“ตึ้บบ!”
กำปั้นของหลัวซิวไม่มีท่าทีที่จะหยุดลงเลยแม้แต่น้อย ร่างกายของเปียนหยวนจี๋ก็ระเบิดแตกภายในพริบตา กลายเป็นหมอกเลือดกลุ่มหนึ่ง ตายอย่างสิ้นซาก
ส่วนคำพูดข่มขู่ของเปียนหยวนจี๋นั้น หลัวซิวไม่ได้เก็บมาใส่ใจเลยด้วยซ้ำ
อันที่จริงจะว่าไประหว่างเขาและเปียนหยวนจี๋ไม่ได้มีความเกลียดแค้นอะไรต่อกัน หากถูกลิขิตไว้แล้วว่าทั้งสองต้องมีฝ่ายหนึ่งต้องตาย เช่นนั้นก็พูดได้แค่ว่าเปียนหยวนจี๋มาขวางทางเดินเขาเอง
เดิมทีที่เขาเดินทางมาเส้นทางดาราหวูซินนั้น แค่อยากรำลึกถึงสหายเก่า แล้วบังเอิญทราบข่าวคราวเบาะแสของทายาทสหายเก่า หากเขาไม่ทราบเรื่องก็แล้วไป ในเมื่อเขาทราบ แล้วจักนิ่งดูดายได้อย่างไรเล่า?
ประมุขดาราหวูซินเป็นหนึ่งในมิตรสหายอันน้อยนิดของเขาเมื่อชาติปางก่อน บางทีเขาอาจจะไม่สามารถลงมือช่วยทายาทเขาสร้างสำนักหวูซินขึ้นมาใหม่ แต่การที่จะทำให้ทายาทของเขาควบคุมพสุดาราหวูซินผืนนี้นั้น เขาก็สามารถทำได้อยู่
พสุดาราหวูซินในปัจจุบันสูญเสียไปลมปราณเซียนแล้ว จึงไม่มีทางมีผู้แข็งแกร่งอะไรมุ่งหวังต่อพสุดาราหวูซิน เขาแค่ต้องกวาดล้างกองกำลังที่เป็นกบฏบนผืนแผ่นดินนี้ แล้วทิ้งอุบายไพ่เด็ดให้เขาเล็กน้อย ก็สามารถทำให้ทายาทของหวูซินยืนหยัดปักหลักปักฐานอยู่ที่นี่ได้แล้ว
ณ ตำแหน่งที่อยู่ต่ำกว่าพื้นดินตำหนักหลักเมืองหลายพันเมตร ที่นี่มีห้องลับที่แข็งแรงสร้างอยู่หนึ่งห้อง มีชายที่หุ่นร่างกำยำคนหนึ่งกำลังนั่งท่าขัดสมาธิอยู่ภายในห้องลับ ดูดและพ่นสารพลังจิตออกมาอย่างต่อเนื่อง ข้างกายมีโอสถแก่นแท้และกรองแก้วมรกตดั้งเดิมกองอยู่เป็นจำนวนมาก
ซึ่งคนดังกล่าวก็คือเจ้าเมืองเมืองหวูซินนั่นเอง สามารถพูดได้เลยว่าเขาเป็นคนที่ค่อนข้างฉลาดคนหนึ่ง จากไม่มีอะไรเลยจนค่อย ๆ เรืองรองขึ้นมาทีละก้าว กลายเป็นคนใหญ่คนโตที่เป็นหนึ่งไม่เป็นสองรองผู้ใดในพสุดาราหวูซิน
พสุดาราหวูซินไม่มีเทพมารระดับแปด ยิ่งกว่านั้นคือน้อยมากที่ผู้แข็งแกร่งเทพมารระดับเจ็ดยินดีที่จะหยุดฝึกตนอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ส่วนมากล้วนเป็นผู้ที่หยุดอยู่ในแดนเทพมารระดับเจ็ด ไม่มีความหวังที่จะบรรลุสู่เทพมารระดับแปด
ทว่าเปียนหยวนสงกลับไม่คิดเช่นนั้น เขาทราบอยู่ว่าเมื่ออาศัยพรสวรรค์และศักยภาพของตัวเอง หากมุ่งหน้าไปยังสถานที่ฝึกตนที่ดีเลิศกว่านี้ อนาคตต้องสามารถบรรลุสู่แดนเทพมารระดับแปดได้อย่างแน่นอน แต่เมื่ออยู่สถานที่อื่น กลับไม่มีทางได้มีตำแหน่งที่ดีเลิศอย่างพสุดาราหวูซิน เนื่องจากยิ่งเป็นสถานที่ที่สภาพแวดล้อมดี ผู้แข็งแกร่งก็ยิ่งมีมาก
ฉะนั้นเปียนหยวนสงจึงเลือกที่จะอยู่ในพสุดาราหวูซิน เมื่ออยู่ที่นี่เขาจะเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งที่สมคำเลื่องลือ ไม่มีผู้ใดสามารถขัดต่อความต้องการของตนเอง มากสุดก็แค่ต้องใช้เวลานิดหน่อย ตนก็สามารถฝึกตนถึงแดนเทพมารระดับแปดได้เช่นกัน
ระยะเวลาหลักร้อยปีได้ผ่านพ้นไปแล้ว เปียนหยวนสงรู้สึกว่าอีกแค่ก้าวเดียวตนก็จะประสบความสำเร็จแล้ว แต่สิ่งที่เขาคิดไม่ถึงคือขณะที่อยู่ในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของการปิดขัง จะมีเรื่องราวที่น่าทึ่งเกิดขึ้นกับตำหนักหลักเมือง มีคนบุกรุกเข้ามาแล้วทำตัวเอิกเกริกยิ่งใหญ่บนอาณาบริเวณของเขา!
