หลัวซิวคิดว่าความเร็วในการฝึกตนของตนนั้นเป็นที่น่าตกตะลึงแล้ว คิดไม่ถึงว่าปี้เซียนเสว่จะก้าวหน้าได้มากกว่าเขาเสียอีก
ครุ่นคิดอยู่สักพัก หลัวซิวก็เข้าใจแล้วว่าทำไมปี้เซียนเสว่ถึงได้บรรลุสองระดับแดนเล็กได้ภายในหนึ่งเดือน
ด้านหนึ่งคือได้หลุดพ้นจากการควบคุมของราชวงศ์ตระกูลฝาน ทำให้สภาวะจิตใจของนางผ่อนคลาย ไม่ต้องคอยหวาดระแวงอย่างเมื่อก่อน และความแตกต่างของสภาวะจิตใจเช่นนี้ มีผลกระทบต่อการฝึกตนไม่น้อย
ส่วนอีกด้านหนึ่งนั้น นั่นก็เป็นเพราะร่างแห่งเสวียนหยินของปี้เซียนเสว่ และได้ซึมซับพลังหยินสุดขั้วจากหินหยินเพื่อฝึกตน ประสิทธิภาพเพิ่มเป็นสองเท่า บวกกับที่นางฝึกพลังจิตแท้เป็นหลัก ไม่ได้ฝึกวรยุทธ์กลั่นร่างและกลั่นวิญญาณเพิ่มเติม เป็นธรรมดาที่ผลการฝึกตนจะรุดหน้าอย่างรวดเร็ว
ไม่ต้องพูดถึงว่าผลการฝึกตนได้เพิ่มขึ้นมากเพียงใด บนความแข็งแกร่งโดยรวม ในระยะเวลาหนึ่งเดือน หลัวซิวนั้นได้เพิ่มขึ้นกว่านางอีกมาก
ผ่านไปอีกครู่หนึ่ง ปี้เซียนเสว่ก็ได้ตื่นขึ้นมาจากการฝึกตน ในตอนที่ลืมตาขึ้นมา ได้เห็นหลัวซิวกำลังเดินออกมาจากถ้ำด้านในพอดี
ผลการฝึกตนบรรลุติดต่อกันสองระดับแดนเล็ก ทำให้ปี้เซียนเสว่ทั้งตกในทั้งดีใจ ในขณะเดียวกันนั้นก็ยิ่งรู้สึกขอบคุณหลัวซิวอย่างมาก เพราะนางทราบดีว่า ถ้าหากไม่มีหลัวซิว อย่าว่าแต่ผลการฝึกตนบรรลุเลย โชคชะตาจะต้องอนาถถึงเพียงใด ไม่อาจจะจินตนาการได้จริง ๆ
นางอยากจะเอ่ยคำขอบคุณกับหลัวซิว แต่หลายวันมานี้ แค่คำของคุณนั้นก็ได้กล่าวออกไปหลายครั้งแล้ว ถ้าหากพูดมากจนเกินไป กลับจะทำให้คุณค่าและความสำคัญของการขอบคุณในบุญคุณนี้ลดลง
ดังนั้นปี้เซียนเสว่จึงได้ลุกขึ้นมา และแสดงความเคารพต่อหลัวซิวอย่างจริงใจ และสัญญากับตัวเองว่า ไม่ว่าตนจะสามารถทะลวงพันธนาการกักขังจากวิชาสยบวิญญาณได้หรือไม่ นางก็จะใช้ชีวิตของตนมาตอบแทนบุญคุณนี้ของหลัวซิว ต่อให้ต้องตาย ก็จะไม่ลังเล
หลัวซิวไม่รู้ว่าในใจของปี้เซียนเสว่กำลังคิดอะไรอยู่ สำหรับเขาแล้ว ช่วยปี้เซียนเสว่เอาไว้เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย ยิ่งไปกว่านั้นถ้าไม่ใช่เพราะปี้เซียนเสว่ได้บอกเรื่องวิชาสยบวิญญาณกับเขา เขาคงไม่รู้ถึงความน่ารังเกียจและความต่ำช้าของราชวงศ์ตระกูลฝาน
“ฮ่า ๆ ข้าท่านชายหลงก็ได้ฟื้นฟูถึงแดนผู้ฝึกจิตแล้ว! คราบใดที่ฟื้นฟูถึงระดับราชายุทธ์ จากนั้นก็ระดับจักรพรรดิยุทธ์ ข้าท่านชายหลงก็จะสามารถหลุดพ้นจากการควบคุมของวิชาสยบวิญญาณได้แล้ว และเล่นงานเจ้าเสีย!
