มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 267

กู้เค่ออานรู้ว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลัวซิว เขารีบเอายันต์หยกมาบีบจนสลาย และโยนไปด้านหลัง

ตู้ม!

เห็นคลื่นสีทองกระเพื่อมด้วยตาเปล่า เหมือนน้ำในแม่น้ำทะลัก โถมเข้ามาหาหลัวซิว

ยันต์โจมตีระดับ5!

เพื่อเอาชีวิตรอด กู้เค่ออานไม่คิดจะต่อกรกับเขา เขาใช้ยันต์โจมตีระดับ5 ทันที

ยันต์โจมตีระดับ5 เหมือนกัน แต่เพราะในยันต์หยก สลักค่ายกลไม่เหมือนกัน รูปแบบการโจมตีที่ออกมาก็แตกต่างกัน

ถ้าไม่ใช่เพราะตัวสำนึกกับพลังจิตแท้ โดนควบคุมที่ทางเดินในด่านที่สอง หลัวซิวเดาว่าตอนที่กู้เค่ออานกับซือโคงสวี่ที่ตายไป คงใช้ยันต์โจมตีระดับ5 ลอบโจมตีไปแล้ว

แต่เพราะยันต์ต้องกระตุ้นด้วยพลังจิตแท้ ไม่สามารถใช้ในทางเดินด่านที่สอง ไม่งั้นถ้าเกิดเรื่องไม่คาดฝัน ไม่แน่หลัวซิวอาจโดนพวกเขาลอบโจมตีจนตาย

เมื่อคิดได้เช่นนี้ ความโกรธในใจหลัวซิวพลุ่งพล่าน และพูดในใจว่าตัวเองยังประมาทเกินไป เจอบทเรียนมามากมาย ยังให้คนอื่นฉวยโอกาสได้

พูดถึงตรงนี้ บนโลกนี้ใจคนอันตราย จนไม่รู้จะป้องกันอย่างไร

“ฆ่าด้วยกระบี่เดียว!”

เมื่อเจอพลังยันต์โจมตีระดับ5 หลัวซิวก็ใช้หนึ่งในกระบวนท่าที่ตัวเองเก่งกาจที่สุด จากนั้นก็หมุนพลังแปรเสวียนเทียน 24 เท่า

แสงกระบี่ดำยาวกว่าสิบฟุต สั่นสะเทือนในอากาศ บดทุกสิ่งทุกอย่าง แหวกคลื่นน้ำกระเพื่อมสีทอง และปะทะเข้าด้วยกัน

เสียงระเบิดดังขึ้นในอุโมงค์มืดอย่างต่อเนื่อง คลื่นน้ำกระเพื่อมสีทองที่กระตุ้นมาจากยันต์พลังโจมตีระดับ5 หลัวซิวฟันจนกระจายในกระบี่เดียว แต่คลื่นน้ำกระเพื่อมสีทองที่แตกกระจาย กลับไม่สลายหายไป กลับกลายเป็นแสงสีทองนับไม่ถ้วน พุ่งเข้าไปหาหลัวซิว

ขณะเดียวกัน กู้เค่ออานใช้โอกาสนี้ หนีมาถึงปากทางเข้าถ้ำ แค่ผ่านม่านแสงค่ายกลไปได้ ก็จะรอดออกไปแล้ว

“ฮ่าๆ คนแซ่หลัว นายฆ่าซือโคงสวี่ รอให้ออกไป ต้องเจอการตามฆ่าของสองอำนาจใหญ่ อย่างสำนักเสวียนหยางกับสำนักฉางเหออย่างแน่นอน!” กู้เค่ออานหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

“สลายวิญญาณ!”

ขณะที่กู้เค่ออานกำลังจะผ่านม่านแสงค่ายกลไป หลัวซิวใช้พลังก่อรวมวิญญาณ แสดงวิชาลับสลายวิญญาณออกมา

พรึ่บ! พรึ่บ! พรึ่บ!......

