มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 2900

สถานการณ์ในสนามรบเปลี่ยนแปลงไปร้อยแปดพันเก้า ภายใต้ความที่คนมีใจคิดร้ายคนที่ไม่ป้องกัน หลัวซิวได้ถูกกักขังเอาไว้ในค่ายโลหิตมารฉกรรจ์

“แย่แล้ว!”

หลังจากหลัวซิวได้ถูกค่ายโลหิตมารฉกรรจ์กักขังเอาไว้ เจ้าเมืองต้าฮวงฮวงเจิ้นเทียนก็สูญเสียกระแสสัมผัสต่อลมหายใจของเขาไป

“ท่านเจ้าเมือง เกิดเรื่องอันใดขึ้นหรือ?”

ผู้สูงส่งหกท่านที่อยู่ข้างกายเจ้าเมืองต้าฮวงต่างมีความสงสัยเล็ดลอดออกมาในสายตา

“หลัวซิวถูกลอบเล่นงานเสียแล้ว รีบไปช่วยเขา!”

เจ้าเมืองต้าฮวงกล่าวเสียงเข้ม จากนั้นก็กลายร่างเป็นแสงกล พุ่งเข้าไปในสนามรบอย่างไม่ลังเล

ตลอดเวลามา การต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายยึดการหยั่งเชิงเป็นหลัก ไม่มีฝ่ายใดลงมืออย่างจริงจัง ผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าก็ลงมือบ้างเป็นบางครั้งคราวเท่านั้น มิได้มีการต่อสู้อย่างเด็ดขาดในทุกรอบด้านระเบิดขึ้นมา

แต่เนื่องจากหลัวซิวได้ถูกกักขังเอาไว้ในค่ายโลหิตมารฉกรรจ์ เจ้าเมืองต้าฮวงถึงกับเป็นคนจุดชนวนการต่อสู้อย่างเด็ดขาดขึ้นมาเอง

ผู้แข็งแกร่งระดับผู้สูงส่งได้เคลื่อนไหวทั้งหมด แบบนี้ไม่เรียกว่าต่อสู้ขั้นเด็ดขาดแล้วเรียกว่าอะไร?

“พวกเขาเป็นฝ่ายจุดชนวนการต่อสู้ขั้นเด็ดขาดขึ้นเองอย่างนั้นหรือ?”

ในหุบเขาอสูรฟ้า ผู้แข็งแกร่งระดับผู้สูงส่งที่มีทูตชุดขาวเป็นผู้นำ ต่างก็อดไม่ได้ที่จะมองหน้ากัน

“หรือว่าจะเป็นเพราะคนผู้นั้น?”

ทูตชุดขาวนึกถึงหลัวซิวขึ้นมาเป็นอันดับแรก แม้ว่าเขาจะยังไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของหลัวซิว แต่เนื่องจากฝีมือและกำลังแฝงที่หลัวซิวแสดงออกมา เขาก็ไม่ลังเลและสั่งให้ผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรแปดช่วงปลายสูงคนนำค่ายโลหิตมารฉกรรจ์ เพื่อปลิดชีวิตหลัวซิวมาให้ได้

และหลังจากค่ายโลหิตมารฉกรรจ์เพิ่งกักขังเขาเอาไว้นั่นเอง ผู้สูงส่งของเมืองต้าฮวงโบราณก็ได้ลงมือ ต่อให้ทูตชุดขาวใช้หัวแม่เท้าก็สามารถจินตนาการได้ว่า ผู้ที่ถูกค่ายโลหิตมารฉกรรจ์กักขังเอาไว้คนนั้น ต้องเป็นคนที่มีฐานะพิเศษมากแน่!

“หึหึ สองกองทัพประจันหน้า ใช้วิธีการทุกอย่างไม่ได้เล่ห์ก็เอาด้วยกล ยิ่งพวกเจ้าอยากจะช่วยผู้ใด เช่นนั้นข้าก็ยิ่งต้องกำจัดมันเสีย!"