หลงหมิงได้กลืนกินยาที่หลัวซิวมอบให้จนหมด แต่ก็ยังคงรู้สึกไม่เต็มที่ แต่ผลการฝึกตนพลันฟื้นฟูมามากขนาดนี้ มันก็ค่อนข้างดีอกดีใจ
อันที่จริงในตอนที่หลัวซิวให้ยากับมัน ก็ได้คำนวณดูก่อนแล้วว่ายาเหล่านั้นสามารถทำให้มันฟื้นฟูพลังมาถึงแดนฝึกตนขั้น 4 มากสุดไม่สูงไปกว่าแดนฝึกตนขั้น 6
“เซียนเสว่ เจ้ารู้จักแดนปริศนาดีแค่ไหน?” หลัวซิวเอ่ยถาม
ก่อนหน้านี้ปี้เซียนเสว่ได้ถูกราชวงศ์ตระกูลฝานลงวิชาสยบวิญญาณควบคุม แดนปริศนาแห่งนี้อยู่ในเงื้อมมือของราชวงศ์ตระกูลฝานเป็นเวลานับพันปี น่าจะรู้รายละเอียดยิ่งกว่า
“ราชวงศ์ตระกูลฝานเองก็รู้เรื่องเกี่ยวกับแดนปริศนาไม่มากนัก เพราะสถานที่ที่ถูกส่งเข้ามาในแต่ละครั้งนั้นไม่เหมือนกัน ต่อให้มีคนได้วาดแผนที่ แล้วนำออกไปก็ไม่มีที่ใดเหมือนกับเมื่อก่อนเลย”
ปี้เซียนเสว่ส่ายหน้า กล่าว: “แต่ว่าแดนปริศนามีเอกลักษณ์อยู่อย่างหนึ่ง ก็คือยิ่งเดินลึกเข้าไป อัตราในการพบเจอสมบัติและโอกาสก็ยิ่งมากขึ้น และมีมูลค่าสูงกว่า”
ในส่วนลึกของแดนปริศนา ในเทือกเขาสีดำที่ทอดยาวออกไปหลายร้อยลี้ นักยุทธ์ห้าสิบกว่าคนรวมตัวกันอยู่ที่นี่
ในบรรดานักยุทธ์เหล่านี้ ส่วนใหญ่เป็นชายหนุ่มและหญิงสาววัยรุ่น ผู้ที่มีผลการฝึกตนในแดนฝึกจิตนั้นเจ็ดขึ้นไปนั้นมีน้อยมาก ต่างเป็นยอดฝีมือรุ่นเก่าที่กองกำลังต่าง ๆ ส่งเข้ามา
แดนปริศนาได้เปิดมาหนึ่งเดือนกว่าแล้ว เกือบทุกคนต่างเดินสำรวจจากบริเวณรอบนอกและมุ่งหน้าเข้าสู่ส่วนลึกของแดนปริศนา
และในเวลานี้ เกือบทุกคนต่างมารวมกันอยู่ที่นี่ นั่นก็เป็นเพราะได้ปรากฏม่านค่ายกลขึ้นที่ด้านหน้าอยู่หลายแห่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...