ในสุดยอดแดนศักดิ์สิทธิ์ของโลกร้าง สำนักอัมพรเทวศักดิ์สิทธิ์มีประวัติความเป็นมาสั้นสุด แต่เนื่องจากฮวงจวินคนปัจจุบัน สำนักอัมพรเทวศักดิ์สิทธิ์จึงมีตำแหน่งสูงมากในโลกร้าง
ตำแหน่งของสำนักศักดิ์สิทธิ์ได้มาจากฮวงจวิน และการกระทำกับคำพูดทุกอย่างของฮวงจวิน จึงกลายเป็นกฤษฎีกาสูงสุดในสำนักอัมพรเทวศักดิ์สิทธิ์
คำสั่งถูกถ่ายทอดออกไป มีสำนักอัมพรเทวศักดิ์สิทธิ์เป็นจุดศูนย์กลาง บนปฐพีที่มีอาณาเขตกว้างขวางซึ่งอยู่ในการควบคุมของสำนักศักดิ์สิทธิ์ บรรดาตระกูลสำนักต่าง ๆ ล้วนพากันเคลื่อนตัว เพื่อไปรวมกันที่สำนักศักดิ์สิทธิ์
ไม่พูดไม่ได้ว่า สำนักอัมพรเทวศักดิ์สิทธิ์ควบคุมอาณาบริเวณผืนนี้ได้เป็นอย่างดี กองกำลังต่าง ๆ มารวมตัวกันได้อย่างรวดเร็ว
ในธรณีสำนักของสำนักอัมพรเทวศักดิ์สิทธิ์ มีจัตุรัสขนาดใหญ่อยู่แห่งหนึ่ง หอคอยเทวสีทองเหลืองอร่ามลอยอยู่เหนือจัตุรัส มันคือสมบัติในตำนานของโลกร้าง หอคอยฮวงนั่นเอง!
บนจัตุรัสในเวลานี้ มีนักยุทธ์ที่มาจากกองกำลังต่าง ๆ รวมตัวกันอยู่จำนวนมาก เงาคนตะคุ่ม ๆ มากมายหนาแน่น มีผลการฝึกตนในแดนราชาเทพวัฏจักรห้าเป็นอย่างน้อย ผู้คนล้นหลาม กระทั่งที่ว่ามองไม่เห็นท้าย
“ฮวงจวินได้ถ่ายทอดคำสั่งด้วยตนเอง เกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือ?”
“เรียกให้นักยุทธ์มารวมตัวกันมากมายเช่นนี้ สำนักศักดิ์สิทธิ์จะทำศึกกับกองกำลังใดเช่นนั้นหรือ?”
“หอคอยฮวงในตำนาน มีเพียงผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งยุคของโลกร้างเท่านั้นถึงจะมีคุณสมบัติควบคุม”
นี่คือเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่มาจากนักยุทธ์จากกองกำลังต่าง ๆ ในจัตุรัส
ขณะเดียวกัน ด้านหน้าจัตุรัส มีตำหนักสูงตระหง่านตั้งอยู่ ตำหนักแห่งนี้ก็คือตำหนักศักดิ์สิทธิ์ของสำนักศักดิ์สิทธิ์นั่นเอง
เวลานี้มีจักรพรรดิเทพวัฏจักรเจ็ดนับพันคนนั่งขัดสมาธิอยู่ ซึ่งมาจากกองกำลังต่าง ๆ ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของสำนักอัมพรเทวศักดิ์สิทธิ์
สำนักตระกูลที่พึ่งพิงสำนักอัมพรเทวศักดิ์สิทธิ์มีนับร้อยนับพัน บางกองกำลังมีจักรพรรดิเทพวัฏจักรเจ็ดหนึ่งคน บางกองกำลังมีสองคน หรือมากกว่านั้น
นี่ก็คือรากฐานของสุดยอดสำนักศักดิ์สิทธิ์ กำลังที่แท้จริงนั้นไม่ใช่แค่ตัวสำนักศักดิ์สิทธิ์เอง ยังมีกองกำลังต่าง ๆ ที่อยู่ใต้บังคับบัญชา ส่วนสำนักอัมพรเทวศักดิ์สิทธิ์เป็นผู้ควบคุมทั้งหมด ให้กองกำลังต่าง ๆ ก้มฟังคำสั่ง ล้วนเพราะอาศัยอานุภาพของฮวงจวิน!
