มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 2798

เสี้ยววินาทีที่พูด หลัวซิวก็เป็นฝ่ายลงมือก่อนแล้ว แม้นผลการฝึกตนของชายชุดเทาจะเป็นเทพมารระดับเก้าขั้นปฐมภูมิ แต่กลับยังไม่ได้ผนึกรวมกงล้อเทพออกมา ศักยภาพระดับนี้ยังไม่มีสิทธิ์ให้หลัวซิวชายตาลงไปมอง 

“ผนังเทพสี่พักตร์!”

ชายชุดเทาก็ตอบสนองกลับมาได้รวดเร็วมากเช่นกัน ณ เสี้ยววินาทีที่หลัวซิวมีการเคลื่อนไหว เขาก็ใช้มือทั้งสองข้างประสาทอิน ปลดปล่อยพลังอมตะธาตุดินออกมาแล้ว 

มีกำแพงดินหลายเแผ่นราวกับเลื่อนขึ้นมาจากแผ่นดินใหญ่ กำแพงดินทั้งสี่แผ่นได้ผนึกทั้งสี่ทิศเอาไว้ ทำการกักขังหลัวซิวไว้ตรงกลาง 

แม้จะใช้พลังอมตะกักขังหลัวซิวเอาไว้ได้แล้ว แต่ชายชุดเทากลับไม่มีความคิดที่จะลงมือต่อ เนื่องจากเขาเข้าใจดีมาก ๆ ว่าในชั้นที่ 12 ของหอคอยนภากาศนี้ยังมียอดฝีมือคนอื่น ๆ อีก ดูจากศักยภาพที่ชายหนุ่มชุดคลุมยาวดำคนนี้แสดงออกมาในเมื่อครู่นี้แล้ว ไม่ได้จัดการง่ายแต่อย่างใด หากทำให้ตนได้รับบาดเจ็บขณะต่อสู้กับฝ่ายตรงข้าม เช่นนั้นมันก็จะเป็นผลลัพธ์ที่เขายอมรับไม่ได้แน่นอน

อย่างไรก็ตามความคิดของชายชุดเทากลับเกินเลยไปหน่อย เขายังไม่ทันได้หันหลังแล้วหลบหนี ก็มีเสียงระเบิดแตกที่สนั่นแก้วหูดังขึ้น กำแพงหินแผ่นหนึ่งระเบิดจนแตกสลาย จากนั้นก็มีเงาดำร่างหนึ่งปรากฏในกระแสสัมผัสของเขา ก่อนจะพุ่งเข้ามาสังหารเขาเร็วปานลำแสง 

“สังหารเทพ!”

หลัวซิวปลดปล่อยพลังอมตะโจมตีวิญญาณ แม้นจะอยู่ห่างไกลมาก ๆ เขาใช้วิถีไร้ลักษณ์วิวัฒนาการพลังโจมตีตัวสำนึกให้กลายเป็นหอคอยฮวงหลังหนึ่งปรากฏในตัวหยั่งรู้ของฝ่ายตรง แล้วกดอัดไปทางช่องจิตชีวีของฝ่ายตรงข้ามโดยตรง 

“วิญญาณอมตะ!”

ชายชุดเทาแน่นิ่ง ถัดจากนั้นเขาก็โคจรอย่างสุดกำลังสามารถเพื่อคุ้มกันตัวสำนึกของตัวเอง ทว่าตัวสำนึกของเขากลับด้อยกว่าของหลัวซิวไม่น้อย ทำให้ต้านทานท่าทีที่หอคอยฮวงกดอัดลงมาไม่ได้เลยด้วยซ้ำ 

“ฟึ่บ!”

เสียงตัวหยั่งรู้ที่แตกสลายดังขึ้น ณ เสี้ยววินาทีที่ช่องจิตถูกบดขยี้ ตัวหยั่งรู้ของชายชุดเทาก็พังทลายลงไปด้วย เหลือเพียงร่างเนื้อที่ไร้วิญญาณร่วงหล่นลงมาจากฟ้า

หลัวซิวขยำมือทีเดียว ก็มีระลอกคลื่นลูกหนึ่งปรากฏกลางฝ่ามือเขา ถัดจากนั้นแหวนเก็บของที่อยู่บนมือชายชุดเทา รวมไปถึงอาวุธเทพของขลังที่อยู่ในจุดตันเถียนก็พากันบินออกมา ถูกหลัวซิวเอาไป

