มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 2719

“ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! ......”

พลังอมตะของขลังที่นับไม่ถ้วนโจมตีลงบนค่ายสังหาร จนเกิดเป็นระลอกคลื่นพลังงานม้วนซัดออกไป

ค่ายกลต้องห้ามที่อยู่รอบเขากรองแก้วมรกตดั้งเดิม ก็เกิดจากออร่าดั้งเดิมที่แฝงซ่อนอยู่ภายในกรองแก้วมรกตดั้งเดิมแผ่กระจายออกมาแล้วสะสมกันเป็นเวลานาน บวกกับระดับของกรองแก้วมรกตดั้งเดิมไม่สูงมากนัก เพราะฉะนั้นพลังอานุภาคของค่ายกลต้องห้ามจึงไม่ได้ทรงพลังมากเท่าไหร่ 

หลังจากผ่านไปนาน ภายใต้การโจมตีอย่างทุ่มสุดกำลังสามารถของคนสองร้อยกว่าคน ค่ายสังหารสุดท้ายที่ขวางอยู่ตรงหน้าผู้คนถูกโจมตีจนแตกสลายไปแล้ว

ค่ายกลคุ้มกันและค่ายสังหารล้วนถูกทลาย เขากรองแก้วมรกตดั้งเดิมที่สูงตระหง่านเกือบสามร้อยเมตรก็เท่ากับวางอยู่ตรงหน้าผู้คนโดยตรง จำนวนคนที่อยู่ที่นี่มีมากมายเช่นนี้ ไม่มีผู้ใดกล้าบอกเลยว่าตนจักได้ครอบครองเขากรองแก้วมรกตดั้งเดิมลูกนี้คนเดียว ผู้ใดเร็วก็ย่อมได้ครอบครองมากกว่าอยู่แล้ว 

“ให้ตายเถอะ!”

ลิ่งฮู๋จื่อเซวียนสบถคำหนึ่ง จากนั้นเขาก็พุ่งตรงไปด้วยความเร็วที่รวดเร็วที่สุดเช่นกัน เดิมทีเขายังวางแผนที่จะแบ่งกับหลัวซิวเท่า ๆ กันอยู่เลย บัดนี้มีคนเยอะขนาดนี้ ภายในใจเขาย่อมต้องเต็มเปี่ยมไปด้วยความโกรธแค้นอยู่แล้ว

หลัวซิวก็ไม่มีทางเกรงใจอยู่แล้ว เขาง้างมือเรียกกระบี่ร่องฟ้าออกมา ก่อนจะฟาดฟันกระบี่ออกไป ทำการตัดส่วนยอดของเขากรองแก้วมรกตดั้งเดิมลูกนี้ลงมา จากนั้นก็โบกมือเก็บมันเข้าไปในแหวนเก็บของ

ยอดเขาส่วนนี้ก็มีหลายสิบเมตรแล้ว ซึ่งเท่ากับหนึ่งในสิบของทั้งเขากรองแก้วมรกตดั้งเดิม ถูกหลัวซิวเก็บเข้าไปในแหวนเก็บของภายในพริบตา

มีวัยรุ่นผู้มีความฉลาดเป็นเลิศสองร้อยกว่าคนรวมตัวอยู่ที่นี่ แค่ตัวหลัวซิวคนเดียวก็เอาไปหนึ่งส่วนสิบ เรื่องนี้จึงต้องดึงดูดให้ผู้อื่นอิจฉาริษยาเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว 

สิ่งที่ทำให้ผู้คนยอมรับไม่ได้มากกว่านั้นก็คือหลัวซิวเอาส่วนยอดของเขากรองแก้วมรกตดั้งเดิมไปแล้ว แต่เขายังไม่รู้สึกพอเพียงอีก ฟาดฟันกระบี่ร่องฟ้าออกไปอีกสามครั้ง ภายในเวลาชั่วพริบตาเดียว เขากรองแก้วมรกตดั้งเดิมก็ถูกเขาเอาไปหนึ่งส่วนสามแล้ว!