บนบัลลังก์ที่ตั้งอยู่ตำแหน่งสูงสุดในตำหนัก เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ของสำนักอัมพรเทวศักดิ์สิทธิ์กำลังนั่งอยู่อย่างน่าเกรงขาม ด้านข้างของเขามีเงาร่างสิบสองเงา แต่ละคนล้วนเป็นมหาจักรพรรดิยุทธ์ มหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าสี่คน มหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรแปดแปดคน!
สำหรับผู้แข็งแกร่งระดับผู้สูงส่ง ในสำนักอัมพรเทวศักดิ์สิทธิ์มีเพียงฮวงจวินคนเดียวเท่านั้น สืบทอดมาเป็นเวลานาน อัจฉริยะที่บ่มเพาะเลี้ยงดูมานั้นมีไม่น้อย แต่ก็ไม่มีผู้ใดก้าวเข้าสู่แดนผู้สูงส่งได้เลย
แม้จะเป็นเช่นนี้ รากฐานของสำนักอัมพรเทวศักดิ์สิทธิ์ก็ยังคงแข็งแกร่งมาก เพราะอย่างไรเสียในที่แจ้งเมืองต้างฮวงโบราณก็มีเพียงฮวงเจิ้นเทียนเท่านั้นที่เพิ่งบรรลุแดนผู้สูงส่ง ตระกูลเทียนฮวงก็มีเพียงเจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนฮวงที่เป็นผู้สูงส่งแค่คนเดียว แม้ว่าจะยังมีผู้สูงส่งคนอื่น ๆ เมื่อรวมกันแล้วยังไงก็เทียบกับแดนผู้แกร่งเลิศและยังครอบครองหอคอยฮวงอย่างฮวงจวินไม่ได้
ทันใดนั้นเอง แสงสีทองเจิดจรัสได้รวมตัวกันอยู่บนท้องฟ้าเหนือธรณีสำนักของสำนักศักดิ์สิทธิ์ ใบหน้าสีทองอร่ามขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมาให้ทุกคนได้เห็น
ในขณะเดียวกัน พลังกดดันอันแรงกล้าของผู้สูงส่งแพร่กระจายไปทั่ว ทำให้คนเกิดความหวั่นเกรง “น้อมพบผู้สูงส่ง!”
ในตำหนักใหญ่ของสำนักศักดิ์สิทธิ์ บริเวณจัตุรัส นักยุทธ์นับแสนได้พากันคุกเข่าข้างหนึ่งลง พลางตะโกนเสียงดัง คุกเข่าด้วยความเคารพยำเกรง
“โลกในตอนนี้ มหาทัณฑ์กำลังจะบังเกิด ตัวข้าครอบครองหอคอยฮวงประจำการบนผืนปฐพีแห่งนี้ คุ้มครองตระกูลสำนักของพวกเจ้าไม่ให้ได้รับเคราะห์กรรมจากมหาทัณฑ์ ทว่าตอนนี้กลับมีคนคิดแย่งชิงหอคอยฮวงดั้งเดิม มันช่างสมควรตายยิ่งนัก!”
“พวกเจ้ายินดีออกรบกับข้าหรือไม่?”
“พวกข้ายินดี!” ทุกคนตะโกนอย่างพร้อมเพรียง
“ดีมาก จัดขบวนเตรียมออกรบ ระดมปืนใหญ่มกุฎอัมพรเทวหนึ่งแสนกระบอก โจมตีอาณากระบี่หวูจี๋” เสียงดังกังวานของฮวงจวินดังก้องไปทั่วปฐพี
นับตั้งแต่หลัวซิวได้สังหารเขาตอนประทับร่างโจว๋ชิวในตำหนักหลักเมืองต้าฮวง ฮวงจวินก็ได้ตัดสินใจทำเช่นนี้โดยไม่ลังเลเลยสักนิด เขาจะโจมตีอาณากระบี่หวูจี๋ ไม่ว่าต้องแลกด้วยสิ่งใดก็ตาม หลัวซิวก็จักต้องตาย!”
