มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 2840

ของขลังเรือโบราณของหลงฉิงเทียนแล่นไปด้วยความรวดเร็ว แต่กลับไม่สามารถหลุดรอดจากจากไล่ฆ่าของหลัวซิวได้ กฎปริภูมิและความเร็วรวมเข้าด้วยกัน เข้าใกล้คำว่าความเร็วที่รวดเร็วที่สุดในดาราจักรวาลก็ว่าได้

ในแง่ของความเร็วในการเหาะเหินเพียงอย่างเดียว ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งระดับมกุฎเทพขั้นเก้า หากว่าไม่เชี่ยวชาญพลังแห่งเกณฑ์ด้านปริภูมิและความเร็ว ในแง่ของความเร็วก็ยังด้อยกว่าหลัวซิวมาก นอกเสียจากผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิเทพขั้นเก้า ที่อาศัยผลการฝึกตนอันทรงพลังเท่านั้นจึงสามารถปราบปรามหลัวซิวในแง่ของความเร็วได้

เมื่อเห็นว่าไม่สามารถหลุดพ้นจากการไล่ฆ่าของหลัวซิวได้ หลงฉิงเทียนก็กัดฟัน พลิกมือหยิบฮู้อันหนึ่งขึ้นมา

เห็นเพียงว่าเขาลังเลที่จะบดขยี้ฮู้ ทันใดนั้นก็มีการระเบิดของพลังปริภูมิอันยิ่งใหญ่ ม้วนร่างของหลงฉิงเทียนขึ้นไป ทันใดนั้นก็หายไปในส่วนลึกของอนัตตา

“ฮู้ระดับจักรพรรดิเทพขั้นเก้า?”

ร่างของหลัวซิวพลันหยุดลงทันที ในวินาทีที่พลังของปริภูมิถูกฮู้กระตุ้น เขาก็รู้ได้ทันทีว่าในครั้งนี้เขาไม่สามารถรั้งหลงฉิงเทียนเอาไว้ได้

อัจฉริยะเช่นหลงฉิงเทียน ครอบครองลูกไม้ที่จะช่วยให้รอดชีวิตได้นั้นหาใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด

ตัวสำนึกของเขาปลดปล่อยออกไป ร่องรอยของกระแสสัมผัสปริภูมิถูกส่งต่อ อย่างไรก็ตามฮู้ที่หลงฉิงเทียนใช้นั้น มีความสำเร็จวิถีค่ายที่ลึกล้ำมาก ร่องรอยทั้งหมดถูกลบและซ่อนไว้ ไม่มีทางที่จะค้นหาได้

“โลกามังกรเทพไท่ซู โลกาฟ้าดินหลิงหลง……”

การเผชิญหน้ากันอย่างต่อเนื่องจากนักยุทธ์ของห้วงดาราพื้นโลกคนอื่น ๆ สิ่งนี้ทำให้หลัวซิวมีความรู้สึกถึงบางอย่างที่บอกไม่ถูก

การดำรงอยู่ของห้วงดาราพื้นโลกน้อยคนนักที่จะรู้ นักยุทธ์ส่วนใหญ่คิดว่าพื้นโลกที่พวกเขามีอยู่คือทั้งหมดของจักรวาลทวยเทพ

ตลอดเวลาที่ผ่านมา ระหว่างห้วงดาราและพื้นโลกไม่ค่อยได้ติดต่อกันนัก มิฉะนั้น ในชาติก่อนที่เขาไปถึงแดนผู้สูงส่งแล้ว ก็ควรจะรู้แต่เนิ่น ๆ ว่ามีการดำรงอยู่ของห้วงดาราพื้นโลกถึงจะถูก

แต่ในเมื่อเขาไม่รู้ นั่นแสดงว่ามีการสื่อสารระหว่างห้วงดาราและพื้นโลกน้อยมาก แต่มาถึงในยุคสมัยนี้ นักยุทธ์แห่งห้วงดาราพื้นโลกอื่น ๆ กลับปรากฏตัวขึ้นที่โลกมหาศักดิ์แปดด้านอย่างต่อเนื่อง ต้องมีเหตุผลสำหรับสิ่งนี้

