สรุปตอน บทที่ 2612 – จากเรื่อง มหายุทธ์ สะท้านภพ โดย หลงเซียว-มังกรคำราม
ตอน บทที่ 2612 ของนิยายประวัติศาสตร์เรื่องดัง มหายุทธ์ สะท้านภพ โดยนักเขียน หลงเซียว-มังกรคำราม เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับการควบคุมและยึดกุมค่ายกลของนักค่ายเทพนั้น สิ่งที่อาศัยคือวิกล ผลการฝึกตนและตัวสำนึก
ในธงค่ายนับพันที่จัดวางอยู่รอบภูเขาถูหลิงมีลายค่ายและยันต์ค่ายสลักอยู่ทุกผืน ซึ่งล้วนมาจากเงื้อมมือหงหวู้ เพราะฉะนั้นภายในธงค่ายเหล่านั้นล้วนมีตราประทับของเขาแฝงซ่อน อีกทั้งมีผลการฝึกตนและตัวสำนึกของเขาผนึกรวมกันอยู่ด้วย
ฉะนั้นแทบจะภายในเวลาเสี้ยวความคิดเดียวเท่านั้น หงหวู้ก็ระดมพลังธงค่ายนับร้อย ลายค่ายและยันต์ค่ายที่นับไม่ถ้วนตัดสลับรวมกัน กลายเป็นค่ายพิฆาต จิตสังหารที่มากมายมหาศาลจนไม่อาจคาดเดาได้ตลบฟุ้งไปทั่วฟ้าดิน
“มหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิ ท่านชายซิวหลัว ไม่นึกเลยว่าพวกเจ้าถึงขั้นร่วมมือกันแล้ว แต่พวกเจ้าก็ถือดีมากเกินไปแล้ว ถึงกับบุกเข้ามาในค่ายกลของข้า ต่อให้พวกเจ้าจะมีสามเศียรหกกร วันนี้ก็อย่าคิดว่าจะหนีรอดออกไปได้!”
หงหวู้มีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม แม้นผลการฝึกตนของเขาจะเป็นเพียงมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้นปฐมภูมิ แต่เมื่ออาศัยพลังธงค่ายนับพัน มาตรแม้นว่าเผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิยุทธ์ช่วงปลาย เขาก็สามารถต่อกรได้
หลัวซิวทำเสียงหึอย่างเยือกเย็นทีหนึ่ง หันไปมองสนามรบฝั่งลาร์และมหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิรอบหนึ่ง แม้จะเป็นสองต่อสาม แต่ศักยภาพของลาร์และมหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิต่างเกะกะระรานมาก พวกเขาทั้งสองเป็นฝ่ายที่ได้เปรียบโดยสมบูรณ์เลย
จุดประสงค์ของพวกบรรพอาจารย์แสงดาวก็คือถ่วงลาร์และมหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิเอาไว้ ขอแค่ช่วงชิงเวลาให้หงหวู้อีกระยะ ทันทีที่พลานุภาพของธงค่ายนับพันถูกระดม ก็จะสามารถปราบปรามคู่ต่อสู้ทั้งปวงได้
แต่หลัวซิวกลับไม่ให้โอกาสหงหวู้ได้ทำเช่นนั้น ตัวสำนึกของเขาม้วนซัดมาอย่างมืดฟ้ามัวดิน ถึงแม้ตัวสำนึกของเขาจะอยู่แค่ระดับจ้าวมหาเทพขั้นสูง แต่เนื่องจากฝึกจนบรรลุเป็นญาณเทวแล้ว อันที่จริงระดับตัวสำนึกของเขาแข็งแกร่งกว่าของหงหวู้ไม่เพียงหนึ่งระดับเท่านั้น
คนหนึ่งได้เปรียบด้านระดับขั้น ส่วนอีกคนหนึ่งได้เปรียบด้านคุณภาพ ด้านตัวสำนึกของหลัวซิวสามารถต่อกรกับหงหวู้ได้โดยสมบูรณ์เลย มากกว่านั้นคือเขาเหนือชั้นกว่าด้วย
ตู้มม!
เมื่อปีนั้นหลัวซิวก็ได้รับเศษฎีกาค่ายเช่นกัน แต่ทว่าวิชาฎีกาค่ายของเขาอยู่เหนือฎีกาค่ายดั้งเดิมแล้ว เพราะเขาอ้างอิงจากเศษฎีกาค่าย แล้วใช้วิถีไร้ลักษณ์ทำให้มันสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น จนอนุมานวิกลที่เป็นของตัวเองออกมา
“นี่มันเป็นไปไม่ได้! ……”
สีหน้าของหงหวู้เปลี่ยนไปกะทันหัน การที่ตัวสำนึกและผลการฝึกตนของฝ่ายตรงข้ามสามารถอยู่ในระดับที่สูสีกับตัวเองได้นั้น ก็ทำให้เขารู้สึกแปลกใจมาก ๆ แล้ว แต่ไม่นึกเลยว่าฝ่ายตรงข้ามจะสามารถกดอัดวิกลของตนได้เช่นกัน นี่จึงทำให้หงหวู้คิดอย่างไรก็คิดไม่ถึง
ตั้งแต่แดนวิถีค่ายกลบรรลุถึงระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์เป็นต้นมา เขามั่นใจว่าในมหาโลกาพันสามนี้ ตนต้องเป็นอันดับหนึ่งในด้านวิถีค่ายกลสมคำกล่าวขานอย่างแน่นอน หลัวซิวนี่เพิ่งฝึกตนมาแค่กี่ปีเอง? เขาจะมีทางเก่งกาจถึงขั้นนี้ได้อย่างไร?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
Good...
ทำไมอ่านต่อไม่ได้...
นี้ก็หายไปเป็นปีเลย แอแ...
รออ่านยุ...
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...