แม้ว่าสงครามในครั้งนี้จะไม่อาจทำลายล้างอาณากระบี่หวูจี๋ได้อย่างจริงจัง แต่กลับสามารถเพิ่มความกดดันให้กับอาณากระบี่หวูจี๋ ให้พวกเขายอมมอบตัวหลัวซิวออกมาเอง!
แต่น่าเสียดาย ความคิดของฮวงจวินนั้นดีมาก ทว่าเขากลับประเมินตัวเองสูงเกินไป และประเมินรากฐานของสำนักอัมพรเทวศักดิ์สิทธิ์สูงเกินไปจริง ๆ
“เหตุใดต้องวุ่นวายเช่นนั้นด้วย? ข้ามาแล้วนี่ไงเล่า!”
ทันใดนั้นเอง เสียงที่แฝงไปด้วยแววเหยียดหยามดังลอยมาจากด้านนอกธรณีสำนักของสำนักอัมพรเทวศักดิ์สิทธิ์
สายตากับตัวสำนึกลอยไปตามเสียงสายแล้วสายเล่า จากนั้นก็พบว่ากลางอากาศที่ด้านนอกธรณีสำนักของสำนักอัมพรเทวศักดิ์สิทธิ์ ตู๋กูกับหลัวซิวได้พาจักรพรรดิเทพวัฏจักรเจ็ดสองร้อยกว่าคนปรากฏตัวขึ้นที่ตรงนี้
ตอนที่มาถึงสำนักอัมพรเทวศักดิ์สิทธิ์ จักรพรรดิเทพวัฏจักรเจ็ดสองร้อยกว่าคนต่างพากันตะลึงอ้าปากค้าง ภายในใจของแต่ละคนได้มีความคิดที่เหมือนกันผุดขึ้นมา เจ้าแดนบ้าไปแล้วหรือ? คิดจะมาท้าทายสำนักอัมพรเทวศักดิ์สิทธิ์โดยอาศัยคนเพียงเท่านี้อย่างนั้นหรือ?
ฮวงจวินผู้นั้นเป็นถึงผู้แข็งแกร่งที่สุดแห่งโลกร้างของยุคนี้เชียวนะ!
“ใครกันบังอาจมาสามหาวในธรณีสำนักของสำนักศักดิ์สิทธิ์ของข้า?”
เสียงตวาดดังขึ้น จากนั้นก็มีแสงกลสิบกว่าสายลอยออกมา เป็นผู้แข็งแกร่งที่รับผิดชอบเฝ้าประตูธรณีสำนักได้ค้นพบพวกหลัวซิวเข้า
“สำนักอัมพรเทวศักดิ์สิทธิ์ นับจากนี้ไปจะไม่มีอยู่อีกแล้ว แล้วจะมีธรณีสำนักได้อย่างไร?”
ตู๋กูส่งเสียงเย้ยหยัน บางทีคำพูดเช่นนี้ในสายตาของใครหลายคนอาจจะยโสโอหังถึงขีดสุด แต่มีเพียงหลัวซิวที่ไม่คิดเช่นนั้น
“สวบ!”
แสงกระบี่สายหนึ่งกวาดผ่านแผ่นฟ้า แสงกลที่ลอยออกมาจากสำนักอัมพรเทวศักดิ์สิทธิ์ ได้กลายเป็นผุยผงไปภายใต้แรงสยบของแสงกระบี่ไปภายในพริบตา
อานุภาพของแสงกระบี่ไม่ลดลง แพรวพราวประดุจเสา เฉกเช่นเขากระบี่ที่ทอดยาว ฟันสยบลงไปยังธรณีสำนักของสำนักอัมพรเทวศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ด้านล่าง
“พรึบ!”
ค่ายป้องกันของสำนักอัมพรเทวศักดิ์สิทธิ์ถูกเปิด ค่ายกลค่ายนี้นั้นเป็นค่ายกลระดับผู้สูงส่ง ต่อให้ผู้แข็งแกร่งระดับผู้สูงส่งมากมายหลายคนลงมือจู่โจมพร้อมกัน ก็ยากที่จะทำลายการป้องกันของค่ายกลนี้ได้ในระยะเวลาอันสั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...
ตอนใหม่ยังไม่ลงเลยครับ...