จ้าววัฏสงสารเป็นคนเช่นไร นั่นคือชายผู้แข็งแกร่งที่เทียบเคียงกับไท่ชูสวรรค์สิบสอง ปกครองทวยเทว ควบคุมเทียนเต้า และภูตทั้งปวงยอมจำนนเขา!
แต่หลัวซิวไม่ได้คิดว่าฮวงหวูจี๋โม้ เพราะเขารู้ช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ตั้งแต่ไท่ชูจนถึงวัฏสงสาร หายนะเหล่านั้นเกี่ยวข้องกับผู้แข็งแกร่งและสำนักตระกูลมากมาย เช่นตระกูลเทพสงครามและแข็งแกร่งอย่างเผ่าจี้ ก็เสียชีวิตลงและหายไปเช่นกัน
แต่แปดตระกูลใหญ่นั้นมีมาตั้งแต่สมัยโบราณ พวกเขาไม่ได้มีส่วนร่วมในหายนะเหล่านั้น และทั้งภูตสวรรค์ในยุคไท่ชูหรือจ้าววัฏสงสารในยุควัฏสงสาร ก็ไม่เคยไปหาเรื่องกับแปดตระกูลใหญ่
ชนเผ่าฮวงเป็นใหญ่อยู่ในโลกร้างเขตกลาง และผู้สูงส่งโลกร้างในรุ่นต่อ ๆ ไปไม่มีใครกล้าพูดว่าให้ชนเผ่าฮวงอยู่ใต้ฝ่าเท้าของพวกเขา
โลกมหาศักดิ์อีกเจ็ดโลกก็มีเผ่าของตัวเองเช่นกัน ได้แก่ เผ่าฟ้า เผ่าดิน เผ่าดำ เผ่าหลือง เผ่าวาล เผ่าภพ เผ่าหง!
มหาจักรพรรดิยุทธ์โจ้เทียนมาจากเผ่าภพ และเทียนหย่งก็เป็นเจ้าหญิงของเผ่าภพ ชื่อของนางคือภพเทียนหย่ง
การกลับไปยังเมืองต้าฮวงโบราณอีกครั้ง ทำให้ความทรงจำมากมายเกี่ยวกับชาติที่แล้วของหลัวซิวกลับมา เขาถอนหายใจเบา ๆ และความคิดของเขาก็กลับมาชัดเจน
ในเมืองต้าฮวงโบราณ ไม่เพียงแต่มีผู้คนจากชนเผ่าฮวงเท่านั้น เมืองโบราณแห่งนี้ยังเปิดให้คนภายนอกเข้าได้ เมื่อหลัวซิวนั่งยักษ์อัสนีมายังเมืองโบราณแห่งนี้ก็ดึงดูดความสนใจเป็นอย่างมาก
สถาปัตยกรรมในเมืองโบราณล้วนสูงตระหง่าน แม้ว่าร่างของลาร์จะสูงพันฟุตจะยังคงดูใหญ่โตที่นี่ แต่ก็ไม่ได้เด่นนัก
ในร้านอาหาร ฮวงหวูจี๋เชิญเขาไปดื่มเหล้าและสั่งให้คนจับอสูรขั้นแปดที่เลี้ยงไว้ให้เป็นอาหารกับลาร์
“หลายปีนี้มีเหตุการณ์ใหญ่ที่สำคัญในโลกร้างหรือไม่?” ขณะดื่มเหล่า หลัวซิวก็สอบถามเกี่ยวกับข่าวสารที่เป็นประโยชน์
“มีแน่นอน!”
ฮวงหวูจี๋ดื่มจนพอใจและพูดว่า “สหายหลัว เจ้ารู้โลกสวรรค์หรือไม่?”