ตอนกำลังใช้วิชาลับสลายวิญญาณ หลัวซิวก็โดนแสงสีทองนับไม่ถ้วนพุ่งเข้ามาใส่ แต่ละแสงแฝงไปด้วยพลังรุนแรง ร่างกายร่างยุทธ์สูงสุด ที่ถึงขีดสุด ทะลุเป็นรู ทิ้งรูเลือดเอาไว้บนตัวเขา น่าตกใจเป็นอย่างมาก

พลังจิตแท้สองระดับความเป็นตาย กลายเป็นพลังแห่งชีวิต เห็นได้ด้วยตาเปล่าว่ารูเลือดบนตัวหลัวซิว เริ่มสมานกันอย่างรวดเร็ว

ขณะนั้น ด้านนอกถ้ำปริศนาโบราณ นักยุทธ์หลายสิบคน ที่ลองเข้าไปในถ้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่า ต่างหน้าเปลี่ยนสี

เพราะมีคนกระเด็นออกมาจากม่านแสงที่ปากถ้ำ เสียงหล่นตุ้บลงบนพื้น ไม่มีลมหายใจสักนิด

มีคนเข้าไปตรวจสอบ รู้จักคนที่กระเด็นออกมาจากถ้ำ เป็นกู้เค่ออาน อัจฉริยะของสำนักเสวียนหยาง หนึ่งในสามอำนาจใหญ่!

นี่ทำให้ยอดฝีมือจำนวนมากที่อยู่ตรงนี้ ถึงกับตกใจ พวกเขาไม่ได้เข้าไปในถ้ำ ไม่รู้ว่ากู้เค่ออานเจออะไรข้างในนั้น

แต่ไม่นาน ก็เกิดความโกลาหลขึ้น เพราะถึงกู้เค่ออานตายไปแล้ว แต่บนตัวยังมีแหวนเก็บของ ในนั้นมีทรัพย์สินที่ทำให้ใครก็หวั่นไหว

อุโมงค์มืดภายในถ้ำ หลัวซิวได้ยินความเคลื่อนไหวข้างนอก แต่ไม่ได้ออกไปตรวจสอบดู เว้นเสียแต่เขาจะฆ่าทุกคนให้หมด ไม่งั้นขืนออกไป จะกลายเป็นฆาตกรที่ฆ่ากู้เค่ออาน

“สมบัติบนตัวกู้เค่ออาน ที่ต้านทานการจู่โจมวิญญาณได้ ดูเหมือนระดับจะไม่สูง” หลัวซิวคิดในใจ

จากที่กู้เค่ออานสามารถผ่านสำนักนั้นไปได้ สมบัติป้องกันวิญญาณชิ้นนั้น น่าจะต้านทานตัวสำนึกโจมตี ระดับราชายุทธ์ขั้น1 ได้

ส่วนหลัวซิวใช้ประโยชน์จากแสงดำในสำนัก ฝึกตัวสำนึกของตัวเอง จนถึงราชายุทธ์ขั้น2 สามารถทำลายการป้องกันของสมบัติ ฆ่าวิญญาณหยั่งรู้ของกู้เค่ออานได้

เทียบกับตัวสำนึกราชายุทธ์ขั้น2 ฝึกจิตขั้น6 บนตัวกู้เค่ออาน ไม่มีพลังต้านทานแม้แต่น้อย

เมื่อหลัวซิวกลับเข้ามาตรงปากทางเดินด่านสอง ปี้เซียนเสว่รออยู่ที่นี่แล้ว

หลงหมิงไม่ได้หลอมรวมร่างกายกับพื้นที่ว่าง ตัวมังกรยาวเกือบสิบเมตร ขดตัวอยู่อีกด้าน แววตามังกรเป็นประกายวูบไหว ไม่รู้กำลังคิดอะไรอยู่

พวกหุ่นเชิดสองข้างทาง กลับไปอยู่ในสภาพเดิม เมื่อมีคนเข้าไปในทางเดิน พวกเขาจะฟื้นคืนชีพ ขัดขวางผู้บุกรุก

