ตอน บทที่ 2641 จาก มหายุทธ์ สะท้านภพ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 2641 คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายประวัติศาสตร์ มหายุทธ์ สะท้านภพ ที่เขียนโดย หลงเซียว-มังกรคำราม เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
บรรดาสตรีก็มิได้เกลี้ยกล่อมอีก เพราะพวกนางต่างรู้จักนิสัยของหลัวซิวเป็นอย่างดี เมื่อเขาตัดสินใจแล้ว ก็จะไม่เปลี่ยนใจง่าย ๆ อย่างแน่นอน
ยิ่งกว่านั้นที่หลัวซิวพูดมาก็เป็นความจริง นอกจากเขา เผ่าจี้ก็ไม่มีใครสามารถขัดขวางซือถูเซิ่งเจี๋ยผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิยุทธ์ช่วงกลางคนนี้ได้อีก
ตอนเดินออกมาจากแดนปริศนาเผ่าจี้ หลัวซิวได้เผาผลาญพลังและเลือดเป็นที่เรียบร้อย เปลวไฟสีแดงเลือดสูงหลายจั้งเผาผลาญลุกโชนไปทั่วร่างกาย
ผมของเขาเองก็ถูกย้อมเป็นสีแดงเลือด เป็นเหมือนดั่งอสูรอาบเลือดที่มาจากขุมนรก ไอสังหารไร้สิ้นสุด
ห้วงดาราที่อยู่ห่างออกไป เป็นสนามรบอันมโหฬารที่ไม่ได้พบเห็นมานานนับหมื่นปี จอมยุทธ์นับไม่ถ้วนประจัญบานกัน ฆ่าฟันอย่างโหดร้าย ที่มาร่วมศึกในครั้งนี้ไม่ใช่แค่ผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิเทพ และมหาจักรพรรดิยุทธ์ แม้แต่ศิษย์ระดับต่ำอย่างจ้าวมหาเทพ มกุฎเทพ หรือแม้กระทั่งราชาเทพก็ยังได้เข้าร่วมการศึกด้วย
ร่างไร้วิญญาณร่างแล้วร่างเล่าร่วงหล่นจากฟากฟ้า ตกลงในฝุ่นละออง ท้องฟ้าและพื้นดินถูกย้อมไปด้วยเลือด สถานการณ์ทั้งโหดร้ายและยิ่งใหญ่ ทำให้คนทอดถอนใจ
ในตอนที่หลัวซิวพุ่งเข้าหาซือถูเซิ่งเจี๋ยเพียงลำพัง บรรดาผู้คนในแดนปริศนาเผ่าจี้เองก็พุ่งเข้าไปเช่นเดียวกัน ไม่มีผู้ใดสามารถหลีกเลี่ยงศึกในคราวนี้ได้ แม้แต่จี้จู่คนปัจจุบันอย่างยู่เอ๋อร์ ก็ยังต้องออกรบกับศัตรูด้วยตนเอง
“หลัวซิว แม้ว่าเจ้าจะเชี่ยวชาญกฎชีวิตและสามารถเผาผลาญพลังและเลือดเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งได้ แต่ถึงอย่างไรผลการฝึกตนของเจ้าก็ยังต่ำจนเกินไป เผาผลาญพลังและเลือดก็เพิ่มขึ้นมาได้ถึงระดับจักรพรรดิเทพช่วงปลายเท่านั้น ไม่มีทางที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของข้าอย่างแน่นอน” ซือถูเซิ่งเจี๋ยก้มต่ำมองหลัวซิว โดยไม่ปิดบังความอาฆาตที่อยู่ในดวงตาเลยสักนิด
“เจ้าบอกไม่ใช่หรือว่ายังมีวิธีการอยู่อีกมากมาย? วันนี้ข้าจะให้โอกาสเจ้า มีความสามารถอะไรก็ใช้ออกมาให้หมด ไม่เช่นนั้นทันทีที่ข้าลงมือ เจ้าคงไม่มีโอกาสอีกแล้ว”
ระหว่างที่พูด ซือถูเซิ่งเจี๋ยก็ยกมือกวัก ภูเขาเซียนดึกดำบรรพ์ลอยมากลางอากาศ นักยุทธ์ผู้ใดก็ตามที่ขวางอยู่ถูกภูเขาเซียนดึกดำบรรพ์กระแทกเบา ๆ ก็แตกสลายกลายเป็นผุยผง ไร้ซึ่งร่างกาย
ภูเขาเซียนดึกดำบรรพ์ลอยอยู่เหนือศีรษะของซือถูเซิ่งเจี๋ย อาวุธเทพระดับเจ็ดที่มีอานุภาพเลิศล้ำ ขับเคลื่อนด้วยผลการฝึกตนมหาจักรพรรดิยุทธ์ช่วงกลางของซือถูเซิ่งเจี๋ย ถึงขั้นแสดงอานุภาพที่สามารถสังหารผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิยุทธ์ช่วงปลายออกมาได้
ได้ยินเช่นนั้น หลัวซิวก็หลุดหัวเราะ คิดไม่ถึงว่าซือถูเซิ่งเจี๋ยจะพูดคำพูดแบบนี้ออกมาได้ เขามีความมั่นใจเต็มเปี่ยม หรือสมองมีปัญหากันแน่?
ทันใดนั้นเอง ปริภูมิก็สั่นสะท้านขึ้นมา รูปปั้นของจี้หวูชวงหายไปจากลานทันที วินาทีต่อมาก็ได้เกิดระลอกคลื่นขึ้นมาที่ข้างกายหลัวซิว เงาร่างของสตรีในชุดกระโปรงยาว ใบหน้าเย็นชานางหนึ่งปรากฏขึ้น
เป็นรูปลักษณ์ของจี้หวูชวงนั่นเอง รูปปั้นคืนชีพ กลายเป็นรูปร่างของนาง ทำให้หลัวซิวรู้สึกคุ้นเคยและห่างเหิน
คุ้นเคย นั่นเพราะเขารู้จักกับจี้หวูชวง ห่างเหิน นั่นเพราะนี้เป็นเพียงรูปปั้น ส่วนจี้หวูชวงนั้นได้สิ้นชีพไปนานแล้ว แม้จะไปเกิดใหม่ ก็อาจจะเป็นเหมือนดั่งเขา ไม่ใช่ตนเองคนเดิมอีกต่อไป
“ใครน่ะ!?” ซือถูเซิ่งเจี๋ยที่นั่งอยู่บนเกี้ยวลุกพรวดขึ้นมา วินาทีที่สตรีข้างกายหลัวซิวนางนั้นปรากฏตัวขึ้นมา ก็ทำให้เขาสัมผัสถึงกลิ่นอายของความอันตราย ถึงขนาดที่ว่าทำให้เขาเสียวสันหลังวาบขึ้นมา
ด้วยแดนแห่งการฝึกตนของเขาจะไม่มีความรู้สึกแบบนี้ได้โดยง่าย ทว่าตอนนี้กลับมีความรู้สึกเช่นนี้ขึ้นมา ซึ่งก็หมายความว่า สตรีนางนี้มีความสามารถเพียงพอที่จะสร้างอันตรายให้เขาได้!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
Good...
ทำไมอ่านต่อไม่ได้...
นี้ก็หายไปเป็นปีเลย แอแ...
รออ่านยุ...
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...