มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 282

พลังจิตแท้ของหลัวซิวค่อย ๆ ลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ภูตอัคคีกลืนกินกับสามารถนำพลังงานของทะเลพลิงมาใช้อย่างต่อเนื่อง และฟื้นฟูจนแข็งแกร่งขึ้น ฝ่ายหนึ่งกำลังอ่อนกำลังลง ส่วนอีกฝ่ายกำลังแข็งแกร่งขึ้น เกรงว่าเขาจะยังไม่ทันได้กลั่นแปรภูตอัคคี ตนเองอาจจะใช้พลังจิตแท้ไปจนหมดเสียก่อน จากนั้นก็คงถูกเผาไหม้จนกลายเป็นจุณ

“บ้าเอ๊ย ฉันขอสู้ตาย ! พลังแปรเสวียนเทียนยี่สิบสี่เท่า จงสำแดงออกมาเดี๋ยวนี้ !”

หลัวซิวตะโกนออกมาเสียงดัง ออร่าภายในร่างกายของเขาพุ่งสูงขึ้นทันที พลังของสำนึกที่มีอยู่เดิมก็เพิ่มขึ้นอีกยี่สิบสี่เท่าในทันที และประทับตราออร่าของตนเองอย่างต่อเนื่อง เข้าไปในทุก ๆ รังสีของเปลวเพลิง

มาถึงขั้นนี้แล้ว ถือว่าหลัวซิวยอมสู้อย่างสุดชีวิต หากไม่สำเร็จ ก็คงต้องพ่ายแพ้อย่างราบคาบ

ภายใต้การแผดเผาของภูตอัคคี ร่างกายภายในของหลัวซิวเกือบจะพังทลายลงหมดแล้ว ตอนนี้ยังโคจรพลังแปรเสวียนเทียนยี่สิบสี่เท่าอย่างสุดชีวิตอีก ร่างกายที่กำลังตกอยู่ในอันตราย ดูเหมือนจะไม่อาจทานทนต่อไปได้อีก

พรวด !

โลหิตพุ่งออกมาจากร่างกายของเขาทีละสาย ๆ รอยแตกบนผิวหนังของเขาค่อย ๆ ขยายใหญ่ขึ้น จนสามารถมองเห็นกระดูกและเส้นเอ็นที่อยู่ภายในได้อย่างชัดเจน

เพราะลมหายใจที่บ้าคลั่งหมุนเวียนอยู่เป็นเวลานานเช่นนี้ ร่างกายของหลัวซิวจึงอ่อนแรงและล้มลง หลุมดำรัศมี 100 เมตร หดกลับเข้าไปในร่างกายของเขาทันที และหายไป

ในขณะที่ล้มลง หลัวซิวใช้วิชาสยบวิญญาณสั่งการสิงห์ทิพย์อัคคีอร่าม ให้พาเขาออกไปจากทะเลเพลิง

เพราะตัวเขาในตอนนี้ พลังจิตแท้ภายในร่างกายถูกใช้ไปหมดสิ้นแล้ว หากไม่มีพลังจิตแท้คอยปกป้องร่างกายเอาไว้ เกรงว่าร่างกายของเขาคงจะต้องถูกเผาจนมอดไหม้อยู่ภายใต้ทะเลเพลิง

สิงห์ทิพย์อัคคีอร่ามกระโจนเข้ามา มันอ้าปากกว้างและคาบหลัวซิวเอาไว้ในปาก จากนั้นจึงใช้ร่างกายขนาดใหญ่วิ่งฝ่าเปลวไฟออกไป

“ออกมาแล้วหรือ ?”

เมื่อเห็นสิงห์ทิพย์อัคคีอร่ามที่กระโจนออกมาจากทะเลเพลิง ท่าทีของหลงหมิงก็ดูสับสนเล็กน้อย

สิงห์ทิพย์อัคคีอร่ามคายหลัวซิวออกมาจากปาก และให้เขานอนราบอยู่ตรงทางเข้าของทางเดินชั้นใต้ดิน ลมหายใจบนร่างกายแผ่วเบา ราวกับว่ากำลังจะตาย และก้าวเท้าข้างหนึ่งเข้าไปยังประตูนรกแล้ว

ในสถานการณ์เช่นนี้ หลัวซิวก็จมอยู่กับสภาวะที่ไร้สติ และพลังแรกที่ถูกกระตุ้นขึ้นก็คือความเป็นอมตะ

วงล้อชีวิตแห่งเหล่าทวยเทพในจุดตันเถียนชี่ไห่ หมุนไปจนถึงจุดสิ้นสุด ราวกับกลายเป็นภาพลวงตาที่เลือนราง และพลังชีวิตอันแข็งแกร่งก็ถูกปลดปล่อยออกมา และซ่อมแซมร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บอย่างต่อเนื่อง

ร่างกายภายในของเขาถูกภูตอัคคีทำร้ายจนแทบไม่เหลือชิ้นดี ดูราวกับซากปรักหักพัง ตอนนี้ด้วยพลังผู้เป็นอมตะที่ถูกกระตุ้นขึ้นมา ร่างกายจึงมีการซ่อมแซมขึ้นใหม่อย่างรวดเร็ว

พลังที่ยิ่งใหญ่ของผู้เป็นอมตะอยู่ที่ นอกเสียจากจะถูกฆ่าให้ตายโดยทันที มิฉะนั้นตราบใดที่ยังมีลมหายใจหลงเหลืออยู่ ก็สามารถยืนหยัดกลับขึ้นมาจากความตายได้อีกครั้ง และจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม

ภายในจุดตันเถียน ด้านข้างของวงล้อชีวิตแห่งเหล่าทวยเทพ มีเด็กทารกที่มีรูปร่างเป็นเปลวไฟที่แดงฉาน กำลังมองไปรอบ ๆ ด้วยใบหน้าที่ดูงุนงง พลังในการกลืนกินทุกสิ่งและพลังในการเผาไหม้ที่น่ากลัว ถูกควบคุมเอาไว้จนหมดสิ้น และดุไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต

ในกระบวนการนี้ หลัวซิวอาศัยพลังอมตะที่ถูกกระตุ้นขึ้น เริ่มสร้างตัวเองขึ้นมาใหม่......

พลังจิตแท้ของเขาถูกใช้หมดไปกับการปิดผนึกภูตอัคคีกลืนกินก่อนหน้านี้ ตอนนี้มีพลังชีวิตอันยิ่งใหญ่เข้ามาเติมเต็ม เมื่อผ่านการหมุนของวงล้อชีวิตแห่งเหล่าทวยเทพ ก็ปรากเป็นพลังจิตแท้ที่มีลักษณะเป็นเหมือนมังกรสีขาวดำกำลังผนวกเข้าด้วยกัน

หลังจากผลการฝึกตนของตนเองขึ้นไปถึงระดับปรมาจารย์ฝึกจิต และเข้าสู่กระบวนการการฝึกพลังจิตแท้ จากอากาศจนผนึกรวมกลายเป็นของเหลว และหากไปถึงการฝึกจิตขั้น 7 ช่วงปลาย จะมีการผนึกรวมเป็นจิตแท้ที่เกือบจะกลายเป็นของแข็ง

พลังจิตแท้ของหลัวซิวในตอนนี้ มาถึงระดับที่เป็นของแข็งแล้ว ราวกับมังกรที่มีชีวิต ที่กำลังแหวกว่ายอยู่ภายในช่องว่างของจุดตันเถียนชี่ไห่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