ค่ายเทพระดับแปดสอดคล้องกับแดนเทพมารระดับแปด สาเหตุที่ท่านหมี่รู้สึกตะลึงนั้น หลัก ๆ เป็นเพราะเขาไม่เข้าใจว่าหลัวซิวจัดวางค่ายกลระดับสูงเช่นนี้ออกมาได้อย่างไร?
อย่างไรเสียผลการฝึกตนของเขาก็เป็นเพียงเทพมารระดับหกเท่านั้น ส่วนยักษ์อัสนีนั่นก็ยิ่งไม่มีทางเข้าใจเรื่องค่ายกล ถ้าเกิดยักษ์อัสนีก็รู้จักการใช้ค่ายกลละก็ เช่นนั้นเผ่าพันธุ์ยักษ์คงแหกกฎสวรรค์กลายเป็นผู้ชี้ขาดห้วงดารานี้ไปตั้งนานแล้ว
“แสร้งเป็นเทพเป็นผี!”
ประมุขดารามังกรดำยื่นมือออกไปขยำหนึ่งครั้ง ดาบรบสีดำขลับเล่มหนึ่งก็ปรากฏในมือเขา ก่อนที่เขาจะฟาดฟันไปทางปริภูมิที่อยู่บริเวณรอบ ๆ
ทันใดนั้นเอง ปริภูมิค่ายกลที่มีหมอกเชี่ยวกรากในตอนแรกก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง ปริมภูมิที่นับไม่ถ้วนเริ่มสลับเปลี่ยนที่ ในขณะเดียวกันก็มีแสงค่ายที่นับไม่ถ้วนผนึกรวมกันเป็นจิตสังหาร แล้วม้วนซัดไปทางท่านหมี่และมังกรดำที่ติดอยู่ในค่ายกล
ค่ายยากเย็นและค่ายสังหารถูกกระตุ้นพร้อมกัน เมื่ออยู่ภายในปริภูมิค่ายกล ไม่ว่าจะเป็นท่านหมี่หรือมังกรดำ ตัวสำนึกและกระแสสัมผัสล้วนถูกกีดกั้น สายตาของพวกเขามองสิ่งของที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมไม่เห็นเลยด้วยซ้ำ และไม่ได้ยินเสียงใด ๆ ด้วย
นอกค่ายกลปริภูมิ หลัวซิวยกมือสะบัดครั้งหนึ่ง กระบี่ร่องฟ้าก็หลอมรวมเข้าไปในค่ายสังหาร ถัดจากนั้นเตากลั่นนภาจื่อเซียวก็บินออกมาจากร่างกาย แล้วหลอมรวมเข้าไปในค่ายยากเย็น
เมื่อมีอาวุธของขลังทั้งสองชิ้นนี้เป็นรากฐานของค่ายกล หลัวซิวเชื่อว่าต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งเทพมารระดับแปดช่วงปลาย ก็อย่าคิดว่าจะหลุดพ้นออกไปจากที่นี่ได้ มาตรแม้นว่าเป็นเทพมารระดับแปดขั้นสูง ก็ต้องแลกด้วยราคาที่สูงลิ่วมากถึงจะมีโอกาสหลุดพ้นออกมา
ท่านหมี่และมังกรดำที่อยู่ในค่ายกลยังไม่รู้ว่าค่ายกลที่อยู่รอบ ๆ แข็งแกร่งมากเพียงใด แต่หลังจากพวกเขาลองพยายามโจมตีหลายครั้ง ก็พบว่าค่ายกลที่อยู่บริเวณรอบ ๆ ไม่ได้มีเพียงค่ายสังหารค่ายเดียวเท่านั้น ยังมีค่ายยากเย็นอีกหนึ่งค่ายด้วย!
หากมีเพียงค่ายสังหาร บางทีพวกเขาอาจจะฝ่าฟันออกไปได้ง่ายอยู่ แต่ถ้าเกิดค่ายยากเย็นและค่ายสังหารผสานกัน เช่นนั้นก็ค่อนข้างลำบากแล้วล่ะ
แต่ทว่าถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ ท่านหมี่และมังกรดำกลับไม่มีความเกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย อย่างไรเสียพวกเขาทั้งสองคนก็ต่างเป็นเทพมารระดับแปดช่วงกลาง ชั่วชีวิตนี้การที่สามารถฝึกตนขึ้นมาถึงแดนอย่างปัจจุบันได้นั้น พวกเขาผ่านพ้นอุปสรรคต่าง ๆ มาไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ ขอแค่พวกเขาร่วมมือกัน ต่อให้เป็นค่ายเทพระดับแปดที่ทรงพลังมากเพียงใด พวกเขาก็มั่นใจว่าสามารถฝ่าฟันออกไปได้
“ช่างเป็นค่ายยากเย็นที่แข็งแรงยิ่งนัก!”
