มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 2732

สีหน้าของหลัวซิวนั้นเฉยเมยและสงบนิ่ง แต่เมื่อท่านชายเทพโลหิตเห็นตู๋กูเทียนหยาและ หลูอิงเจี๋ยปรากฏตัวขึ้น สีหน้าของเขาก็เปล่ยนไป

ตู๋กูเทียนหยามองไป ท่านชายเทพโลหิต ด้วยสายตาราบเรียบ “ข้าแค่ต้องการยันต์เทพสงคราม”

ในขณะที่พูดสายตาของตู๋กูเทียนหยามองไปที่หลัวซิว “แค่เจ้ามอบยันต์เทพสงครามแก่ข้า ข้าสามารถช่วยเจ้าจัดการกับคนอื่นได้”

เป้าหมายของตู๋กูเทียนหยานั้นชัดเจนมาก เขามาเพื่อยันต์เทพสงครามเท่านั้น

“ตู๋กูเทียนหยา เจ้าหมายความว่าอย่างไร?” ดวงตาของท่านชายเทพโลหิตเผยแสงเย็นชา หากหลัวซิวมอบยันต์เทพสงครามให้ตู่กูเทียนหยาจริง ๆ เรื่องนี้จะยุ่งยากขึ้น

เพราะความแข็งแกร่งของตู๋กูเทียนหยาอยู่ในอันดับต้น ๆ ในหมู่รุ่นเยาว์ ท่านชายเทพโลหิตสู้กับเขาก็ไม่แน่ใจว่าจะสู้เขาได้หรือเปล่า

“สหายตู๋กู รีบร้อนทำไมกันเล่า? แค่ฆ่าคนคนนี้ ก็จะไม่สายเกินไปที่จะตัดสินใจเป็นเจ้าของยันต์เทพสงคราม”

หลูอิงเจี๋ยยิ้มอยู่ข้างๆ เขา ดูเหมือนว่าเป้าหมายของเขาคือยันต์เทพสงครามเช่นกัน

“ดูเหมือนว่าเจ้าก็สนใจสมบัติของผู้แข็งแกร่งตระกูลเทพสงครามเช่นกัน?”

หลัวซิวมองไปที่ตู๋กูเทียนหยาและ หลูอิงเจี๋ย ยันต์เทพสงครามเป็นเพียงสมบัติสมบัติขั้นอาวุธเทพระดับเก้าธรรมดาชิ้นหนึ่งเท่านั้น เมื่อพิจารณาถึงฐานะและภูมิหลังของพวกเขาแล้ว พวกเขาคงไม่ถึงกับมาแย่งชิง

แต่พวกเขากลับมาปรากฏตัวที่นี่ ดังนั้นจึงสามารถแสดงให้เห็นว่าพวกเขามาที่นี่เพื่อสมบัติที่เกี่ยวข้องกับยันต์เทพสงคราม

เทพมารที่เทียบได้กับราชาเทพระดับเก้า สมบัติที่เขาเหลือไว้ต้องมีความมั่งคั่งที่ไม่อาจจินตนาการได้ แม้แต่อัจฉริยะระดับสูงจากกองกำลังขนาดใหญ่ที่ทรงพลังก็ยังต้องอิจฉาอย่างแน่นอน

“ดูเหมือนว่ายังมีคนอีกหนึ่งที่ยังไม่ออกมา”

ตู๋กูเทียนหยาขมวดคิ้ว ได้ยินเพียงเสียงกริ่ง ไม่เห็นแม้แต่กระบี่ยาวในมือของเขาที่ถูกปลดออกจากฝัก ลำแสงของกระบี่บินออกไป ฟันไปยังอนัตตาที่อยู่ไม่ไกล แสงกระบี่นั้นฉีกอนัตตาออก

“ฮึ่ม!”

เสียงของสตรีหนึ่งดังออกมาจากอนัตตา จากนั้นแสงสีม่วงก็กลายเป็นโซ่ เข้าไปพัวพันกับปราณกระบี่ แต่ปราณกระบี่นั้นทรงพลังมากจนทำให้โซ่แสงสีม่วงแตกเป็นเสี่ยงๆ

ในขณะนี้ มือหยกยื่นออกมาจากอนัตตายกขึ้นตบ ทำลายปราณกระบี่ให้เป็นเสียงๆ

ฮู๋ชิงชิงสวมประโปรงผ้าคลุมสีดำเดินออกมาจากอนัตตา ใบหน้าสวยของนางเย็นชา ผ้าคลุมปิดใบหน้าที่งดงามของนางไว้

“นางอสูรฟ้า!”