นี่จึงทำให้เปียนหยวนสงรู้สึกโกรธเกรี้ยวอย่างยิ่ง เขาเป็นผู้แข็งแกร่งที่ไร้เทียมทานอยู่บนพสุดาราหวูซินมาหลายแสนปีแล้ว ยังไม่เคยมีผู้ใดบังอาจท้าทายอำนาจของเขามาก่อน
อย่างไรก็ตาม เปียนหยวนสงกลับไม่ได้รีบออกไปเป็นเวลาแรก เนื่องจากเขายิ่งอยู่ยิ่งเข้าใกล้ขอบประตูแห่งการบรรลุแล้ว ขอแค่ผลการฝึกตนของเขาสามารถบรรลุเป็นเทพมารระดับแปด ไม่ว่าผู้ที่บุกรุกเข้ามาในตำหนักหลักเมืองจะเป็นคนประเภทใด ก็มีเพียงต้องตายสถานเดียวเท่านั้น
เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าฝ่ายตรงข้ามจะเป็นผู้แข็งแกร่งเทพมารระดับแปด พสุธาห้วงดาราแห่งหนึ่งที่แม้แต่เทพมารระดับเจ็ดยังไม่อยากอยู่ แล้วจะมีผู้แข็งแกร่งเทพมารระดับแปดมาที่นี่ อีกทั้งยังตีเข้ามาในตำหนักหลักเมืองได้อย่างไรเล่า?
แต่ทว่าทันใดนั้นเอง ก็มีออร่าความโกรธเกรี้ยวที่ทรงพลังอย่างยิ่งระเบิดออกมาจากตัวเปียนหยวนสง
“หยวนจี๋!”
เขาตะคอกด้วยความโกรธเกรี้ยวคำหนึ่ง ไม่สนใจเลยด้วยซ้ำว่าตนอยู่ในช่วงเวลาสำคัญที่จะบรรลุแล้ว พลังออร่าที่แข็งแกร่งทลายชั้นดินหินที่หนาแน่น เขาพุ่งขึ้นมาจากห้องลับที่อยู่ลึกลงไปหลายพันเมตรแล้วทะยานขึ้นฟ้าโดยตรง
ความโกรธเกรี้ยวที่ไร้ขอบเขตอัดแน่นอยู่ในจิตใจเขา พลังออร่าอันน่ากลัวและผลการฝึกตนอันแข็งแกร่งที่ไม่อาจควบคุมได้แผ่กระจายออกมา ทำให้ทุกคนที่อยู่ในเมืองหวูซินล้วนขนหัวลุกซู่!
ณ มุมซ่อนเร้นมุมหนึ่งที่อยู่ห่างไม่ไกลจากตำหนักหลักเมือง สีหน้าของเจ้าหอเฉว่ซ่าที่ปกคลุมอยู่ในชุดคลุมยาวสีเลือดเปลี่ยนแปลงไปอย่างตะลึง “เปียนหยวนสงบรรลุแล้วหรือ?”
พลังออร่านี้แข็งแกร่งกว่าเปียนหยวนสงในอดีตมากอย่างแน่นอน ซึ่งอยู่สูงกว่าเทพมารระดับเจ็ดขั้นสูงแล้ว
“ไม่ใช่สิ เขายังไม่บรรลุ ทว่าก็ขาดอีกเพียงเสี้ยวเดียวแล้ว!”