หลัวซิวเปิดแหวนเก็บของของฝ่ายตรงข้ามออกมาสำรวจดู พบว่าด้านในมีหินนภาพลังเต๋าที่สีธาตุแตกต่างกัน 13 ชิ้น บวกกับ 20 กว่าชิ้นที่เขาพบในก่อนหน้านี้ บัดนี้ในมือเขาก็มี 35 ชิ้นแล้ว 

“วิธีการแก่งแย่งมันรวดเร็วกว่าจริงด้วย ไปแย่งอีกไม่กี่คน ก็น่าจะครบร้อยแล้ว”มีรอยยิ้มจาง ๆ ปรากฏตรงมุมปากหลัวซิว

เดิมทีเขาไม่มีความคิดที่จะไปแก่งแย่งของผู้อื่น เนื่องจากหลักการในการปฏิบัติตัวของเขาก็คือหากผู้อื่นไม่รุกรานข้า ข้าก็จะไม่รุกรานผู้อื่น หากไม่ใช่เพราะชายชุดเทาคนนี้เป็นฝ่ายมาตกอยู่ในเงื้อมมือเขา ต่อให้เขาเจอฝ่ายตรงข้าม เขาก็ไม่มีความคิดที่จะลงมือแก่งแย่ง

แต่ถ้าเกิดเกี่ยวเนื่องถึงเรื่องที่ว่าตนจะได้เข้าสู่ชั้นที่ 13 ของหอคอยนภากาศหรือไม่นั้น เช่นนั้นไม่แน่หลักการนี้ก็อาจจะถูกทลายแล้ว สิ่งที่เขาต้องการมีเพียงหินนภาพลังเต๋า

โยนเปลวไฟก้อนหนึ่งออกไปแผดเผาศพของชายชุดเทาอย่างเรื่อยเปื่อย ในขณะที่หลัวซิวเพิ่งจากไปได้ไม่นาน ก็มีแสงกลอีกดวงหนึ่งบินตรงมาทางตัวเอง

เมื่อเห็นแสงกลดังกล่าว แววตาของหลัวซิวก็เป็นประกายขึ้นมา จิตใจเขาคาดหวังให้ฝ่ายตรงข้ามเห็นว่าผลการฝึกตนของตัวเองต่ำแล้วมาแก่งแย่งสมบัติตนมาก ๆ เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เขาก็สามารถแก่งแย่งกลับไปได้อย่างถูกจังหวะเป็นขั้นตอนแล้วล่ะ

แต่ทว่าเมื่อแสงกลดวงนั้นค่อย ๆ ใกล้เข้ามา หลัวซิวก็ค้นพบความผิดปกติบางอย่าง ก่อนจะแผ่ตัวสำนึกออกไป แล้วมีจิตสังหารที่รวดเร็วและดุดันทะลุออกมาจากสายตาทันที

เนื่องจากเจ้าของแสงกลดังกล่าวที่เขามองเห็นก็คือฮู๋ชิงชิงนั่นเอง เห็นเพียงสภาวะ ณ วินาทีนี้ของนางย่ำแย่มาก ๆ ออร่าอ่อนแอยุ่งเหยิง บาดเจ็บสาหัส   

“ผลการฝึกตนของชิงชิงบรรลุถึงเทพมารระดับเก้าช่วงปลายแล้ว บวกกับนางเป็นผู้แข็งแกร่งผู้สูงส่งกลับชาติมาเกิด ในหอคอยนภากาศก็มีผู้ที่เป็นคู่ต่อสู้ของนางน้อยมาก นางได้รับบาดเจ็บได้อย่างไร?”

หลัวซิวแผ่ขยายตัวสำนึกออกไปอย่างต่อเนื่อง จากนั้นเขาก็สัมผัสได้ว่ามีพลังออร่าอีกสองดวงที่ผันเป็นแสงกลกำลังไล่ล่าฮู๋ชิงชิง

ต่างมีพลังออร่าที่แข็งแกร่งแพร่กระจายออกมาจากตัวเจ้าของแสงกลทั้งสองดวงนั้น ไม่นึกเลยว่าจะเป็นจอมยุทธ์เทพมารระดับเก้าขั้นสูงสองคน!

