โลกใบนี้กว้างใหญ่มาก แต่บางครั้งมันก็เล็กมากถึงมากที่สุด การปรากฏตัวของเมิ่งเชียนชางไม่ได้ทำให้จิตใจของหลัวซิวเกิดการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เพราะเขารู้ดีตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่าท้ายที่สุดแล้วเรื่องราวระหว่างเขาและเมิ่งเชียนชางก็ต้องถูกจัดการให้เรียบร้อยอยู่ดี
เมิ่งเชียนชางที่อยู่ที่นี่ไม่ได้ใช้ชื่อจริงแต่อย่างใด แต่ชื่อซางเซี่ย เมื่อได้ยินชื่อดังกล่าวจากคำวิพากษ์วิจารณ์ของกลุ่มคนที่อยู่บริเวณรอบ ๆ หลัวซิวก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อย
แน่นอนอยู่แล้วว่าชางนั่นหมายถึงเมิ่งเชียนชาง ส่วนเสี้ย ก็คือเมิ่งเสี้ยอย่างไร้ข้อสงสัยแล้วล่ะ
ความสัมพันธ์ของพวกเขาพี่น้องดีมากมาโดยตลอด ทว่าเนื่องจากไท่ซ่างฉิง ทำให้พี่น้องคู่นี้เป็นศัตรูต่อกัน และเป็นเพราะเหตุนี้นี่เอง เมิ่งเชียนชางถึงได้โกรธแค้นเขามากมาโดยตลอด
พรสวรรค์ของเมิ่งเชียนชางแข็งแกร่งมาก มิเช่นนั้นก็คงไม่ถูกการถ่ายทอดสืบสานของประมุขเต๋าวัฏสงสารเลือกจากอสูรจิตหมื่นล้านดวง เขาโค่นล้มคู่ต่อสู้บนเวทีประลองยุทธ์คนแล้วคนเล่า ไม่นานนักชื่อซางเซี่ยก็กลายเป็นประเด็นที่ผู้คนต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์
เมื่อป้ายลำดับตัวเลขที่อยู่ในมือหลัวซิวสว่างขึ้น เขาก็กระโดดขึ้นฟ้า แล้วร่วงลงบนเวทีประลองยุทธ์เวทีหนึ่ง
ชื่อเหวิ้นเต้านี้ เป็นชื่อที่ตั้งขึ้นมาโดยมีความหมายแฝงว่าการย่างกรายสู่จุดสูงสุดบนวิถียุทธ์ แต่ไม่ว่าความหมายแฝงจะเป็นอย่างไร ชื่อดังกล่าวก็เป็นชื่อที่ทุกคนในโลกมหาศักดิ์ทั้งแปดล้วนไม่ทราบเลย
ทว่าเมื่อเห็นหลัวซิวปรากฏบนเวทีประลองยุทธ์ ก็มีสายตาที่รวดเร็วและเฉียบคมทั้งหลายสอดส่องมาอยู่ดี และต้นเหตุของสายตาทั้งหมดนี้ ย่อมต้องเป็นเรื่องที่เขาเคยรุกรานเทพธิดาทั้งสามแห่งหอมกุฎดาบบนสนามจัตุรัสกลางเมืองอยู่แล้ว
เสี้ยววินาทีที่หลัวซิวปรากฏบนเวทีประลองยุทธ์ คู่ต่อสู้ของเขาก็ปรากฏเช่นกัน คนดังกล่าวคือชายอัปลักษณ์ที่บนใบหน้ามีไฝหลายเม็ด
โดยส่วนใหญ่แล้ว หน้าตาของจอมยุทธ์จักไม่น่าเกลียดมากเท่าไหร่นัก เพราะมีวรยุทธ์และยาจำนวนมากที่สามารถทำให้โฉมหน้าและบุคลิกลักษณะของตัวเองพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น
แต่ก็มีคนบางส่วนที่แสวงหาพลังโดยเฉพาะ แล้วมองข้ามเรื่องอื่น ๆ สาเหตุที่ทำให้โฉมหน้าของตัวเองดูอัปลักษณ์น่าเกลียดปานนี้ ก็น่าจะเป็นเพราะฝึกเคล็ดวิชาบางอย่างที่ชั่วร้าย
หลังจากเดินขึ้นเวทีประลองยุทธ์แล้ว ชายอัปลักษณ์หน้าไฝไม่พูดอะไรเลยสักคำ แต่หลัวซิวกลับสามารถสัมผัสออร่าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความชั่วร้ายได้จากตัวเขา และผลการฝึกตนของคนดังกล่าวก็ไม่ต่ำด้วย อยู่ในแดนเทพมารระดับแปดขั้นสูง
มีออร่าผลการฝึกตนเทพมารระดับแปดช่วงปลายแพร่กระจายออกไปจากตัวหลัวซิว นี่จึงทำให้มีรัศมีแห่งความดูหมิ่นปรากฏบนใบหน้าชายอัปลักษณ์หน้าไฝ ก่อนที่เขาจะพูดอย่างเย็นชา “ถ้าเกิดมึงไสหัวลงไปจากเวทีตั้งแต่ตอนนี้ละก็ กูสามารถไว้ชีวิตมึงได้หนหนึ่ง มิเช่นนั้นละก็เมื่อจอมเทพทมิฬกูลงมือ กูไม่เคยปล่อยให้ผู้ใดมีชีวิตรอดไปได้เลยนะ”
ในระหว่างที่พูดอยู่นั้น ก็มีออร่าที่ชั่วร้ายแพร่กระจายออกมาจากตัวชายอัปลักษณ์หน้าไฝ อาณาจักรประเภทนี้มีคุณสมบัติพิเศษในการกัดกร่อน ราวกับพิษยังไงอย่างนั้น ซึ่งจะทำการกัดกร่อนอาณาจักรเกณฑ์ของคู่ต่อสู้
“ธรรมเวชมืดหรือ?”