เจ้าหอเฉว่ซ่าแหงนหน้าเบิ่งมองออกไป ศักยภาพของเปียนหยวนสงแข็งแกร่งมากกว่าเดิม ซึ่งนี่มันไม่ใช่เรื่องดีสำหรับเขาเลย
แต่ทว่าจากสถานการณ์ ณ ปัจจุบัน ก็มีเพียงเปียนหยวนสงเท่านั้นที่สามารถโค่นล้มเจ้าหลัวซิวนั่นได้
สิงห์เดือดถูกสังหาร เสือเดือดบาดเจ็บสาหัส เจ้าจวนกู่หยุนและเปียนหยวนจี๋ก็ต่างตายไปแล้ว เขาจู่โจมครั้งหนึ่งแต่ไม่สำเร็จ จึงเลือกที่จะหลบหนีออกมาเป็นเวลาแรก หากเปียนหยวนสงยังไม่ปรากฏตัวอีกละก็ เขาก็ทำได้เพียงออกจากเมืองหวูซินแล้วล่ะ
“โครมคราม……”
ทันใดนั้นเอง เมฆครึ้มที่ไร้ขอบเขตก็ปกคลุมท้องฟ้าทั้งเมืองหวูซิน สายฟ้าทั้งหลายผ่าสลับไปมาอยู่ตรงขอบฟ้า แสงอัสนีดั่งมังกร ระยิบระยับอย่างยิ่ง แวววาวจับตาถึงขีดสุด
“ทัณฑ์สายฟ้าพิโรธ?”
ทุกคนล้วนแหงนหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยความสงสัย แต่ก็ค้นพบอย่างรวดเร็วว่าออร่าทัณฑ์สายฟ้าพิโรธได้ผนึกไปยังเปียนหยวนสง
ภายใต้การกระตุ้นจากไฟโกรธที่ล้นหลาม เปียนหยวนสงที่ยังห่างจากเทพมารระดับแปดอีกเสี้ยวหนึ่งในตอนแรก ถึงขั้นทลายประตูแห่งกฎเกณฑ์ได้ในเวลานี้
“แคว็ก!”
หลัวซิวใช้มือทั้งสองข้างหักคอเสือเดือด ก่อนจะโยนศีรษะที่ท่วมเต็มไปด้วยเลือดออกไป
แววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยจิตสังหารที่ไร้ขอบเขตของเปียนหยวนสงร่วงลงบนตัวเขา “มึงเป็นคนฆ่าน้องชายกูหรือ?”
สำหรับหลัวซิวแล้ว ทัณฑ์สายฟ้าก็คือกำลังภายนอกประเภทหนึ่งที่สามารถใช้มาชุบร่างเนื้อ เขาไม่เพียงไม่หลบหลีก ในทางตรงกันข้ามกลับเดินเข้าไปหามันเอง
“ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! ......”
แสงอัสนีทั้งหลายผ่าลงบนตัวหลัวซิว ทว่าเสี้ยววินาทีที่แสนอัสนีเหล่านี้สัมผัสกับร่างกายเขา ก็จะหายวับไปภายในพริบตา มีเสียงที่ดังสะเทือนเลื่อนลั่นดังก้องอยู่ในร่างกายเขาอย่างต่อเนื่อง
สีหน้าของเปียนหยวนสงเปลี่ยนไปอย่างมาก เขานึกไม่ถึงเลยว่าคนดังกล่าวจะเหิมเกริมเช่นนี้ ถึงขั้นกล้ากลั่นแปรพลังทัณฑ์สายฟ้ามาชุบร่างเนื้อ หรือว่าสิ่งที่เขาฝึกคือวิชากลั่นร่างชั้นสุดยอด? เขาก็เคยได้ยินมาก่อนเช่นกันว่ามีเพียงอาศัยวิชากลั่นร่างชั้นสุดยอด ถึงจะสามารถอาศัยพลังทัณฑ์สายฟ้ามาชุบให้ร่างยุทธ์ร่างเนื้อของตัวเองแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
ในขณะที่เปียนหยวนสงกำลังรู้สึกตะลึงอยู่นั้น หลัวซิวก็ลงมือโจมตีแล้ว เปียนหยวนสงยังข้ามผ่านทัณฑ์สายฟ้าไม่สำเร็จ แต่ผลการฝึกตนของเขากลับทลายประตูแห่งกฎเกณฑ์ของเทพมารระดับแปดแล้ว ถึงแม้จะเพิ่งบรรลุสู่เทพมารระดับแปด มันก็ไม่ใช่สิ่งที่เทพมารระดับเจ็ดสามารถเทียบเคียงได้ เพราะฉะนั้นหลัวซิวจึงไม่มีการออมมือเลยแม้แต่น้อย ปลดปล่อยหมัดจ้านเทียนออกไปอย่างสุดกำลังสามารถ
จิตสังหารและปณิธานรบอันไร้ขอบเขตที่มากมายมหาศาลพรั่งพรูออกไป อนัตตาบริเวณรอบ ๆ ถูกฉีกกระชาก แสงอัสนีสาดกระเด็น
“ช่างเป็นพลังอมตะที่แข็งแกร่งยิ่งนัก!”
สีหน้าของเปียนหยวนสงเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย หอกยุทธ์สีแดงเลือดในมือทิ่มแทงเข้าไปจนเสียงดังสะเทือนเลื่อนลั่น แสงหอกเฉียบคมมากจนไม่อาจต้านทานได้ ทลายห้วงหมัดของหลัวซิว อีกทั้งแสงหอกยังรวมกันเป็นกระบวนท่าสังหาร ม้วนซัดไปทางหลัวซิวพร้อมกับเสียงคำราม
“ต่อให้มึงจะมีพลังอมตะที่ทรงพลังมาก แต่ผลการฝึกตนระหว่างมึงกับกูกลับมีช่องกว้างที่ไม่สามารถก้าวข้ามผ่านไปได้กั้นอยู่!”
เปียนหยวนสงแสยะยิ้มอย่างเยือกเย็น อาศัยข้อได้เปรียบทางผลการฝึกตน เขามั่นใจมากว่าผู้ที่อยู่ต่ำกว่าเทพมารระดับแปด ไม่มีผู้ใดเป็นคู่ต่อสู้ของตน
หลัวซิวก้าวถอยหลังกลับไปหลายก้าว เทพมารระดับหกขั้นปฐมภูมิและเทพมารระดับแปดขั้นปฐมภูมิ ห่างกันสองแดนใหญ่ถ้วน ถึงแม้เขาจะแข็งแกร่งมากเพียงใด แต่ก็รับมือได้ยากลำบากเล็กน้อยอยู่ดี
หากเปลี่ยนเป็นเทพมารระดับหกคนอื่น ๆ เกรงว่าเมื่ออยู่ภายใต้พลานุภาพของเทพมารระดับแปด คงไม่มีแรงที่จะต่อต้านได้เลยแม้แต่น้อย ก็ถูกสังหารภายในพริบตาแล้ว
“ตู้มม!”
รัศมีของยันต์ค่ายทั้ง 99 ยันต์แย้มบานออกมาจากร่างกาย หลัวซิวยังไม่ใช้กระบี่ร่องฟ้าอีกเช่นเคย อดีตครั้นเมื่อผลการฝึกตนของเขายังไม่สูง เขายังปลดปล่อยพลานุภาพของกระบี่ร่องฟ้าออกไปได้ไม่มาก แต่ปัจจุบันเขาสามารถควบคุมพลังเกณฑ์ได้แล้ว จากพลานุภาพอันน่าสยดสยองของภัณฑ์มกุฎเทพระดับเก้าอย่างกระบี่ร่องฟ้า คาดว่าทันทีที่เรียกออกมาก็สามารถสังหารเปียนหยวนสงนี่ได้แล้ว
แต่หลัวซิวไม่มีความคิดที่จะสังหารฝ่ายตรงข้ามอย่างเด็ดเดี่ยวเช่นนี้ เขาอยากพิสูจน์มาก ๆ ว่าตนจะสามารถสร้างวีรกรรมอันยิ่งใหญ่อย่างการก้าวข้ามสองแดนใหญ่ปะทะกับเทพมารระดับแปดคนหนึ่งได้หรือไม่?
มาตรฐานในการวัดอัจฉริยะ อัจฉริยะระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์เป็นขีดสูงสุด ซึ่งสามารถสังหารศัตรูที่อยู่สูงกว่าตนหนึ่งแดนใหญ่
ตั้งแต่โบราณจวบจนปัจจุบัน ยังไม่เคยมีผู้ใดสามารถก้าวข้ามสองแดนใหญ่ สังหารคู่ต่อสู้โดยไม่อาศัยของขลังศัสตราวุธที่แข็งแกร่งหรอกกระมัง?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
นี้ก็หายไปเป็นปีเลย แอแ...
รออ่านยุ...
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...