ในเมืองร้างไม่มีค่ายวาร์ป เหตุผลหลักเพราะอยู่ห่างไกลเกินไป ค่ายวาร์ปธรรมดาไม่สามารถบรรลุผลตามที่ต้องการได้ ประกอบกับมีข้อจำกัดมากมายในการจัดตั้งค่ายวาร์ป ดังนั้นหากจะเดินทางจากเมืองร้างกลับไปยังประเทศเทียนหวู จะต้องออกจากเมืองร้างผ่านทางดินแดนรกร้างทางตอนเหนือแห่งนี้
ห่างจากเมืองร้างออกไปหลายร้อยลี้ มีกลุ่มคนชุดดำปิดบังใบหน้าปรากฏตัวขึ้นอยู่ตรงด้านหน้า และเข้ามาขวางทางขบวนของฝานหลิงหยุนเอาไว้
ในที่ลับตาไกลออกไป หลัวซิวหลบซ่อนตัวอยู่อย่างระมัดระวัง และหรี่ตาลง
“ดูเหมือนว่าราชวงศ์ตระกูลฝาน ถึงแม้จะมีอิทธิพลอย่างมากในประเทศเทียนหวู แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีใครกล้าล่วงเกิน”
การปรากฏตัวของกลุ่มคนชุดดำปิดบังใบหน้า แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าต้องการลอบฆ่าระหว่างทาง และแย่งชิงวิชาภูตผีเซินหลัว
“พวกเจ้าเป็นใคร ? กล้ามาขวางทางข้าอย่างนั้นหรือ ?” ฝานหลิงหยุนตะคอกอย่างดุดัน ร่างกายของเขาแผ่รัศมีของผู้แข็งแกร่งระดับราชายุทธ์ออกมา
“เหอะ ๆ จักรพรรดิหลิงหยุนจะรีบเดินทางออกจากดินแดนรกร้างแห่งนี้ทำไมกัน ? ไม่สู้ทิ้งของบางอย่างเอาไว้แล้วค่อยออกไปจะดีกว่าไหม ?”
ชายชุดดำปิดบังใบหน้าที่เป็นหัวหน้าหัวเราะขึ้นเสียงดัง ดวงตาของเขาเปล่งประกายราวกับเปลวไฟ
“สามหาว ! สิ่งของของราชวงศ์ตระกูลฝานเรา เจ้ากล้าแย่งชิงอย่างนั้นหรือ ช่างไม่รู้จักรักตัวกลัวตายเอาเสียเลย !” ฝานหลิงหยุนโกรธจัด เขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเป้าหมายในการมาของอีกฝ่ายก็คือ ทักษะยุทธ์ชั้น 9
“หึ จักรพรรดิหลิงหยุน ข้าขอเตือนให้ท่านยอมมอบของออกมาแต่โดยดีจะดีกว่า ถึงแม้ท่านจะเป็นผู้แข็งแกร่งระดับราชายุทธ์ แต่ก็ใช่ว่าจะมีเพียงแค่ท่านคนเดียว
ด้านข้างของหัวหน้ากลุ่มชายชุดดำปิดปังใบหน้า มีคนอีกสองคนปรากฏตัวขึ้นมา แต่ละคนล้วนแล้วแต่แผ่รัศมีอันทรงพลังของผู้แข็งแกร่งระดับราชายุทธ์ออกมา
ราชายุทธ์สามคน !
ในสถานการณ์สามต่อหนึ่งเช่นนี้ ทำให้สีหน้าของฝานหลิงหยุนเปลี่ยนไปอย่างมากในทันที
“ย่า !”
ฝานหลิงหยุนตะโกนเสียงดัง จากนั้นก็กลายเป็นลำแสงในทันที และรีบหนีขึ้นไปบนท้องฟ้าในระยะไกลอย่างรวดเร็ว
นักยุทธ์ตระกูลฝานจำนวนมากที่ร่วมเดินทางมากับเขาก็ชักดาบออกมา มือถืออาวุธ ส่วนร่างกายก็แผ่รังสีของพลังจิตแท้ออกมา ดูเหมือนจะเป็นปรมาจารย์ยุทธ์แดนฝึกจิต
“ถ้าดื้อนักก็ไปตายซะ ฆ่าพวกมันให้หมด !”