“ไอ้สารเลว! ฆ่าไอ้สารเลวนั่นซะ!”

มีคนนับร้อยพุ่งตรงไปทางหลัวซิวภายในพริบตา ในมุมมองของคนจำนวนมาก ต่างคิดว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการไปแก่งแย่งเขากรองแก้วมรกตดั้งเดิมแล้ว จักดีกว่าหากแก่งแย่งกับหลัวซิวโดยตรง เนื่องจากแค่บนตัวเจ้าหมอนั่นก็มีหินแก้วดั้งเดิมหนึ่งส่วนสามของทั้งหมดแล้ว 

ของขลังศัสตราวุธนับร้อยครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ ทำการผนึกฟ้าดินรอบกายหลัวซิวเอาไว้ภายในพริบตา ทำให้เขาไม่สามารถหลบหนีออกไปจากเขตพื้นที่นี้ได้เลยด้วยซ้ำ 

แท้จริงแล้วขณะที่หลัวซิวลงมือ เขาก็รู้แล้วว่าตนต้องตกเป็นเป้าที่ผู้คนต่างเข้าโจมตีแน่นอน แต่หลัวซิวกลับไม่ใส่ใจเลยด้วยซ้ำ 

“เวิ่งง!”

เตากลั่นนภาจื่อเซียวปรากฏเหนือศีรษะ ม่านแสงเปลวไฟสาดส่องลงมา ทำการต้านทานพลังโจมตีทั้งหมดเอาไว้ด้านนอก ถึงแม้จะมีพลังโจมตีบางส่วนที่สามารถทะลุผ่านม่านแสงคุ้มกันกระทบถึงตัวเขา ทว่าเมื่ออาศัยร่างเนื้อร่างเทวระดับเจ็ดขั้นสูง พลังโจมตีนี้กลับสร้างผลกระทบให้เขาได้ไม่มากด้วยซ้ำ 

แม้นท่าทีที่คนนับร้อยนี้ลงมือโจมตีจะดูน่าเกรงขามมาก แต่แท้จริงแล้วพลังโจมตีกลับเทียบเคียงกับมือใหญ่ลึกลับที่เขาพบเจอด้านล่างแม่น้ำไม่ได้เลย 

“ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! ……”

รัศมีพลังที่แวววาวจับตาได้ทำการปกคลุมร่างกายหลัวซิวเอาไว้ แต่มีเตาเซียนคุ้มกัน เขาแทบจะไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย 

“ชัวะ!”

เขาง้างมือฟาดฟันกระบี่ออกไปอีกหนึ่งครั้ง ทำให้เขากรองแก้วมรกตดั้งเดิมที่เหลือไม่มากนั่นถูกตัดลงมาอีกหนึ่งส่วน แล้วเก็บเข้าไปในกระเป๋า 

“เกิดเป็นมนุษย์ โลภมากเกินไปมันไม่ใช่เรื่องดีหรอกนะ!”

มีเสียงหึอันเยือกเย็นดังขึ้นกะทันหัน จากนั้นหลัวซิวก็มองเห็นเจียนอันเหมิน เห็นเพียงมีรัศมีสีทองดวงหนึ่งบินออกมาจากจุดตันเถียนของเขา รัศมีสีทองกลายเป็นรูปร่างลักษณะของมังกร แล้วพุ่งกระโจนพลางคำรามไปทางหลัวซิว 

“ตู้มม!”

