มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 2745

หลัวซิวซ่อนและปิดผนึกออร่าของตนเองแล้วแอบเดินเข้าไป จากนั้นก็เห็นพวกของเมิ่งเชียนชาง

ถึงแม้รูปร่างหน้าตาของเมิ่งเชีนชางจะไม่เหมือนกับในชาติก่อน และหลัวซิวก็ยังจำได้ตั้งแต่แวบแรกที่เห็น ผมยาวสีขาวเป็นประกายนั้น ที่ห้วงจักรมีจุดสีแดงของเด็กหนุ่ม และมีออร่าที่เหมือนกับเมิ่งเชียนชางไม่มีผิด

เสียงฟ้าผ่าดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลัวซิวเห็นซุนจ้งและผูผิงกำลังต่อสู้อยู่กับหุ่นเชิดกลุ่มหนึ่ง หุ่นเชิดเหล่านี้แต่ละตัวล้วนแข็งแกร่ง แทบจะมีกำลังรบที่เทียบได้กับเทพมารระดับเก้า ลำพังเพียงวัสดุที่ใช้สร้างหุ่นเชิดเหล่านี้ขึ้นมา ก็นับเป็นความมั่งคั่งทางดาราศาสตร์ได้แล้ว

ถึงแม้ความสามารถของหุ่นเชิด อาจด้อยกว่าเทพมารระดับเก้าไม่น้อย แต่ได้เปรียบตรงที่มีจำนวนมาก ซุนจ้งและผูผิง แต่ละคนรับมือกับหุ่นเชิดสองสามตัวก็นับว่าถึงขีดจำกัดแล้ว

แต่ความสามารถของเมิ่งเชียนชางกลับแข็งแกร่งยิ่งกว่า เขาคนเดียวสามารถรับมือการโจมตีของหุ่นเชิดได้สิบกว่าตัว ถึงแม้จะถูกรุมโจมตีเช่นนี้ เขาก็ไม่รู้สึกสะทกสะท้าน เพียงแค่ปล่อยพลัง หุ่นเชิดก็จะถูกโจมตีจนลอยกระเด็นออกไป ชิ้นส่วนของร่างกายแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ

พูดได้ว่า ถ้าหากไม่มีเมิ่งเชียนชางอยู่ที่นี่ พูดเพียงแค่ซุนจ้งและผูผิงสองคนแล้วละก็ ถึงแม้พวกเขาล้วนเป็นเทพมารระดับเก้า เกรงว่าคงตกอยู่ในวงล้อมของหุ่นเชิดเหล่านี้ และถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ ในชั่วพริบตา

“กำลังรบเกือบเทียบเท่าราชาเทพระดับเก้า !”

หลัวซิวหันมองเพียงครู่เดียว ก็สามารถประเมินความสามารถของเมิ่งเชียนชางออกมาได้แล้ว ถึงแม้จะรับมือกับหุ่นเชิดเทพมารระดับเก้าสิบกว่าตัว แต่เมิ่งเชียนชางก็ยังไม่ได้ใช้ความสามารถทั้งหมดที่มี

“เจี้ยนเฉิน เจ้าเอาชนะเขาได้ไหม ?” หลัวซิวสื่อสารกับตู๋กูเจี้ยนเฉินที่อยู่ในตำหนักวัฏสงสารด้วยตัวหยั่งรู้

“ต่อสู้ก็พอจะเอาชนะได้ แต่ไม่อาจสังหารเขาได้” ตู๋กูเจี้ยนเฉินพูดอย่างเคร่งขรึม เขาไม่ได้กลับชาติมาเกิด ทำให้ความแข็งแกร่งฟื้นฟูกลับมาได้อย่างรวดเร็ว ตอนนี้ผลการฝึกตนฟื้นฟูถึงราชาเทพระดับเก้าแล้ว

เมิ่งเชียนชางเทียบเท่ากับราชาเทพระดับเก้าธรรมดา แต่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตู๋กูเจี้ยนเฉินอย่างแน่นอน เพราะความแข็งแกร่งของตู๋กูเจี้ยนเฉิน นับได้ว่าสูงสุดในบรรดาราชาเทพระดับเก้าแล้ว

ผลลัพธ์เช่นนี้หลัวซิวคาดเดาออก หากไม่สามารถกำจัดเมิ่งเชียนชางได้ในคราวเดียว เขาก็ยังไม่อยากให้เกิดการปะทะกันในตอนนี้

“วิมานเทวอัสนีชิงเสวียนแห่งนี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ หุ่นเชิดเทพมารระดับเก้าจำนวนมากขนาดนี้ ไม่ใช่ว่าสิ่งที่ราชาเทพระดับเก้าธรรมดา ๆ จะทำได้ ไม่แน่ว่า ผู้ที่ทิ้งถ้ำแห่งนี้เอาไว้ อาจจะเป็นมกุฎเทพระดับเก้าท่านหนึ่งก็เป็นได้ !”

