มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 2746

ตำหนักวัฏสงสาร เป็นของวิเศษที่เกิดขึ้นจากชิ้นส่วนที่แตกสลายของกงล้อวัฏสงสาร

ในฐานะที่เมิ่งเชียนชางเป็นผู้สืบทอดจ้าววัฏจักรรุ่นที่เก้า เขาเคยครอบครองกงล้อวัฏจักรด้วยตนเองมาแล้ว ถึงขั้นเคยใช้สิ่งล้ำค่าชิ้นนี้ ประชันกับไท่ซ่างฉิงซึ่งอยู่ในแดนผู้สูงส่ง ในขณะที่เขายังอยู่ในแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ระดับเก้า

บนโลกนี้ ไม่มีใครรู้จักวัฏจักรดีกว่าเมิ่งเชียนชางอีกแล้ว และยิ่งเข้าใจความลับของสมบัติแห่งสังสารวัฏดียิ่งกว่า

ด้วยเหตุนี้ ในสายตาของเมิ่งเชียนชาง หลัวซิวมีความสามารถแค่ขี้ประติ๋ว คิดที่จะใช้สมบัติอย่างตำหนักวัฏสงสาร มาจัดการกับผู้สืบทอดจ้าววัฏสงสารรุ่นที่เก้าอย่างเขาหรือ ?

เมิ่งเชียนชางแสดงสีหน้ายิ้มเยาะออกมา เขายกมือขึ้นแล้วคว้าไปที่ตำหนักวัฏสงสาร อาศัยการควบคุมเส้นทางแห่งวัฏสงสารของเขา เขาก็สามารถควบคุมตำหนักวัฏสงสารได้อย่างง่ายดาย

“ไท่ซ่างฉิง ชาตินี้เจ้าอ่อนแอเกินไป ดังนั้นเจ้าจะต้องตายด้วยน้ำมือของข้าอย่างแน่นอน !”

ในขณะที่มือใหญ่ของเมิ่งเชียนชางคว้าไปที่ตำหนักวัฏสงสาร การฝึกตนอันแข็งแกร่งก็แทรงซึมเข้าไปในสมบัติแห่งวัฏสงสารชิ้นนี้ ตราประทับที่หลัวซิวประทับไว้ด้านในแต่เดิม ก็สลายไปทันทีเมื่อถูกผลการฝึกตนที่แข็งแกร่งโจมตี !

ทว่า ในตอนนั้นเอง เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างกะทันหัน มีแสงกระบี่เส้นหนึ่งพุ่งออกมาจากตำหนักวัฏสงสาร กระบี่นี้ราวกับสายฟ้า แสงกระบี่ทรงพลานุภาพ มีพลังอันน่ากลัวที่เหนือจินตนาการ

“ตู๋กูเจี้ยนเฉิน !”

สีหน้าของเมิ่งเชียนชางเปลี่ยนไปเล็กน้อย ในขณะที่แสงกระบี่เส้นนี้ปรากฏขึ้นมา เขาก็รู้แล้วว่าผู้ที่แอบโจมตีตนเองคือใคร

เขาเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่า การลงมือของไท่ซ่างฉิงก่อนหน้านี้ ล้วนเป็นการหลอกล่อให้ตนเองติดกับ ตู๋กูเจี้ยนเฉินที่ซ่อนตัวอยู่ในตำหนักวัฏสงสารต่างหาก ที่เป็นท่าไม้ตายที่เขาแอบซ่อนไว้สำหรับโจมตีตนเองของจริง !

“ฉึบ !”

แสงกระบี่สว่างไสวพุ่งตรงเข้ามา เลือดสีแดงสดสาดกระเซ็น ดูเหมือนดาบนี้จะแทงเข้าไปที่ห้วงจักรของเมิ่งเชียนชาง เลือดสีแดงสดค่อย ๆ หลั่งรินออกมาจากห้วงจักรของเขา ทำให้สีหน้าของเขาทั้งดูดุร้ายและหวาดกลัวในเวลาเดียวกัน

ทว่า ดาบนี้ของตู๋กูเจี้ยนเฉิน ยังไม่อาจสังหารเมิ่งเชียนชางได้ แสงกระบี่แทงเข้าไปเพียงครึ่งเดียว ก็ไม่อาจแทงทะลุเข้าไปต่อได้อีก

“ข้าลงมือซุ่มโจมตี ใช้พลังทั้งหมดที่มีในกระบี่เดียว กลับยังไม่อาจสังหารเจ้าได้อีกหรือ ?”

ในแสงกระบี่ปรากฏร่างของตู๋กูเจี้ยนเฉิน เมื่อเห็นว่าเมิ่งเชียนชางยังไม่ตาย ร่างกายของเขาก็รีบถอยร่นไปทันที

เมิ่งเชียนชางส่งเสียงฟึดฟัดอย่างไม่พอใจ โคจรพลังแห่งวัฏสงสาร บาดแผลที่เปิดออกตรงห้วงจักรก็ เริ่มสมานเข้ามา เขาเดินตรงไปด้านหน้า ยกมือขึ้นโบก ตำหนักวัฏสงสารส่งเสียงดังเหง่งหง่าง แล้วตกลงในฝ่ามือของเขา

“ตู๋กูเจี้ยนเฉิน ตอนนั้นเจ้าพ่ายแพ้ด้วยน้ำมือของข้า หากไม่ใช่เพราะไท่ซ่างฉิงยื่นมือเข้ามายุ่ง เจ้าคงตายด้วยน้ำมือของข้าไปนานแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้ายังกล้าลงมือกับข้าอีก ครั้งนี้ข้าก็อยากรู้เหมือนกันว่า ยังจะมีใครช่วยเจ้าได้อีก !”