หลัวซิวพูดพึมพำในใจ ทุกสรรพสิ่งในโลกหล้ามีทั้งด้านบวกและด้านลบ ซึ่งกฎเกณฑ์ธรรมทั้งปวงในโลกหล้าก็เป็นเฉกเช่นเดียวกัน ส่งผลกระทบต่อกันและกัน
แม้แต่เทียนเต้าก็มีด้านบวกและลบเช่นกัน มีการสาดส่องและหล่อเลี้ยงจากแสงสว่าง ย่อมมีการกัดกร่อนและทำลายล้างจากความมืดอยู่แล้ว
เกณฑ์ประเภทหนึ่งก็สามารถพัฒนาเป็นเส้นทางที่แตกต่างกันได้ ยกตัวอย่างเช่นสิ่งที่ชายอัปลักษณ์หน้าไฝตรงหน้านี้เน้นฝึกก็คือพลังการกัดกร่อนกัดเซาะในเกณฑ์ความมืด ใช้พลังของเกณฑ์ความมืดไปคัดกรอกกัดเซาะพลังเกณฑ์อื่น ๆ
“เวิ่งง!”
หลัวซิวโคจรวิถีไร้ลักษณ์ มีรัศมีเทวที่แวววาวจับตาแย้มบานออกมาจากตัวเขา เขา ณ วินาทีนี้ราวกับกลายร่างเป็นเทพแห่งแสงตะวัน รัศมีเทวที่อยู่รอบกายสาดส่องทุกสรรพสิ่งในโลกหล้าให้สว่าง
“ไอ้ชาติชั่ว ไม่นึกเลยว่าสิ่งที่มึงฝึกจะเป็นเกณฑ์สว่างที่ต่ำทราม!”
ใบหน้าของชายอัปลักษณ์หน้าไฝดุร้ายน่ากลัว ในฐานะที่เป็นผู้ฝึกเกณฑ์ความมืด สัญชาตญาณจึงรังเกียจและกีดกันผู้ที่ฝึกเกณฑ์สว่างง่ายมาก
“ครึก……ครึก……ครึก……”
มีเสียงที่น่าขนลุกดังออกมาจากคอของชายอัปลักษณ์หน้าไฝ ถัดจากนั้นก็มีควันดำแผ่กระจายออกมาจากตัวเขา แล้วผนึกรวมกันอยู่ด้านหลังเขาจนกลายเป็นเงาของงูดำตัวใหญ่ตัวหนึ่ง
“ชิ่ว!”
หลังจากเงางูดำปรากฏแล้ว มันก็โจมตีมากะทันหัน ความเร็วเร็วปานสายฟ้า ภายใต้การฟาดหางงู มันจึงปกคลุมไปทั้งเวทีประลองยุทธ์ ทำให้หลัวซิวไม่มีพื้นที่ที่สามารถหลบหลีกได้เลยแม้แต่น้อย
“สว่างอุบาทว์ ไปตายซะเถอะ!”ชายอัปลักษณ์หน้าไฝพูดอย่างดุดัน
แม้นความคิดของเขาจะดิบดีมาก แต่กลับไม่รู้ระดับความสูงต่ำของตัวเอง ไม่เข้าใจว่าระหว่างตนและหลัวซิวแตกต่างกันเยอะมาก
กระบี่ร่องฟ้าปรากฏในมือ ก่อนที่หลัวซิวจะฟาดฟันออกไป กระบี่นี้ยังได้รับการปลุกเสกจากธาตุพลังเต๋าของพลังฉีกชั้นฟ้าและพลังแห่งเวหาด้วย มาตรแม้นว่าเป็นเกราะป้องกันภัณฑ์ราชาเทพระดับเก้าชิ้นหนึ่ง ก็ล้วนสามารถถูกเขาทำลายล้างได้
“ฮิฮิ……”
ชายอัปลักษณ์หน้าไฝหัวเราะอย่างเยือกเย็น เสี้ยววินาทีที่กระบี่ร่องฟ้าพุ่งชนเข้ากับเงางูดำ หลัวซิวกลับสัมผัสแรงกระทบกระเทือนไม่ได้เลยแม้แต่น้อย กระบี่ทะลุผ่านงำงูดำโดยตรง ราวกับพลังโจมตีนี้ได้โจมตีเข้ากับอากาศที่ว่างเปล่า
“พลังโจมตีวิญญาณ?”