มังกรดำโจมตีต่อเนื่องอยู่นานมาก สีหน้าจึงดูย่ำแย่ลงเล็กน้อย จากพลังโจมตีที่ทุ่มสุดกำลังสามารถของเขา หากเป็นค่ายยากเย็นระดับแปดทั่วไปคงถูกฉีกกระชากจนเกิดเป็นช่องโหว่ตั้งนานแล้ว แต่ค่ายยากเย็นของที่นี่กลับแข็งแรงกว่าที่จินตนาการเอาไว้ เขาทุ่มสุดกำลังสามารถ แต่ก็แค่สามารถทำให้ค่ายกลปริภูมิสั่นไหวเล็กน้อย ซึ่งยังอีกนานมากถึงจะทลายมันได้
“ผู้เฒ่าหมี่ ดูท่าคงทำได้เพียงเจ้าและข้าร่วมมือกัน ถึงจะสามารถฝ่าฟันออกไปได้แล้วล่ะ”
เมื่อคิดเช่นนี้ได้ มังกรดำจึงหันไปพูดกับท่านหมี่ ทว่าหลังจากที่เขาหันกลับไปแล้ว กลับผงะไปกะทันหัน
เนื่องจากเขาค้นพบว่าคำพูดที่ตัวเองพูดออกไปมันไม่มีเสียงเลยด้วยซ้ำ อีกทั้งท่านหมี่ที่ยืนห่างออกไปไม่ไกลในเมื่อครู่นี้ก็หายไปแล้วด้วย รอบ ๆ ขาวโพลนไม่มีอะไรเลย เขาสัมผัสอะไรไม่ได้เลย
“ให้ตายเถอะ!”
สีหน้าของประมุขดารามังกรดำเปลี่ยนแปลงไป บัดนี้เขาถึงจะตอบสนองกลับมาได้ว่าตัวเองประมาทไปหน่อย เห็นได้ชัดเจนเลยว่าค่ายกลของที่นี่มีความลี้ลับซ่อนอยู่ ทำการแบ่งแยกพื้นที่บริภูมิของเขาและท่านหมี่ให้ออกจากกัน จึงส่งผลให้พวกเขาทั้งสองคนไม่สามารถร่วมมือกัน
หากเขาร่วมมือกับท่านหมี่ตั้งแต่แรกละก็ การทลายค่ายกลของที่นี่ไม่ใช่เรื่องยาก ทว่าเนื่องจากการต่อสู้เดี่ยวในเมื่อครู่นี้ทำให้ผู้จัดวางค่ายกลคว้าโอกาส ทำให้พวกเขาทั้งสองคนแยกจากกัน
ทันใดนั้นเอง หอกยาวสีแดงเลือดอันนับไม่ถ้วนที่มืดฟ้ามัวดินก็ม้วนซัดเข้ามา ภายในหอกยุทธ์สีเลือดเหล่านี้มีปณิธานที่แข็งแกร่งอย่างยิ่งแฝงซ่อนอยู่ พลังโจมตีของหอกยุทธ์ทุกเล่มล้วนเทียบเท่าการลงมือของผู้แข็งแกร่งเทพมารระดับแปด
“ค่ายสังหารระดับแปดขั้นสูง!”
สีหน้าของประมุขดารามังกรดำเปลี่ยนแปลงไปอีกครั้ง เนื่องจากเขามีการค้นพบใหม่อีกแล้ว ค่ายยากเย็นและค่ายสังหารของที่นี่ไม่ใช่ค่ายเทพระดับแปดทั่วไป แต่เป็นระดับแปดขั้นสูง
ระดับแปดขั้นสูงที่กล่าวถึงนั้น หมายความว่าต่อให้ผู้แข็งแกร่งเทพมารระดับแปดขั้นสูงติดอยู่ที่นี่ ก็หลุดพ้นออกไปได้ยากมาก ส่วนเขาและท่านหมี่ต่างเป็นเทพมารระดับแปดช่วงกลาง บัดนี้ก็ไม่มีโอกาสได้ร่วมมือกันแล้ว
ณ ตอนนี้วินาทีนี้ ประมุขดารามังกรดำก็กระจ่างแจ้งขึ้นมาทันที เขาและท่านหมี่ต่างถูกลอบกัดแล้ว
“โฮกก!”