ขณะที่พูดอยู่นั้น เมิ่งเชียนชางก็ยกมือขึ้นรวบรวมตราประทับ วัฏสงสารปรากฏขึ้น วัฏสงสารหมุนวนอย่างรวดเร็ว ทำให้อนัตตาที่อยู่รอบข้างไม่อาจต้านทานได้ในทันที และ พังทลายลงอย่างต่อเนื่อง

“ตอนนั้นกงล้อวัฏจักรธรรมแตกออกเป็นชิ้นส่วนห้าชิ้น หลายปีมานี้ข้าหาเจอแล้วสองชิ้น เมื่อได้ตำหนักวัฏสงสารมา ก็นับว่าเป็นชิ้นที่สาม ประกอบกับลูกแก้วความเป็นความตาย ที่เกิดจากการรวมตัวของวิญญาณเดิมของไท่ซ่างเฉิง นับว่าเป็นชิ้นที่สี่ ขาดเพียงแค่ชิ้นสุดท้ายเท่านั้น ข้าก็จะสามารถสร้างกงล้อวัฏจักรธรรมขึ้นมาได้ใหม่อีกครั้ง ใช้ฐานะของจ้าววัฏสงสารรุ่นที่เก้าควบคุมเทียนเต้า ปกครองสวรรค์ !”

ตราวัฏสงสารของเมิ่งเชียนชาง เก็บซ่อนความลับที่ไม่สิ้นสุดของเส้นทางแห่งวัฏสงสารเอาไว้ ตู๋กูเจี้ยนเฉินและหลัวซิวรู้สึกว่าไม่อาจควบคุมร่างกายได้ และกำลังติดอยู่กับวัฏจักรโดยไม่อาจเคลื่อนไหวได้

“ไท่ซ่างฉงเอ๋ย ไท่ซ่างฉิง ถ้าความแข็งแกร่งของเจ้าเทียบข้าได้ ข้าคงไม่อาจเอาชนะเจ้าได้ แต่เจ้าใจร้อนเกินไป อยู่แค่แดนเทพมารระดับเจ็ดเล็ก ๆ ก็ทนไม่ไหวที่จะมาหาข้าเสียแล้ว นับว่าเป็นการรนหาที่ตายอย่างแท้จริง !”

“เปรี้ยง !”

พลังอันยิ่งใหญ่พุ่งขึ้นและทำลายอนัตตา พลังอันยิ่งใหญ่นี้ ไม่มีออร่าของพลังเต๋าเลยแม้แต่น้อย แต่กลับเป็นพลังชั่วร้ายอย่างบริสุทธิ์ !

บนตัวของหลัวซิวมีรัศมีเทวที่สว่างไสวแผ่ซ่านออกมาอย่างไม่สิ้นสุด เขาฝึกตนร่างเนื้อร่างเทวจนเทียบเท่ากับอาวุธเทพระดับเก้าแล้ว ตอนนี้พลังที่ไร้ขอบเขตและทรงพลานุภาพปะทุออกมาล

“ร่างเนื้อที่แข็งแกร่งยิ่งนัก !”

ม่านตาของเมิ่งเชียนชางหดลง แม้ว่าการฝึกตนเส้นทางแห่งวัฏสงสารของเขา จะมีวิชากลั่นร่างที่ยอดเยี่ยม แต่เมื่อถามตนเองถึงแดนราชาเทพระดับเก้าในตอนนี้ กลับยังไม่แข็งแกร่งเท่ากับร่างเนื้อของหลัวซิว

อีกทั้งผลการฝึกตนของหลัวซิว อยู่เพียงแค่เทพมารระดับเจ็ด หากเขาสามารถบรรลุถึงเทพมารระดับแปด ไม่เท่ากับว่าร่างเนื้อร่างเทวของเขา จะเหนือกว่าราชาเทพระดับเก้าของตนอย่างนั้นหรือ ?

“ดูเหมือนว่าในชาตินี้ เจ้าจะพบกับประสบการณ์ที่ไม่ธรรมดา ! นี่ยิ่งทำให้ข้าแทบทนรอไม่ไหว ที่จะกำจัดเจ้าเสีย !”

เมิ่งเชียนชางมีเจตนาฆ่าที่รุนแรง เขาใช้ตราวัฏสงสารโจมตีออกไป บังคับให้ตู๋กูเจี้ยนเฉินต้องถอยร่น จากนั้นก็หายตัว แล้วมาปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าหลัวซิว และฟาดฝ่ามือใส่เขา

แน่นอนว่าหลัวซิวไม่มีทางยืนรอความตายอยู่เฉย ๆ กำลังรบทั้งหมดของเขาปะทุออกมาในตอนนี้ และใช้พลังอมตะตราสรรพสิทธิ์ในการรับมือ

พลังที่ยากจะจินตนาการถูส่งมา หลัวซิวกระอักเลือดในทันที และกระเด็นลอยไปอย่างช่วยไม่ได้ เสียงอนัตตาถูกกระแทกจนพังทลายดังขึ้น ร่างกายเป็นแผลฉีกขาดไปทั้งตัว เลือดไหลนอง

“แตกต่างกันเกินไป”

หลัวซิวสูดหายใจเข้าเต็มปอด สีหน้าเคร่งเครียดขึ้นเล็กน้อย ความแตกต่างระหว่างราชาเทพระกับเก้าและเทพมารขั้นสูงระดับเจ็ดนั้นต่างกันเกินไป ถึงขั้นเรียกได้ว่า ทั้งสองนั้นแตกต่างกันเหมือนมดกับช้าง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