รูม่านตาของหลัวซิวหดลง เขาก็นึกไม่ถึงเช่นกันว่าเจ้าอัปลักษณ์นี่จะเป็นยอดฝีมือที่เข้าใจเรื่องพลังโจมตีวิญญาณด้วย
เพียงชั่วพริบตาเดียว จิตสำนึกของหลัวซิวก็ถูกฉุดกระชากเข้าไปในตัวหยั่งรู้ มีงูดำที่ใหญ่โตมโหฬารตัวหนึ่งปรากฏในตัวหยั่งรู้ของเขา จากนั้นมันก็พุ่งตรงไปยังจุดศูนย์กลางของตัวหยั่งรู้ หวังจะกลืนกินวิญญาณดั้งเดิมของเขา
หากเปลี่ยนเป็นจอมยุทธ์คนอื่น บางทีอาจจะถูกชายอัปลักษณ์นี่เล่นงานแล้ว แต่หลัวซิวกลับแตกต่างกัน เนื่องจากเขาก็เชี่ยวชาญพลังอมตะด้านวิญญาณเช่นกัน
ตรงใจกลางตัวหยั่งรู้ ญาณเทวร่างมนุษย์ของหลัวซิวกระตุกยิ้มมุมปากอย่างเยือกเย็นเหมือนมนุษย์ ในมือเขากำลังเล่นลูกแก้วที่มีสีขาวดำตัดสลับกันหนึ่งลูก ซึ่งลูกแก้วลูกนี้ก็คือสมบัติที่เปลี่ยนแปลงโชคชะตาในภพชาตินี้ของเขา ลูกแก้วความเป็นตาย!
“ตู้มม!”
จากการที่การประลองยุทธ์ได้ดำเนินการต่อไปอย่างต่อเนื่อง เมื่อถึงช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ตกดิน ผู้เข้ารอบก็เหลือเพียง 50 กว่าคนแล้ว
โควต้าที่ได้รับจากการแข่งขันประลองยุทธ์มีเพียงสิบที่เท่านั้น ซึ่งนี่ก็หมายความว่ามีแค่ขึ้นไปในอันดับสิบคนสุดท้าย ถึงจะได้รับโอกาสในการเข้าไปในสถานแหล่งเต๋า
กฎเกณฑ์ในการประลองยุทธ์ยังคงเรียบง่ายมากอยู่เช่นเคย ทำการต่อสู้กันแบบหนึ่งต่อหนึ่ง จากนั้นผู้เข้ารอบก็เหลือเพียง 25 คนแล้ว
จอมยุทธ์ที่สามารถเป็นผู้โดดเด่นในการแข่งขันหลายรอบได้นั้น ทุกคนล้วนเป็นวัยรุ่นผู้มีความฉลาดเป็นเลิศที่มีชื่อเสียงโด่งดังในหมู่วัยรุ่นยุคใหม่ โดยส่วนใหญ่แล้วคนเหล่านั้นจะไม่ค่อยปรากฏในการต่อสู้ที่สามารถเอาชนะได้อย่างง่ายดาย
มีเสียงตะโกนโห่ร้องดังมาจากรอบเวทีประลองยุทธ์ เคล็ดวิชาพลังอมตะต่าง ๆ ที่อยู่ในมือวัยรุ่นผู้มีความฉลาดเป็นเลิศล้วนตระการตาอย่างยิ่ง ทำให้คนจำนวนมากมองดูจนเหมือนถูกสะกดจิต
เมื่อถึงคราวหลัวซิวอีกครั้งหนึ่ง คู่ต่อสู้ของเขาคือชายหนุ่มเตี้ยเล็กที่ดูแล้วสูงแค่ร้อยห้าสิบคนหนึ่ง คนที่ดูไม่โดดเด่นเช่นนี้ แต่กลับมีผลการฝึกตนอยู่ในแดนเทพมารระดับเก้าช่วงกลาง
ด้านหลังของคนดังกล่าวมีกงล้อเทพวงแรกผนึกรวมออกมาแล้ว ซึ่งคุณภาพของมันบรรลุถึงชั้นกลาง ส่วนกงล้อเทพวงที่สองของเขายังเป็นเพียงเงาลวงเท่านั้น เห็นได้ชัดเจนเลยว่าเขาวางแผนที่จะอาศัยโอกาสในสถานแหล่งเต๋า ผนึกรวมกงล้อเทพวงที่สองที่มีคุณภาพไม่ต่ำกว่าชั้นสูงออกมา
คุณภาพสูงต่ำของกงล้อเทพ เกี่ยวเนื่องถึงระดับความสูงต่ำของผลสำเร็จในอนาคตของจอมยุทธ์คนหนึ่ง ดังนั้นคู่ต่อสู้ทุกคนที่อยู่ในการประลองในครั้งนี้ ล้วนเป็นศัตรูตัวฉกาจในชั่วชีวิตนี้!