ประมุขดารามังกรดำคำรามครั้งหนึ่ง รัศมีเทวสีดำที่อยู่บนตัวก็สว่างไสวขึ้นมาภายในพริบตา เขากลายร่างเป็นร่างดั้งเดิมของมังกรดำ เนื่องจากมีเพียงขณะที่เปิดเผยร่างดั้งเดิม เขาถึงจะสามารถปลดปล่อยพลังที่แข็งแกร่งที่สุดของตัวเองออกมาได้ ถึงจะมีโอกาสเสี้ยวหนึ่งในการทลายค่ายยากเย็นและค่ายสังหารแล้วพุ่งออกไป
อย่างไรก็ตามเขายังไม่ทันได้ลงมือทลายค่าย กระบี่เทพสีเขียวมรกตเล่มหนึ่งก็ปรากฏกลางหมอกสลัวที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล
เวิ่ง!
กระบี่เทพสั่นเทิ้มคร่ำครวญเบา ๆ ถัดจากนั้นก็มีปราณกระบี่หนึ่งดวงที่แวววาวจับตาถึงขีดสุด เฉือนสับไปทางร่างดั้งเดิมของมังกรดำ
ณ เสี้ยววินาทีนี้ ประมุขดารามังกรดำพบว่าปริภูมิบริเวณรอบ ๆ ไม่ใช่ของตัวเองโดยสิ้นเชิงแล้ว ร่างดั้งเดิมประมุขดารามังกรดำที่แข็งแกร่งราวกับถูกพันธนาการเอาไว้ และยิ่งมีวิกฤตการณ์แห่งความตายผุดขึ้นมาในหัวใจเขา
“อาวุธเทพระดับเก้า!”
ประมุขดารามังกรดำเบิกดวงตาสีทองจนกลมโต ราวกับโคมไฟสีทอง หากบอกว่าค่ายเทพระดับแปดขั้นสูงก็ทำให้เขารู้สึกรับมือยากมาก ๆ แล้วละก็ เช่นนั้นการที่ฝ่ายตรงข้ามยังมีสมบัติอย่างอาวุธเทพระดับเก้านั้น ยิ่งทำให้เขารู้สึกสิ้นหวังเลย
อาวุธเทพระดับเก้า พอจะเรียกได้เลยว่าเป็นอาวุธชั้นสุดยอดในจักรวาลฟ้าดินแล้ว เทพมารระดับเจ็ดคนหนึ่งที่มีอาวุธเทพระดับเก้า ก็สามารถทำให้ผู้แข็งแกร่งเทพมารระดับแปดถดถอยได้แล้ว ต่อให้ประมุขดารามังกรดำจะมั่นใจในตัวเองมากเพียงใด ก็ไม่คิดว่าตนจะสามารถต้านทานพลังโจมตีของอาวุธเทพระดับเก้าได้
วินาทีนี้มีความรู้สึกที่เรียกว่าเสียใจทีหลังพรั่งพรูออกมาจากหัวใจประมุขดารามังกรดำ หากเขารู้ตั้งแต่แรกว่าจะเป็นเช่นนี้ เขาจะไม่ไล่ตามมาแน่นอน ตาแก่ท่านหมี่นั่นแจ้นมาอย่างโง่เง่า มันเป็นการรนหาที่ตายชัด ๆ เหตุใดตัวเองถึงต้องตามมาด้วยเล่า?
“หยุดก่อน! ขอแค่เจ้ายอมปล่อยข้าไป ข้ายินดีที่จะกลายเป็นคนรับใช้ของเจ้า!”
ในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย ประมุขดารามังกรดำตะคอกเสียงดังลั่นคำหนึ่ง เพื่อเป็นการทำให้ตัวเองมีชีวิตรอดต่อไป เขาไม่มีเวลาไปสนใจเรื่องศักดิ์ศรีแล้ว
“ข้าไม่ต้องการทาสรับใช้อย่างเจ้า!”
มีเสียงที่เยือกเย็นสะท้อนออกมาจากอนัตตา ถัดจากนั้นปราณกระบี่ที่แวววาวจับตาก็พุ่งตรงมา
ฟึ่บ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...