หลัวซิวรู้อยู่ว่าความคิดนี้ของตัวเองมันบ้าคลั่งไปหน่อย อย่างไรเสียกาลเวลาในช่วงนั้นมันก็ยาวนานมากเกินไปแล้ว ถึงแม้เขาจะมีความสามารถในย้อนเวลา แต่การที่สามารถสืบสาวกลับไปถึงเมื่อหลายร้อยปีก่อนนั้นก็ถือเป็นขีดจำกัดแล้ว การที่จะหวนย้อนกลับไปไม่รู้ตั้งกี่ยุคตรีภพนั้น อย่าว่าแต่เขาเลย แม้แต่ผู้แข็งแกร่งที่ฝึกเกณฑ์เวลาถึงเทพมารระดับเก้าก็ทำไม่ได้เช่นกัน
โลหิตแห่งชิงเทียนคือหินหยกกายสิทธิ์อย่างไร้ข้อสงสัย ถึงแม้จะไม่แน่ใจว่าซูอี้เฉินได้รับข่าวคราวนี้มาจากที่ใด ผู้แข็งแกร่งอย่างชิงเทียนนั้น ถึงแม้จะเป็นเลือดธรรมดา ๆ หนึ่งหยดบนตัว แต่ก็มีพลังและความล้ำลึกที่ไม่อาจจินตนาการได้แฝงซ่อนอยู่เช่นกัน
และวิชาก่อเกิดกายที่ตระหนักรู้ได้จากเศษหนังสือยุทธภัณฑ์ ก็ต้องการสมบัติประเภทนี้มาทำให้พลังร่างเนื้อแข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน หากสามารถครอบครองมัน หลัวซิวมั่นใจว่าตัวเองสามารถพัฒนาขึ้นอีกขั้นได้ ฝึกร่างยุทธ์จักรพรรดิเทพให้สำเร็จ หรือร่างยุทธ์เทพมารระดับห้านั่นเอง!
“หลัวซิว?”
และในเวลานี้เอง ก็มีแสงกลดวงหนึ่งบินตรงมา ภายในเวลาชั่วลมหายใจเดียวเท่านั้น แสงดังกล่าวก็ปรากฏตรงหน้าหลัวซิว ก่อนที่มันจะกลายเป็นชายหนุ่มที่รูปร่างหล่อเหลาคนหนึ่ง
หลัวซิวหันหน้ากลับไปมอง สายตาร่วงลงบนตัวชายหนุ่มคนนั้น คนดังกล่าวมีนามว่าเซียวจื้อหยวนซึ่งเป็นผู้สืบทอดของตำหนักเสินหยูแห่งโลกาวิหารเทว
แตกต่างจากพระโอรสจ้านเทียน มู่จื่อเซียวและฟางห้าวหยู ชื่อเสียงของเซียวจื้อหยวนไม่โด่งดังตลอดมา ถูกตำหนักเสินหยูบ่มเพาะมาอย่างลับ ๆ ไม่ว่าจะเป็นพรสวรรค์สติปัญญา หรือผลการฝึกตนศักยภาพ ล้วนไม่ด้อยกว่าพวกพระโอรสจ้านเทียนเลย
เซียวจื้อหยวนก็ทราบเช่นกันว่าสาเหตุที่ตำหนักเสินหยูไม่ให้เขาปรากฏตัวในวงสังคมนั้น ทำเพื่อเป็นการปกป้องเขา ถึงแม้จะออกไปสั่งสมเก็บเกี่ยวประสบการณ์ด้านนอกก็ล้วนปิดบังตัวตนตลอดมา ไม่ให้ผู้อื่นทราบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...
ตอนใหม่ยังไม่ลงเลยครับ...