“โลกสวรรค์?” หลัวซิวหรี่ตาเล็กน้อย สำหรับผู้แข็งแกร่งแห่งแห่งโลกยุทธ์จำนวนมาก โลกสวรรค์เป็นเรื่องต้องห้าม นักยุทธ์ทั่วไปไม่รู้สึกแบบนี้ แต่ถ้าพวกเขาไปถึงแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ระดับเก้า ไม่มีใครจะไม่หวาดกลัวโลกสวรรค์
เนื่องจากวังนภาสิบสองที่สืบทอดมาตั้งแต่ไท่ชูนั้นอยู่ที่โลกสวรรค์ คือเจ้าแห่งของโลกสวรรค์!
ในชาติที่แล้วของไท่ซ่างฉิง ในโลกมหาศักดิ์แปดทิศมีเพียงโลกสวรรค์เท่านั้นที่ไม่เคยไปมาก่อน เหตุผลเพราะกลัววังนภาสิบสองนั่นเอง
“ที่เรียกว่าวังนภาสิบสองนั้น พูดว่าเป็นสิบสองเผ่าฟ้าที่แยกออกมา เผ่าฟ้าเหมือนกับชนเผ่าฮวงของเรา ต่างเป็นลูกหลานของบรรพเทพ ชนเผ่าฮวงของเราสืบเชื้อสายมาจากสายเดียวกันตั้งแต่สมัยโบราณ แต่เผ่าฟ้ากลับมีสิบสองสายเลือด”
เกี่ยวกับคำพูดนี้ หลัวซิวเคยได้ยินเรื่องนี้ในชาติที่แล้ว ว่ากันว่าสวรรค์ทั้งสิบสองในยุคไท่ชูมาจากเผ่าฟ้า
มีเพียงสายเลือดของจ้าววัฏสงสารเท่านั้นที่ไม่ได้มาจากลูกหลานของบรรพเทพทั้งแปด แต่เป็นผู้แข็งแกร่งชื่อเยียนจวินเป็นผู้สร้างวิถียุทธ์วัฏสงสาร หลังจากสวรรค์ทั้งสิบสอง เขาสร้างยุควัฏสงสารและกลายเป็นจ้าววัฏสงสารรุ่นแรก
“ฮ่าฮ่า โลกสวรรค์ไม่ได้เปิดให้โลกภายนอกตลอดมา มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่คนนอกจะเข้าไปในโลกสวรรค์ แต่ชนเผ่าฮวงของเราได้รับข่าวว่าเมื่อสามร้อยกว่าปีที่แล้ว มีคนๆหนึ่งที่บุกเข้าไปในโลกสวรรค์!ได้” คำพูดของฮวงหวูจี๋นั้นน่าตกตะลึง
“คนๆหนึ่ง? !”
แม้แต่หลัวซิวก็ตกใจเมื่อเขาได้ยินสิ่งนี้ แม้ว่าเขาเป็นไท่ซ่างฉิงในชาติก่อนจะฝึกฝนจนถึงแดนผู้สูงส่งแล้ว เขาก็ยังเคารพโลกสวรรค์อยู่ห่างๆ และไม่กล้าเข้าใกล้ แต่กลับมีคนกล้าเข้าไปในโลกสวรรค์ด้วยตัวคนเดียว?