หลังจากทั้งสองฝ่ายเดินขึ้นเวทีแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรเช่นกัน ชายเตี้ยเล็กเป็นฝ่ายลงมือก่อน โบกมือทีเดียวก็มีรัศมีเทวหลายดวงพุ่งไปยังรอบเวทีประลองยุทธ์
“ตึก! ตึก! ตึก! ……”
รัศมีเทวทั้งหลายปรากฏบริเวณรอบ ๆ เห็นได้ชัดเจนเลยว่ามันคือธงค่ายนับร้อยผืน มีธาตุพลังเต๋าสองประเภทที่แตกต่างกันแพร่กระจายออกมาจากธงค่ายเหล่านั้น ซึ่งได้แก่ธาตุน้ำและธาตุไฟ
“ค่ายอัคคีน้ำแข็งสี่ด้าน!”
ชายเตี้ยเล็กใช้เท้าย่ำพื้นทีหนึ่ง มือทั้งสองข้างประสานอินกันอย่างรวดเร็ว เพียงชั่วพริบตาเดียวก็มีน้ำแข็งและไฟพรั่งพรูออกมา เปลวไฟที่มากมายมหาศาลกลายเป็นมังกรเพลิงที่ดุร้ายตัวหนึ่ง พลังเกณฑ์ธาตุน้ำแข็งที่เย็นยะเยือกถึงขีดสุดกลายเป็นหงส์น้ำแข็งที่ราวกับสร้างมาจากผลึกน้ำแข็ง
ธาตุน้ำและไฟเป็นสองขั้วที่อยู่ตรงกันข้าม ณ เสี้ยววินาทีที่พลังทั้งสองประเภทนี้ปะทะกัน ก็จะมีพลังสุดแข็งแกร่งที่อยู่เหนือธาตุทั้งสองประเภทนี้ถูกระเบิดออกมา
หลัวซิวจมหายเข้าไปในแรงระเบิดและเสียงดังสะเทือนเลื่อนลั่นที่น่ากลัวภายในพริบตา นี่จึงทำให้คนจำนวนไม่น้อยที่อยู่ด้านล่างเวทีต่างอุทานอย่างตะลึง เนื่องจากไม่มีผู้ใดคาดถึงเลยว่าพลานุภาพของค่ายกลดังกล่าวจะทรงพลังเช่นนี้ พลานุภาพระดับนี้ ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งราชาเทพระดับเก้าก็คงไม่มีทางหลบเลี่ยงได้อย่างปลอดภัยหรอกกระมัง?
“นี่ก็คือพลังที่เกิดจากเกณฑ์สองประเภทหลอมรวมเข้าด้วยกันหรือ? น้ำแข็งและไฟทั่วไปไม่แข็งแกร่งแต่อย่างใด แต่ถ้าเกิดน้ำแข็งไฟกีดกันและปะทะกัน ก็จะสามารถระเบิดพลานุภาพที่น่ากลัวออกมาได้”
“ผู้ที่เข้าใจหลักการนี้มีเยอะมาก ทว่าผู้ที่สามารถทำมันได้อย่างแท้จริงนั้นกลับมีไม่มาก แม้แต่ชายเตี้ยเล็กนั่นก็ต้องใช้ค่ายกลมาทำให้อุบายประเภทนี้เป็นจริงได้”
ในจำนวนคนทั้งหมดที่อยู่ด้านล่างเวที ย่อมไม่ขาดแคลนผู้ที่โลกทัศน์สูงอยู่แล้ว ดูออกแล้วว่าชายเตี้ยเล็กอาศัยค่ายกล ถึงจะสามารถกระตุ้นพลังแห่งน้ำแข็งไฟออกมาได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
นี้ก็หายไปเป็นปีเลย แอแ...
รออ่านยุ...
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...