เสียงที่ดังทุ้มราวเสียงตีกลองดังก้องไปทั่วทุกสารทิศ คนจำนวนไม่น้อยล้วนรู้สึกว่าเลือดปราณสั่นสะเทือน ถอยหลังกลับไปด้วยสีหน้าที่ดูตะลึงงัน

ส่วนสีหน้าของหลัวซิวก็เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อยเช่นกัน เตากลั่นนภาจื่อเซียวที่ลอยอยู่เหนือศีรษะเขาสั่นเทิ้มอย่างไม่หยุดหย่อน เกราะป้องกันของเตากลั่นนภาจื่อเซียวถึงขั้นถูกทลาย 

“ศัสตราวุธระดับเก้า!”

รูม่านตาของหลัวซิวหดลง พบว่ามังกรสีทองนั่นบินกลับเข้าไปในมือเจียนอันเหมิน ก่อนจะกลายเป็นดาบเทพสีทองหนึ่งเล่ม

เดิมทีผลการฝึกตนของเจียนอันเหมินนั่นก็เป็นเทพมารระดับเจ็ดอยู่แล้ว เมื่อปลดปล่อยพลังโจมตีด้วยศัสตราวุธระดับเก้า จึงเพียงพอที่จะสามารถทำให้ผู้แข็งแกร่งเทพมารระดับแปดถดถอยได้แล้ว 

“ฆ่ามัน!”

ในขณะเดียวกัน ก็มีจิตสังหารที่น่าสยดสยองยิ่งกว่าแผ่กระจายออกมาจากตัววัยรุ่นผู้มีความฉลาดเป็นเลิศคนอื่น ๆ ด้วย คนเหล่านี้ล้วนเป็นอัจฉริยะขั้นสุดยอดในกองกำลังทั้งหลาย ในมือผู้ใดไม่มีสมบัติที่มีพลานุภาพเป็นหนึ่งบ้าง?

ภายในเวลาเสี้ยววินาทีเดียว ศัสตราวุธระดับเก้าสิบกว่าชิ้นก็พุ่งสังหารเข้ามาทางหลัวซิว และยิ่งมีศัสตราวุธของขลังระดับแปดที่อานุภาพไม่ธรรมดาหลายสิบชิ้นด้วย 

“ให้ตายเถอะ!”

เมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้ ต่อให้หลัวซิวจะถือดีมากเพียงใด ก็ไม่กล้าฝืนต้านทานเช่นกัน จึงโคจรพลังเกณฑ์ปริภูมิและความเร็วอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เขาจะหายวับไปกับที่ภายในพริบตา 

ในขณะที่ทุกคนกำลังจะลงมือต่อหลัวซิวอยู่นั้น จู่ ๆ ลิ่งฮู๋จื่อเซวียนที่ไม่มีท่าทีอะไรในตอนแรกก็ลงมือกะทันหัน เรียกมารดาเตาผืนทองออกมา เสียงกวงดังขึ้น เขากรองแก้วมรกตดั้งเดิมที่เหลือก็ล้วนถูกเขาเอาไปหมดแล้ว 

ตั้งแต่เริ่มต้นกระทั่งบัดนี้หลัวซิวเอาไปไม่ถึงครึ่ง ทว่าลักษณะท่าทางในการกินของลิ่งฮู๋จื่อเซวียนกลับดูน่าเกลียดยิ่งกว่ามาก เอาไปหนึ่งครึ่งกว่าโดยตรง!

เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ลิ่งฮู๋จื่อเซวียนจึงดึงดูดความแค้นของผู้คนไปเกือบครึ่งภายในพริบตา จึงทำให้แรงกดดันฝั่งหลัวซิวลดลงไปเยอะมาก 

“ไปตายซะ!”

เจียนอันเหมินไม่ได้ลงมือจัดการลิ่งฮู๋จื่อเซวียนแต่อย่างใด แต่เป็นการถือดาบเทพสีทองพุ่งตรงเข้าไปทางหลัวซิว เห็นเพียงเขาฟาดฟันดาบออกมาครั้งหนึ่ง ปราณดาบร่างมังกรสีทองก็พุ่งไปถึงหน้าหลัวซิวภายในพริบตา 

พลังเกณฑ์ปริภูมิ!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