มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 2748

“โฮก !”

เสียงมังกรคำรามดังสะเทือนไปทั่วท้องฟ้า ดวงตาที่ไร้ซึ่งความปรานีของมังกรทองห้ากรงเล็บ จับจ้องมาที่หลัวซิว

บนร่างของมังกรตัวนี้ มีพลังชีวิตที่เข้มข้นแผ่ซ่านอยู่รอบตัว แต่กลับไม่ให้ความรู้สึกถึงความมีชีวิตชีวาและสงบสุข แต่กลับเต็มไปด้วยความรู้สึกที่อันตรายจนเหลือประมาณ

สีหน้าของหลัวซิวดูเคร่งเครียดขึ้นมา หลังจากที่เข้ามาในแดนสุขาวดี เขาก็ผ่านการต่อสู้มาอย่างโชกโชน และมังกรทองห้ากรงเล็บที่อยู่ตรงหน้าตัวนี้ คงเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งอย่างยิ่งโดยไม่ต้องสงสัย

ฟิ้ว !

เตากลั่นยานภาจื่อเซียวลอยออกมาจากห้วงจักร และมาหยุดอยู่เหนือศีรษะ จากนั้นจึงปล่อยลูกโซ่อัคคีเทพลงมาป้องกันรอบด้าน ราวกับผ้าม่าน

จากนั้น หลัวซิวยกมือขึ้นคว้า กระบี่ร่องฟ้าก็ปรากฏขึ้นในมือ เขาฟาดกระบี่ลงไป แสงกระบี่ราวกับสายรุ้ง ข้ามท้องฟ้า กรีดอนัตตา ส่งเสียงดังสะเทือนเลื่อนลั่น หลัวซิวใช้กำลังรบทั้งหมดที่มีในตอนนี้ ด้วยพลังของกระบี่เดียว สามารถเทียบได้กับผู้แข็งแกร่งเทพมารระดับเก้า ใช้อำนาจลงมืออย่างสุดกำลังแล้ว !

แสงกระบี่ราวกับขุนเขา พุ่งตรงเข้าไปใกล้ศีรษะของมังกรทองห้ากรงเล็บในชั่วพริบตา ในพลังชีวิตของมังกรทองตัวนี้มีออร่าวัฏสงสาร เขาจึงอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

“โฮก !”

มังกรทองคำรามด้วยความโกรธ เขามังกรคู่หนึ่งพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า แสงกระบี่ฟันลงมาด้านบนอย่างแรง จนเกิดเป็นประกายไฟขึ้นมา

ถึงแม้กระบี่นี้ของหลัวซิวจะใช้พลังทั้งหมดที่มีแล้ว แต่กลับไม่อาจตัดเขามังกรทั้งสองข้างให้หักลงได้ แต่ให้เห็นว่าเขาของมังกรทองตัวนี้ มีความแข็งแกร่งมากเพียงใด

“อีกครั้ง กระบี่แรกปรปักษ์ !”

หลัวซิวเหยียบอนัตตา แล้วพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าโดยไม่เกรงกลัว พลังอมตะโลกกระบี่กระบวนท่านี้ เกิดจากพลังอมตะของตราประทับปรปักษ์สวรรค์ โดยมีกระบี่ร่องฟ้าคอยสนับสนุน จึงมีพลังที่เหนือกว่าการใช้ตราประทับปรปักษ์สวรรค์เพียงอย่างเดียว หลายเท่าตัวนัก

มังกรทองเจ็บปวด จึงคำรามด้วยความโกรธ และตะบบกรงเล็กลงมา

“กระบี่ที่สองจ้านเทียน !”

รอบตัวของหลัวซิว มีจิตวิญญาณการต่อสู้ปะทุขึ้นมา แสงกระบี่ที่ฟันลงไปก็พุ่งสูงขึ้น ไกลออกไปเป็นพันลี้ !

“กระบี่ที่สาม ปราบสวรรค์ !”

เจตนาฆ่าที่ไม่สิ้นสุดรวมตัวกันกลายเป็นแสงสีแดงสดเหมือนเลือด พลังอมตะของหอกโลหิตสังหารสวรรค์ถูกเขาใช้วิถีไร้ลักษณ์เปลี่ยนแปลง กลายเป็นปราณกระบี่สีเลือด มีความลึกลับของพลังเต๋าปราบสวรรค์

ในความเป็นจริงแล้ว พลังอมตะหอกโลหิตสังหารสววรรค์กระบวนท่านี้ หากใช้หอกรบที่ทรงพลังในการแสดงออกมา พลังถึงจะยิ่งใหญ่ที่สุด

แต่ตอนนี้ กระบี่ร่องฟ้าที่ถืออยู่ก็เป็นอาวุธมกุฎเทพระดับเก้า พลังอมตะกระบวนท่านี้ จึงถูกหลัวซิวผลักดันจนถึงขึ้นจำกัดของแดนในสตอนนี้แล้ว

“พรวด !”