หลัวซิวหรี่ตาลงเล็กน้อย สุดท้ายก็ตัดสินใจที่จะยังไม่ประจัญหน้ากับเมิ่งเชียนชางก่อน ในสถานการณ์เร่งด่วน จะต้องหาชิ้นส่วนของหยกเทวชิงเทียนชิ้นที่ห้าให้เจอก่อนเป็นอันดับแรก

วังเทวอัสนีชิงเสวียนใหญ่มาก อีกทั้งยังมีค่ายกลตัวต้องห้ามอีกเป็นจำนวนมาก หากหลัวซิวต้องการหาชิ้นส่วนหยกเทวชิงเทียนที่นี่ ก็นับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย อีกทั้ง เขายังต้องคว้าหยกเทวชิงเทียนมาให้ได้ โดยที่ไม่ทำให้เมิ่งเชียนชางรู้ตัวอีก ทำให้ระดับความยากยิ่งเพิ่มมากขึ้น

แต่หากอาศัยชิ้นส่วนของหยกเทวชิงเทียนทั้งสี่ชิ้นที่อยู่ในมือ เขาก็สามารถระบุออร่าที่ตั้งของชิ้นส่วนอีกหนึ่งชิ้นได้อย่างแม่นยำ เมื่อเป็นเช่นนี้ หลัวซิวจึงระบุทิศทางได้อย่างรวดเร็ว และไม่ดูการต่อสู้ระหว่างพวกของเมิ่งเชียนชางกับหุ่นเชิดอีก จากนั้นเขาหายตัวเข้าไปในส่วนลึกของตำหนักถ้ำ

เพื่อปิดบังออร่า เขาไม่อาจใช้ความเร็วทั้งหมดได้ แต่ก็ไม่นับว่าช้า ไม่นานนัก เขาก็มาถึงส่วนที่ลึกที่สุดของตำหนักถ้ำ

ที่นี่ หลัวซิวเห็นโลงศพคริสตัลวางอยู่บนแท่นหิน โลงศพหลังนี้ใหญ่มาก มีความยาวประมาณสิบเมตร และสูงประมาณสี่เมตร

หลัวซิวจ้องตาเขม็ง ในโลงศพคริสตัล สิ่งที่เขาเห็นไม่ใช่ร่างของคนที่นอนอยู่ แต่เป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ !

ใช่แล้ว เป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งจริง ๆ ใบหน้าสีชมพูระเรื่อ ดูแล้วน่าจะมีอายุราว ๆ ห้าหกขวบเห็นจะได้ !

แต่สิ่งที่ทำให้หลัวซิวต้องตกตะลึงก็คือ เขาสัมผัสได้ถึงออร่าที่น่ากลัวเป็นอย่างยิ่งจากร่างในของเด็กผู้หญิงคนนี้ !

“นี่มันเป็นไปได้อย่างไร ?”

ตู๋กูเจี้ยนเฉินที่อยู่ในตำหนักวัฏสงสารก็สัมผัสได้เช่นกัน จึงอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาอย่างประหลาดใจ ความสงบนิ่งบนใบหน้าจางหายไปทันที

“ใช่ผู้แข็งแกร่งที่ไร้เทียมทานคนไหน ย้อนวัยกลับมาเป็นเด็กหรือไม่ ?” ตู๋กูเจี้ยนเฉินพูดขึ้นอย่างไม่มั่นใจ

บนตัวของเด็กหญิงที่นั่งอยู่ในโลกคริสตัล ไม่มีออร่าของกาลเวลาที่ผันเปลี่ยนไป ราวกับนางมีอายุเพียงแค่ห้าหกขวบจริง ๆ แต่เด็กอายุเพียงห้าหกขวบคนหนึ่ง จะมีออร่าการฝึกตนที่น่ากลัวขนาดนี้ได้อย่างไร ?