ทางเดินนี้ยาวแค่ไหน มองไปไม่เห็นปลายทาง เมื่อตัวสำนึกเข้าไปในเขตทางเดิน ก็จะโดนควบคุม

ส่วนเรื่องของหลงหมิง ปี้เซียนเสว่ไม่ได้สอบถาม เธอสนใจแค่หลัวซิวกลับมาอย่างปลอดภัยเท่านั้น

“กำจัดคนที่ขวางมือขวางเท้าไปแล้ว เราเริ่มต่อไปได้แล้ว”

หลัวซิวยิ้มบางๆ ครั้งนี้เขาเดินข้างหน้า หลงหมิงรับหน้าที่ดูหลัง ปี้เซียนเสว่ยังคงอยู่ตรงกลางระหว่างสองคน

เมื่อเข้ามาในทางเดิน หุ่นเชิดฟื้นคืนชีพ พวกนักค่ายกลในสมัยโบราณ มีร่างกายแข็งแรงบึกบึน อีกทั้งเมื่อเข้าไปลึกของทางเดิน พลังของหุ่นเชิดก็ยิ่งแข็งแกร่ง เริ่มแรกเป็นร่างยุทธ์สูงสุดขั้นต้น จนกระทั่งร่างยุทธ์สูงสุดขั้นปลาย

โชคดีที่ทางเดินเส้นนี้ไม่กว้างเกินไป หลัวซิวกับหลงหมิง แค่ต้องเผชิญกับการโจมตีของหุ่นเชิด 4-5 ตัว ในเวลาเดียวกัน

ใช้เวลาเกือบหนึ่งวัน ปลายทางเดินปรากฏให้เห็นในสายตา ตอนนี้หลัวซิวกับหลงหมิงดูเหนื่อยล้า เนื้อตัวเต็มไปด้วยบาดแผล

“โอ๊ย เกล็ดมังกรของข้า!”

เกล็ดมังกรบนตัวหลงหมิง หายไปหลายสิบแผ่น คราบเลือดสีแดงที่ไหลออกมา มีแสงสีเงินสลัวๆ

หางมังกรของมันสะบัด หุ่นเชิดสองสามตัวโดนฟาดจนกระเด็น จากนั้นมีหุ่นเชิดพุ่งเข้ามาอีก ไม่กลัวตายสักนิด

กรงเล็บมังกรอันแหลมคม ฉีกหุ่นเชิดตัวหนึ่งเป็นชิ้นๆ แต่ไม่นานก็มีแสงสว่างขึ้นมา หุ่นเชิดที่แตกออกเป็นชิ้นๆ ก่อตัวขึ้นมาใหม่ และพุ่งเข้ามาต่อ

กระบี่ยุทธ์ชั้นกลางในมือหลัวซิวก็ฟันจนบิ่น เสื้อคลุมยาวดำบนตัว ก็ขาดหลุดรุ่ย เลือดเลอะเต็มไปหมด

แต่สภาพของเขาดีกว่าหลงหมิงเยอะ เพราะเมื่อเขาบาดเจ็บ วงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพในจุดตันเถียน จะหมุนเวียนพลังแห่งชีวิต รักษาอาการบาดเจ็บของเขาโดยอัตโนมัติ

อยู่ในทางเดิน แม้พลังจิตแท้จะโดนควบคุม จนไม่สามารถใช้งานได้ แต่การหมุนเวียนอัตโนมัติ ของวิชาวงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพ กลับไม่โดนการควบคุมจากที่นี่สักนิด

ตู้ม!

กระบี่เดียว ทำให้หุ่นเชิดสามตัวข้างหน้ากระเด็นออกไป หลัวซิวเหวี่ยงปี้เซียนเสว่ที่อยู่ด้านหลังออกไปจากเขตทางเดินแห่งนี้

จากนั้นเขากับหลงหมิง ตามกันพุ่งออกมาจากทางเดิน รูปปั้นหุ่นเชิดด้านหลัง ก็ชะงักการกระทำไป และเดินไปยืนสองข้างทางเดิน กลับสู่ความสงบนิ่งอีกครั้ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