หัวหน้าของกลุ่มคนชุดดำปิดบังใบหน้าออกคำสั่ง คนชุดดำจำนวนมากที่อยู่ด้านหลังก็แผ่รัศมีออกมา ทั้งสองฝ่ายพุ่งเข้าต่อสู้กัน
และในตอนนี้เอง ราชายุทธ์ที่สวมชุดดำทั้งสามคนก็เหาะขึ้นไปบนท้องฟ้า และตามเส้นทางการหลบหนีของฝานหลิงหยุนไปอย่างรวดเร็ว
ในบรรดาราชายุทธ์ชุดดำทั้งสามคน มีหนึ่งคนที่ฝึกตนด้วยวรยุทธ์ธาตุลม จึงมีความเร็วที่ยอดเยี่ยมที่สุด ไม่นานนัก เขาก็ไล่ตามฝานหลิงหยุนได้ทัน จากนั้นจึงลงมือเข้าขัดขวาง และให้สหายทั้งสองคนที่อยู่ด้านหลังตามมาได้ทัน
กลางอากาศ ฝานหลิงหยุนชักกระบี่ยุทธ์ออกมา ใบหน้าของเขาเคร่งเครียดอย่างสุดขีด
ส่วนราชายุทธ์ชุดดำทั้งสามกลับมีสายตาที่เย็นชา และมีเจตนาฆ่าที่รุนแรง
ในเวลานี้ ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรให้มากความอีก ทั้งสองฝ่ายเริ่มต่อสู้กัน เสียงระเบิดของพลังจิตแท้ที่ผันผวนดังสนั่นอยู่กลางอากาศ และดังก้องเข้ามาในหูอย่างต่อเนื่อง
การต่อสู้กันระหว่างปรมาจารย์ฝึกจิตเหล่านั้น หลัวซิวขี้เกียจจะดู สายตาของเขาจับจ้องไปยังการต่อสู้กลางอากาศของนักยุทธ์ทั้งสี่คนที่อยู่ห่างออกไป
รัศมีของพลังจิตแท้ที่เปล่งประกายออกมาดูราวกับเปลวไฟ เข้ามาปกคลุมร่างกายของผู้แข็งแกร่งระดับราชายุทธ์ทั้งสี่เอาไว้ รัศมีที่ปล่อยออกมาเริ่มดำเนินไปถึงจุดที่แข็งแกร่งที่สุดแล้ว
ในขณะที่เคลื่อนไหวร่างกาย พลังของฟ้าดินก็ถูกระดมเข้ามา หนึ่งหมัดหนึ่งกระบี่ หนึ่งนิ้วหนึ่งดาบ ทักษะยุทธ์ทุกชนิดที่อยู่เหนือชั้น 7 ถูกนำออกมาใช้ พลังยิ่งใหญ่จนหาตัวจับยาก ต่อสู้กันจนความว่างเปล่าสั่นไหว และอากาศบิดเบี้ยว
ราชายุทธ์ทั้งสามที่เข้ามาปิดล้อมฝานหลิงหยุนเอาไว้ หากแยกออกมาทีละคน ยังถือว่ามีความแข็งแกร่งที่ด้อยกว่าฝานหลิงหยุนเล็กน้อย แต่เมื่อทั้งสามคนร่วมมือกัน และเข้าโจมตีอย่างต่อเนื่องจากทุกทิศทาง ทำให้เขายากที่จะรับมือได้ ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันเพียงแค่สิบกว่ากระบวนท่า ก็เริ่มที่จะล่าถอย และมีใบหน้าที่ซีดเผือดขึ้นเรื่อย ๆ
“ย่า !”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...