เมื่อเห็นฮู๋ชิงชิงออกมา ท่านชายเทพโลหิตและ หลูอิงเจี๋ยต่างก็จำนางได้ทันที เพราะนางเป็นสตรีที่โด่งดังที่สุดในช่วงหลายปีมานี้

“อาจารย์ ช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง?” ฮู๋ชิงชิงชำเลืองมองท่านชายเทพโลหิตทั้งสามอย่างเย็นชา และเมื่อสายตาของนางหันไปหาหลัวซิว สายตาที่ไม่แยแสของนางก็อ่อนโยนลง

หลัวซิวไม่พูดอะไร เพราะคนในอดีตไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป

“อาจารย์ อย่าเข้าใจข้าผิด ข้าไม่ได้อยากจะเป็นศัตรูกับเจ้า ข้าทำเพื่อเจ้า” ฮู๋ชิงชิงพูดพร้อมกับถอนหายใจ

หลัวซิวยังคงไม่พูด นางอสูรฟ้าในตอนนี้ไม่ใช่ชิงชิงที่เขาเคยรู้จักอีกต่อไป หลังจากที่นางโจมตีเขาในเมืองหยุนหลง เขาจะเชื่อนางอย่างง่ายๆได้อย่างไร?

เมื่อเห็นหลัวซิวเพิกเฉยต่อนาง ฮู๋ชิงชิงก็รู้สึกไม่สบายเล็กน้อย ดวงตาที่สวยงามของนางจับจ้องไปที่ ท่านชายเทพโลหิตและนางพูดอย่างเย็นชา “ท่านชายหลังคืออาจารย์ของข้า ถ้าเข้าใจ พวกเจ้ามาจากไหนก็ไสหัวกลับไปที่นั่น!”

“ฮึ่ม นางอสูรฟ้า เจ้าคิดว่าตัวเองสูงส่งนักรึ?”

ท่านชายเทพโลหิตหัวเราะเยาะเสียงเย็น “เจ้าก็แค่พึ่งพาการสนับสนุนจากแดนศักดิ์สิทธิ์วิถีมารที่อยู่เบื้องหลังเจ้านี่ท แม้ว่าแดนศักดิ์สิทธิ์วิถีมารจะแข็งแกร่ง แต่ชนเผ่าเฉว่ซ่าของเราไม่ได้ด้อย และมีผู้แข็งแกร่งไร้เทียมทานหลายคนอยู่ด้วย ไม่ได้ด้อยไปกว่าแดนศักดิ์สิทธิ์วิถีมารของพวกเจ้าเลย!”

“เป็นไปไม่ได้ที่แดนศักดิ์สิทธิ์วิถีมารจะต่อกรกับสามแดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่เพื่อสตรีคนหนึ่งที่ตายไปแล้ว” หลูอิงเจี๋ยมีรอยยิ้มบนใบหน้า พูดอย่างเรียบ ๆ

กองกำลังระดับแดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่สามแห่งที่เขาพูดถึงนั้น คือกองกำลังที่เขาจากมากับชนเผ่าเฉว่ซ่าและอาณากระบี่หวูจี๋

“นางอสูรฟ้า? ข้าก็อยากรู้จักเหมือนกัน” ตู๋กูเทียนหยาพูดอย่างใจเย็นพร้อมกับกอดกระบี่ยาวอยู่ในอ้อมแขนของเขา

“แต่ข้ามาที่นี่เพื่อยันต์เทพสงครามเท่านั้น นางอสูรฟ้ามอบให้พวกเจ้า เขาเป็นของข้า!” ขณะที่พูด ตู๋กูเทียนหยาชูนิ้วชี้ไปที่หลัวซิว และเดินไปหาหลัวซิวตามทางกลางอากาศ

“เหอะ เหอะ ในเมื่อสหายเทียนหยาเลือกคู่ต่อสู้แล้ว ข้ากับท่านชายเทพโลหิตจึงไม่มีความคิดเห็นใด”

หลูอิงเจี๋ยและ ท่านชายเทพโลหิตต่างก็ยิ้ม จากนั้นก็โจมตีพร้อมกัน พวกเขาพุ่งเข้าหาฮู๋ชิงชิง

“แคร่ง!”

ในมือของ ท่านชายเทพโลหิตมีกระบี่สังหารเปื้อนเลือดเพิ่มขึ้นมา กระบี่ชื่อเทพสังหาร ถูกสร้างขึ้นโดยเทพดุร้ายที่มีชื่อเสียงที่โด่งดังในสมัยโบราณและได้ฆ่าเทพมารมานับไม่ถ้วน

ท่านชายเทพโลหิตถือกระบี่ไว้ในมือ เพื่อให้วิถียุทธ์สังหารของเขาสามารถเพิ่มขึ้นถึงขีดสุดในทันที และทะเลเลือดก็ปรากฏขึ้นทั่วรอบกายของเขา ศพของเทพมารนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นและหายไปในทะเลเลือด

“ได้ยินมาว่าใบหน้าของนางอสูรฟ้านั้นงดงามยิ่งนัก ข้ายังไม่เคยเห็นมาก่อน วันนี้ข้าสามารถจูบได้แล้ว!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