เรื่องของหลงฉิงเทียนสำหรับหลัวซิวแล้วเป็นเพียงแค่การฉากแทรกสั้น ๆ เท่านั้น ผ่านการเผชิญหน้าจากแดนเดียวกันนี้ ก็ทำให้หลัวซิวสามารถพิสูจน์ได้ว่หลังจากที่ผลการฝึกตนบรรลุเทพมารขั้นเก้าแล้ว พลังที่แท้จริงก็ได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างชัดเจน

อาศัยเพียงพลังรบในวันนี้ สามารถทำให้เขาผยองต่อตู่ต่อสู้ทั้งหมดที่ต่ำกว่ามกุฎเทพขั้นเก้าได้ ถึงแม้จะเป็นราชาเทพขั้นเก้าขั้นสูงที่มีคุณสมบัติแห่งจักรพรรดิเทพ หลัวซิวก็ยังมีความมั่นใจเต็มเปี่ยมว่าสามารถเอาชนะหรือกระทั่งสังหารได้!

คำเรียกที่ว่าคุณสมบัติแห่งจักรพรรดิเทพ หมายถึงคนคนหนึ่งที่ครอบครองคุณสมบัติของผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิเทพ ในภายหน้ามีความเป็นไปได้อย่างสูงว่าจะสามารถฝึกตนถึงแดนจักรพรรดิเทพขั้นเก้า ดังเช่นในตอนที่อยู่ในแดนราชาเทพขั้นเก้า พลังความแข็งแกร่งที่เขาสามารถสำแดงออกมาได้ มันเทียบเท่ากับพลังการต่อสู้ของผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิเทพขั้นเก้าในวัยเยาว์

จากสิ่งนี้สามารถอนุมานได้ว่า ยังมีคุณสมบัติแห่งมหาจักรพรรดิยุทธ์ คุณสมบัติแห่งผู้สูงส่ง คุณสมบัติแห่งประมุขเต๋าคุณสมบัติแห่งมกุฎเต๋า รวมไปถึงคุณสมบัติแห่งวิถีเซียนด้วย

ยิ่งตุณสมบัติสูง พรสวรรค์ยิ่งแข็งแกร่ง พลังการต่อสู้ในแดนเดียวกันก็ยิ่งแข็งแกร่ง พลังรบของหลัวซิวสามารถเทียบได้กับมกุฎเทพขั้นเก้าช่วงต้นทั่วไป แต่หากได้พบกับ แต่หากได้พบกับมกุฎเทพขั้นเก้าช่วงต้นที่มีคุณสมบัติแห่งจักรพรรดิเทพก็จำเป็นต้องต้องใส่พลังทั้งหมดออกไป แต่หากเป็นมกุฎเทพขั้นเก้าช่วงต้นที่มีคุณสมบัติแห่งมหาจักรพรรดิยุทธ์ เช่นนั้นก็คงจะเต็มไปด้วยบาดแผลเนื่องจากสู้ไม่ได้

ผลการฝึกตนมาถึงระดับปัจจุบัน ช่องว่างในแต่ละแดนมีความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นความยากของความต่อสู้แบบข้ามแดนจึงเพิ่มขึ้นด้วย เป็นไปไม่ได้ที่จะข้ามแดนขนาดใหญ่สองหรือสามแดนเพื่อฆ่าคู่ต่อสู้เหมือนในอดีตอีกต่อไป

เรื่องของหลงฉิงเทียน หลัวซิวกลับไม่ได้เก็บมาใส่ใจ ร่างของเขากระพริบทีหนึ่งแล้วจากไปจากห้วงดาราแห่งนี้ เพราะเรื่องที่ตนข้ามผ่านทัณฑ์ ในเมื่อสามารถดึงดูดความสนใจจากหลงฉิงเทียนได้ ก็ไม่แน่ว่าอาจจะดึงดูดผู้แข็งแกร่งคนอื่น ๆ ได้เช่นเดียวกัน

ท่ามกลางทัณฑ์สายฟ้าพิโรธ ภาพมายาคัมภีร์สวรรค์ที่ถูกกดไว้ในกงล้อเทพ หลัวซิวจำเป็นต้องหาสถานที่ที่เหมาะสมเพื่อปิดขังฝึกตนและนำมันมากลั่นแปร

เพราะว่าเพียงแค่เทพมารขั้นเก้า ภาพมายาคัมภีร์สวรรค์ก็ปรากฏขึ้นในมหาทัณฑ์ เพราะฉะนั้นท่ามกลางภาพมายาคัมภีร์สวรรค์นี้ความพิสดารที่เต็มเปี่ยมอยู่ในนั้นมันไม่ใช่ความลึกลับที่พิเศษแต่อย่างใด