มีเพียงอย่างเดียวที่ทำให้รู้สึกสบายใจ นั้นคือในตัวของเด็กหญิงไม่มีสัญญาณชีพ มิเช่นนั้น เด็กหญิงที่มีอายุเพียงห้าหกขวบคนหนึ่ง แต่กลับมาออร่าการฝึกตนเทียบเท่ากับราชาเทพระดับเก้า คงเป็นเรื่องที่น่ากลัวไม่น้อยจริง ๆ

ทันใดนั้นเอง สายตาของหลัวซิวก็จ้องเขม็งไปที่มือทั้งสองข้างของเด็กหญิง มือทั้งสองข้างของเด็กหญิงคนนี้ ประสานกันจนกลายเป็นวิชาตราประทับอยู่ที่จุดตันเถียน ระหว่างมือเล็ก ๆ ทั้งสองข้าง มีชิ้นส่วนของหยกสีเขียววางอยู่ และเปล่งรัศมีออกมาเล็กน้อย

“ขอโทษด้วย !”

หลัวซิวไม่ลังเลแม้แต่น้อย เขาตรวจสอบแต่แรกแล้วว่า บริเวณโดยรอบของโลงศพคริสตัล ไม่มีค่ายกลตัวต้องห้ามอยู่ เขาหายตัว และมาปรากฏอยู่ตรงหน้าแท่นหินทันที จากนั้นก็ยื่นมือออกไปเพื่อเปิดโลงศพคริสตัล

“ไท่ซ่างฉิง ! เจ้าคิดจะทำอะไร ?” ตู๋กูเจี้ยนเฉินตกใจอย่างยิ่ง “หากเจ้าเปิดโลงศพคริสตัลออก แล้วเด็กหญิงที่อยู่ด้านในตื่นขึ้นมาล่ะ พวกเราสองคนจะเดิอดร้อนได้นะ !”

“อย่างน้อยความแข็งแกร่งของเจ้าก็ฟื้นฟูถึงราชาเทพระดับเก้าแล้ว แค่เด็กผู้หญิงคนเดียว เจ้าจะกลัวอะไร ? อีกอย่าง บนตัวของนางไม่มีสัญญาณชีพเลยแม้แต่น้อย บางทีอาจตายไปนานหลายปีแล้วก็ได้”

หลัวซิวเบะปาก และไม่สนใจคำเตือนของตู๋กูเจี้ยนเฉิน และผลักฝาโลงคริสตัลให้เปิดออกทันที

เด็กหญิงที่อยู่ด้านในไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ หลัวซิวยกมือขึ้นแล้วคว้าไปที่ชิ้นส่วนของหยกเทวชิงเทียน

“หยิบได้แล้ว !”

ชิ้นส่วนตกมาถึงมืออย่าง่ายดาย หลัวซิวรีบเก็บ ใบหน้าเต็มไปด้วยความยินดี หลังจากชิ้นส่วนทั้งห้าถูกวางไว้ด้วยกัน ก็เริ่มหลอมรวมในทันที รอยร้าวด้านบนได้รับการซ่อมแซมอย่างช้าๆ ภายใต้พลังเต๋าของพลังชิงเทียนที่หมุนเวียนอย่างไม่มีที่สิ้นสุด และสามารถฟื้นฟูกลับมาได้อย่างสมบูรณ์ภายในชั่วระยะเวลาหนึ่ง ทำให้หยกเทวชิงเทียนที่สมบูรณ์ ปรากฏขึ้นมาบนโลกนี้อีกครั้ง !

“หืม ?”

หลัวซิวผงะไปทันที สายตาของเขาจับจ้องไปที่เด็กหญิงที่อยู่ในโลงศพคริสตัล แววตาแสดงความสงสัยออกมา

“เจี้ยนเฉิน เจ้าได้ยินเสียงหัวใจเต้นหรือไม่ ?” หลัวซิวพูด

“ไท่ซ่างฉิง ! เจ้าบ้าเอ๊ย ! ข้าบอกเจ้าแต่แรกแล้วว่าอย่าเปิดโลงศพออก เจ้าดูทางโน้นสิ !” ตู๋กูเจี้ยนเฉินก่นด่าออกมา และตัวสำนึกก็ชี้ไปยังทิศทางหนึ่ง

ตัวสำนึกของหลัวซิวกวาดมองไป ตรงมุมของตำหนักใหญ่ เห็นโครงกระดูกอยู่หนึ่งศพ เมื่อพิจารณาจากความแวววาวของกระดูกแล้ว อย่างน้อยก็น่าจะเป็นราชาเทพระดับเก้าผู้หนึ่ง !

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