกณฑ์เวลาค่อย ๆ สลายหายไป ลิ่งฮู๋จื่อเซวียนและชีชีก็ตื่นขึ้นมากะทันหัน พบว่าประตูใหญ่มืดครึ้มบานนั้นหายไปแล้ว และปรากฏเป็นเส้นทางหนึ่ง
“หื้ม? เจ้าหลัวซิวนั่นล่ะ?”ลิ่งฮู๋จื่อเซวียนกวาดตามองดูรอบ ๆ พบว่าจู่ ๆ หลัวซิวก็หายตัวไป
“บางทีเขาอาจจะเข้าไปแล้ว”ชีชีขมวดคิ้วลงเล็กน้อย พลางคาดเดา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...