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ทำให้หลัวซิว มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นและเข้าใจถึงพลังแห่งเทียนเต้าสิบสองชนิดที่ถูกบรรยายผ่านคัมภีร์สวรรค์

หลังจากผลการฝึกตนบรรลุถึงเทพมารขั้นเก้าแล้ว วิสัยทัศของหลัวซิวก็ยิ่งชัดเจนมากกว่าแต่ก่อน เขามายังด้านนอกของแดนดารานอกนภาอีกครั้ง ยืนอยู่ท่ามกลางห้วงดารามองไปยังพสุดาราฟ้าดินที่ห่างไกล ทันใดนั้นมีความรู้สึกที่แตกต่างจากเมื่อก่อน

ในตอนแรก เขาคิดว่าข้อกำหนดฟ้าดินของแดนดารานอกนภา คือการแก้ไขมาจากข้อกำหนด ทวยเทพธรรมเวชของโลกมหาศักดิ์แปดด้าน แต่ตอนนี้เมื่อพิจารณาใหม่อีกครั้ง ก็ได้พบว่า ข้อกำหนดของแดนดารานอกนภา ในความจริงแล้วไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อกำหนดของทวยเทพธรรมเวชแม้แต่น้อย เพราะว่าข้อกำหนดของแดนดารานอกนภาไม่ได้ถูกแก้ไขมาจากพื้นฐานของข้อกำหนดทวยเทพธรรมเวช แต่แปรมาจากตรีภพโกลาหลธรรมเวชที่มกุฎเต๋าอวกาศได้ฝึกตนมาทั้งหมดนั่นเอง

มกุฎเต๋าอวกาศใช้ตรีภพโกลาหลธรรมเวชสร้างแผ่นดินแดนห้วงดาราแห่งข้อกำหนดฟ้าดินออกมาได้ใกล้เคียงกับความสมบูรณ์ เขาใช้ความสำเร็จจากธรรมเวชตรีภพถึงระดับที่สูงมากแล้ว

กระทั่งหลัวซิวคิดว่า ถ้าหากมกุฎเต๋าอวกาศยินยอม เขาสามารถอาศัยธรรมเวชตรีภพกลั่นแปรสร้างโลกมหาศักดิ์แห่งที่เก้า ทำให้โลกมหาศักดิ์แปดด้านกลายเป็นโลกมหาศักดิ์เก้าด้าน

อย่างไรก็ตาม การสร้างแผ่นดินขึ้นมาแห่งหนึ่ง กลับไม่เพียงพอที่จะเป็นความสำเร็จของแดนวิถีเซียน หากต้องการสำเร็จวิถีเซียน ก็ต้องข้ามผ่านจุดสูงสุดของข้อกำหนดธรรมเวช นำเอาทวยเทพธรรมเวชรูปแบบหนึ่งฝึกตนจนถึงแดนบริบูรณ์ ก็จะสามารถจุติเซียนได้!

หากว่านำแดนข้อกำหนดธรรมเวชมาแบ่งออก ก็จะสามารถแบ่งออกได้เป็นช่วงต้น ช่วงกลาง ช่วงปลาย ขั้นสูง และบริบูรณ์

มกุฎเต๋าอวกาศถือว่าอยู่ในข้อกำหนดธรรมเวชตรีภพแดนขั้นสูง เขายังขาดอีกเพียงครึ่งก้าว ก็จะสามารถก้าวถึงบริบูรณ์ และจุติเซียน

ส่วนหลัวซิว เขายังคงอยู่ที่กระบวนการช่วงต้นของข้อกำหนดธรรมเวช เรียกได้ว่าแม้แต่ผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้นเก้า ก็ยังคงอยู่ในระดับนี้ มีเพียงผู้ที่บรรลุถึงแดนผู้สูงส่งเท่านั้น จึงจะถือว่าได้เข้าสู่ระดับสูงอย่างแท้จริง ข้ามเข้าสู่แดนช่วงกลางของข้อกำหนดธรรมเวช ผู้แข็งแกร่งประมุขเต๋าก็คือช่วงปลาย มกุฎเต๋าคือขั้นสูง……

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