ทุกครั้งที่หอคอยนภากาศเปิดออก ตามหลักการแล้วจอมยุทธ์ส่วนมากที่เข้ามานั้นล้วนเป็นเทพมารระดับแปดขั้นสูง รวมไปถึงเทพมารระดับเก้าขั้นปฐมภูมิ ในส่วนของเทพมารระดับเก้าช่วงกลาง ช่วงปลายรวมไปถึงขั้นสูงนั้นมีน้อยมาก ๆ

ทว่าก็ยังคงมีคนบางกลุ่มที่อยากเข้าไปในสถานแหล่งเต๋าเพื่อแสวงหากงล้อเทพที่มีคุณภาพสูงยิ่งกว่า ดังนั้นหลังจากบรรลุถึงเทพมารระดับเก้าแล้ว ส่วนใหญ่จะไม่ผนึกรวมกงล้อเทพออกมา หรือไม่ก็พยายามลดจำนวนกงล้อเทพที่ผนึกให้ได้น้อยที่สุดเท่าที่จะน้อยได้ 

ยกตัวอย่างเช่นเจ้าสองคนนั้นที่กำลังไล่ล่าฮู๋ชิงชิง พวกเขาผนึกรวมกงล้อเทพออกมาได้สามวงแล้ว อีกทั้งคุณภาพต่างบรรลุถึงระดับกลาง เห็นได้ชัดเจนเลยว่าสาเหตุที่พวกเขาเข้ามาแก่งแย่งโควต้าสถานแหล่งเต๋าในหอคอยนภากาศนั้น ก็เพื่อจะผนึกรวมกงล้อเทพวงที่สี่ที่มีคุณภาพดียิ่งกว่าออกมา

สำหรับแดนเทพมารระดับเก้าแล้ว คุณภาพของกงล้อเทพเกี่ยวเนื่องถึงเรื่องที่สำคัญมาก เนื่องจากมีเพียงระดับคุณภาพของกงล้อเทพยิ่งสูง ถึงครานั้นอัตราที่จะบรรลุสู่ราชาเทพระดับเก้าสำเร็จก็จะยิ่งมาก 

ตั้งแต่เทพมารระดับเก้าขั้นปฐมภูมิตลอดจนขั้นสูง ต่างต้องผนึกรวมกงล้อเทพออกมาสี่วง หากกงล้อเทพทั้งสี่วงล้วนเป็นกงล้อชั้นล่าง เช่นนั้นโอกาสที่จะบรรลุสุราชาเทพระดับเก้าก็จะมีน้อยมาก มาตรแม้นว่าใช้อำนาจฝืนบรรลุ กงล้อเทพวงที่ห้าที่ผนึกรวมออกมาก็จะเป็นชั้นล่างเช่นกัน ซึ่งถือเป็นประเภทที่อ่อนที่สุดในบรรดาราชาเทพระดับเก้า 

หากในบรรดากงล้อเทพทั้งสี่วงมีกงล้อเทพระดับกลางหนึ่งวง หรือสองสามวงละก็ เช่นนั้นอัตราที่จะบรรลุสู่ราชาเทพระดับเก้าสำเร็จก็จะเพิ่มขึ้น และมีโอกาสผนึกรวมกงล้อเทพวงที่ห้าที่มีคุณภาพระดับกลางออกมาได้เช่นกัน ทว่าโอกาสในการเป็นกงล้อเทพชั้นล่างกลับสูงกว่า 

เพราะฉะนั้นแล้วคุณภาพสูงต่ำของกงล้อเทพจึงมีความสำคัญมาก ๆ หากไม่ใช่เพราะสถานแหล่งเต๋าและหอคอยนภากาศต่างมีข้อจำกัดละก็ คาดว่าเหล่าผู้แข็งแกร่งที่อยู่สูงกว่าราชาเทพระดับเก้าคงเข้ามาแก่งแย่งโควต้าด้วยแน่นอน แล้ววัยรุ่นที่อยู่ต่ำเก่าจักมีเรื่องดีเช่นนี้หรือ?

เนื่องจากเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าออร่าแล้ว ลู่ยู่จื่อสามารถมองทะลุตัวตนที่แท้จริงของหลัวซิวได้ตั้งแต่แวบแรกที่เห็น ทว่าฮู๋ชิงชิงกลับทำเช่นนั้นไม่ได้ เมื่อนางเห็นว่าด้านหน้ามีคนปรากฏอีกคน ก็มีความสิ้นหวังปรากฏบนใบหน้านางทันที 

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