“ถูกต้อง เป็นคนๆหนึ่งจริงๆ!” ฮวงหวูจี๋ดื่มเหล้าในถ้วยของเขาหมด และพูดว่า “ตอนนั้นผู้ชราของชนเผ่าฮวงเราก็ตกใจพอๆ กับสหายหลัวเมื่อพวกเขาได้ยินข่าวนี้”
“แม้ว่าชนเผ่าฮวงของเราและเผ่าฟ้าจะเป็นลูกหลานของบรรพเทพ แต่เผ่าฟ้านั้นแข็งแกร่งกว่าชนเผ่าฮวงของเรานัก เคยมีผู้แข็งแกร่งไร้เทียมทานอย่างสวรรค์สิบสองที่ปกครองทวยเทว ในบรรดาแปดเผ่าของเรา เผ่าฟ้าก็มักจะถือว่าตนเองเป็นเผ่าอันดับหนึ่งตลอดนิรันดร์”
ในขณะที่พูด ฮวงหวูจี๋หยิบม้วนหนังสือออกมาและคลี่ออกโดยกล่าวว่า “บรรพอาจารย์คนหนึ่งของชนเผ่าฮวงเราได้เห็นศึกครั้งใหญ่ด้วยตาของเขาเอง และเดิมทีคิดที่จะวาดภาพของผู้แข็งแกร่งที่บุกเข้าไปในโลกสวรรค์ออกมา แต่ผู้แข็งแกร่งคนนั้นมีพลังเต๋าที่ทรงพลังอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ล้อมรอบเขา ด้วยผลการฝึกฝนของบรรพอาจารย์ก็ไม่สามารถเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน มีเพียงแผ่นหลังเท่านั้นที่ถูกวาดออกมา”
หลัวซิวจ้องมองและมีเพียงแผ่นหลังบนม้วนภาพวาด รอบ ๆ แผ่นหลังนี้มีเศษของขลังศัสตราวุธจำนวนนับไม่ถ้วน อนัตตาที่ไร้ที่สิ้นสุดถูกทำลายและพังทลายลง มีคราบเลือดและซากศพของผู้แข็งแกร่งอยู่ทุกที่
แผ่นหลังนี้คลุมเครือ แต่ก็สัมผัสได้ถึงพลังเต๋าทรงพลังไหลเวียนอยู่รอบตัว
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร หลัวซิวรู้สึกคุ้นเคยอย่างอธิบายไม่ได้กับพลังแห่งเต๋าลึกลับที่ไหลเวียนอยู่รอบแผ่นหลังของร่างนี้
เขาขมวดคิ้วและครุ่นคิด ความทรงจำนับไม่ถ้วนเกี่ยวกับชีวิตในชาติก่อนและชาติปัจจุบันท่วมท้นอยู่ในใจของเขา ทันใดนั้น ดูเหมือนเขาจะนึกถึงบางสิ่งขึ้นมาได้และร่างกายของเขาก็แข็งทื่อไปในทันที
“หรือว่าเป็น...อาจารย์?”
หลัวซิวยืนขึ้นทันที เขาจำได้ว่าเมื่อชาติที่แล้วเขาเป็นเพียงมกุฎเทพเล็กๆที่อ่อนแอ เขาหลงเข้าไปในหุบเขาผนึกปีศาจ เขาได้พบกับที่อาจารย์คนแรกในชีวิตของเขาที่นั่น ภายใต้เการสั่งสอนของเขา จึงมีไท่ซ่างชิงที่เก่งกาจแข็งแกร่ง
เพียงแต่ว่าผลการฝึกฝนของไท่ซ่างฉิงในเวลานั้นไม่สูงนักและยังไกลจากการสัมผัสกับเกณฑ์พลังเต๋า บอกกับการปราบปรามของศิลาผนึกปีศาจ ทำให้อาจารย์มีออร่าที่อ่อนแอเล็ดลอดออกมา แต่เมื่อความทรงจำนี้ผุดขึ้นในสมองในชั่วพริบตา หลัวซิวมีสัญชาตญาณบอกเขาว่าเจ้าของแผ่นหลังของม้วนภาพคืออาจารย์ในชาติที่แล้วของเขา!
อาจกล่าวได้ว่าหากไม่มีอาจารย์คนนี้ ก็จะไม่มี ไท่ซ่างฉิงในชาติที่แล้ว และหากไม่มีไท่ซ่างฉิง จะมีหลัวซิวในชาตินี้ได้อย่างไร?
ดังนั้นเขาจึงถือได้ว่าเป็นอาจารย์ของหลัวซิว ซึ่งเป็นคนสำคัญคนหนึ่งในใจของเขา!
“สหายหลัว เจ้าเป็นอะไรไป?” เมื่อเห็นปฏิกิริยาแปลก ๆ ของหลัวซิว ฮวงหวูจี๋รู้สึกงงเล็กน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...