เลือดสีแดงสดสาดกระเซ็น กระบี่ที่สามของหลัวซิวตัดเขามังกรจนหัก และทิ้งรอยกระบี่เอาไว้บนตัวของมังกรทอง และมีเลือดสีแดงสดไหลออกมาเหมือนน้ำพุ

แต่หลัวซิวเองก็ลำบากไม่น้อย เขาถูกกรงเล็บของมังกรตะปบจนลอยออกไป ร่างกายยังไม่ทันยืนอย่างมั่นคง หางมังกรก็ฟาดตามมาอีกครั้ง แม้ว่าจะมีเตากลั่นยานภาจื่อเซียวคอยคุ้มกัน แต่ก็ทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า มีเลือดซึมออกมาที่มุมปาก เอ็นและกระดูกในร่างกายส่งเสียงแตกหักดังกรอบแกรบ

ความแข็งแกร่งของมังกรทองตัวนี้สูงถึงระดับเทพมารขั้นเก้าระดับสูงแล้ว เป็นรองแค่เพียงราชาเทพเท่านั้น

ในแดนสุขาวดี มังกรทองห้ากรงเล็บตัวนี้เกือบจะเป็นอมตะ อาการบาดเจ็บของมันฟื้นฟูด้วยความเร็วที่สายตามองเห็นได้ เขาที่หักลงก็งอกขึ้นมาใหม่อีกครั้ง

นี่คือศึกอันยาวนาน แต่สำหรับหลัวซิวแล้ว ศึกครั้งนี้สำคัญอย่างยิ่ง เพราะเขาจำเป็นต้องผ่านศึกที่ทุ่มเทอย่างสุดกำลังเช่นนี้สักครั้ง เพื่อทำให้ผลการฝึกตนของตนเองมั่นคง อย่างไรเสีย ผลการฝึกตนก่อนหน้านี้พัฒนาเร็วเกินไป ทำให้รากฐานวิถียุทธ์ได้รับผลกระทบ

มังกรทองห้ากรงเล็บสามารถดูดรับพลังชีวิตของแดนสุขาวดี มาใช้รักษาอาการบาดเจ็บ จนแทบจะมีร่างที่เป็นอมตะ ส่วนวิถีไร้ลักษณ์เปลี่ยนแปลงของหลัวซิวเอง ก็สามารถทำได้เช่นกัน ถึงแม้ความแข็งแกร่งของมังกรทองจะเหนือกว่าเขาหนึ่งขั้น แต่หลังจากที่รากฐานวิถียุทธ์ของเขาค่อย ๆ มั่นคงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้สถานการณ์นี้เริ่มเปลี่ยนทิศทางไป

ศึกครั้งนี้ต่อเนื่องมาเกือบสองเดือนแล้ว หลัวซิวยืนอยู่กลางอากาศด้วยสภาพที่ผมเผ้ารุงรัง ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล เห็นได้ชัดว่าลำบากเป็นอย่างยิ่ง

แต่บนใบหน้าของเขากลับปรากฏรอยยิ้มออกมา เพราะเขาสามารถสัมผัสได้ว่าผลการฝึกตนของเขา บรรลุถึงแดนเทพมารระดับเจ็ดขั้นสูงอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว รากฐานวิถียุทธ์ที่แต่เดิมได้รับผลกระทบ ก็เปลี่ยนกลับมาแข็งแกร่งดังเดิม

หากพูดว่า ในตอนแรกที่เขาบรรลุแดนเทพมารระดับเจ็ดขั้นสูง ความแข็งแกร่งของเขาสามารถเทียบได้กับเทพมารระดับเก้าขั้นปฐมภูมิ เช่นนั้นในตอนนี้ เขาก็ได้ครอบครองกำลังรบที่เทียบเท่ากับเทพมารระดับเก้าช่วงปลายอย่างสมบูรณ์แล้ว ถึงขั้นว่า หากอาศัยพลังอมตะวิถีไร้ลักษณ์ เขาก็สามารถต่อกรกับเทพมารระดับสูงขั้นเก้าได้แล้ว

พูดได้อย่างไม่ลังเลว่า ถ้าคู่ต่อสู้ที่ต่ำกว่าเทพมารระดับเก้าช่วงปลายลงมา เขาก็สามารถสังหารได้ !

สังหารกับเอาชนะ เป็นสิ่งที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง !

“สรรพวิถีล้วนว่าง ทะยานเซียน !”

หลัวซิวฟันกระบี่ที่แข็งแกร่งที่สุดออกไป โคจรวิถีไร้ลักษณ์ สรรพวิถีล้วนว่าง กฎและพลังอมตะทั้งหมด หายวับไปในความว่างเปล่าภายใต้การปกคลุมของพลังลักษณะนี้ ถึงแม้จะเป็นเกณฑ์ชีวีนิรันดร์ หรือแม้กระทั่งพลังแห่งวัฏสงสาร ล้วนต้องล่าถอยและสลายไป !

ภายใต้การสนับสนุนของสรรพวิถีล้วนว่างเปล่า แสงกระบี่ที่แฝงไปด้วยความลึกลับของทะยานเซียนฟาดฟันออกไป เสียงพรวดดังขึ้น เลือดสดสาดกระเซ็น หัวของมังกรทองห้ากรงเล็บ ถูกหลัวซิวฟันจนขาดสะบั้นทันที !

“เจิ้น !”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