ลำแสงเย็นยะเยือกที่แทบจะกลืนกินวิญญาณผู้คนได้แผ่ซ่านออกมาจากดวงตาของทูตชุดขาว “ลงมือ! ไปประมือกับคนชนเผ่าฮวงพวกนั้นกันหน่อย!”

“โลกะศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหลือง!”

ทูตชุดขาวเดินออกมาจากหุบเขาอสูรฟ้า เห็นเพียงเขาสะบัดมือก็ได้แสดงเคล็ดวิชาแขนงหนึ่งออกมา ชี่แห่งดำเหลืองไร้ขีดสุดเหมือนดั่งมังกรลอยทะยานอยู่ในอนัตตา

โลกะศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหลืองไม่ได้เป็นเพียงพลังอมตะแขนงหนึ่งเท่านั้น มีทูตชุดขาวเป็นผู้นำ บวกกับผู้สูงส่งหน้าคนในบังคับบัญชาของเขา ได้ขัดขวางผู้แข็งแกร่งทั้งเจ็ดคนที่มีเจ้าเมืองต้าฮวงเป็นผู้นำเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย

เดิมทีแดนศักดิ์สิทธิ์วิถีปีศาจกับชนเผ่าเฉว่ซ่า ไม่มีผู้แข็งแกร่งระดับผู้สูงส่งอยู่ ผู้สูงส่งทั้งหกคนนี้ต่างมาจากโลกาฟ้าดินหลิงหลงและโลกาเทพมังกรไท่ชู

“ตั้งค่าย! ต้าฮวงเดชานุภาพ!”

เจ้าเมืองต้าฮวงตวาดขึ้นมา รวมทั้งเจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนฮวงและคนอื่น ๆ ต่างพากันขยับมือวาดตราประทับ แสงสีทองเจิดจรัสสะดุดตาแผ่ซ่านออกมาจากร่างของทุกคน

ลำแสงสีทองมากมายพัวพันเข้าด้วยกัน เงาร่างของผู้แข็งแกร่งแดนผู้สูงส่งอันตรธานหายไป ที่ปรากฏขึ้นมาแทนนั้น เป็นยักษ์สูงหมื่นจั้งที่เคลือบสีทองทั่วทั้งร่าง

ค่ายกลที่สามารถให้ผู้แข็งแกร่งแดนผู้สูงส่งตั้งค่ายพร้อมกับเพิ่มความแข็งแกร่งได้นั้น ระดับของมันพูดได้ว่าสูงมากแล้ว ค่ายต้าฮวงเดชานุภาพได้ก่อตัวขึ้นเป็นที่เรียบร้อย อสูรฟ้าเดชานุภาพที่ผนึกรวมออกมา ต่อให้เป็นระดับผู้แกร่งเลิศก็ได้แต่หนีเอาชีวิตรอด ไม่อาจรับมือได้

มหาค่ายโลกะศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหลืองได้แปรเป็นปฐพีผืนหนึ่ง เห็นเพียงอสูรฟ้าเดชานุภาพหมื่นจั้งพุ่งสังหารไปมาอยู่ในโลกะศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหลือง กระแทกจนอนัตตาแตกสลายอยู่ไม่ขาดสาย

“ฆ่า!”

“ฆ่าพวกมันให้หมด!”

“......”

ผู้สูงส่งของทั้งสองฝ่ายได้ลงมือแล้ว มหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้ามากมายที่อยู่ใต้บังคับบัญชาต่างพากันเข้าสู่สนามรบเช่นเดียวกัน

ไม่เพียงเท่านี้ สองป้อมปราการศึกขนาดใหญ่ของเมืองโบราณต้าฮวงกับหุบเขาอสูรฟ้าต่างได้แสดงความน่าสะพรึงกลัวของทันออกมา

“ครืน! ครืน! ครืน! ......”

เห็นเพียงลำแสงต้นเสาใหญ่หนาลอยพุ่งออกมาจากเมืองโบราณต้าฮวงเป็นบางครั้งคราว ลำแสงต้นเสาทุกสายต่างแฝงไปด้วยพลังงานอันน่าสะพรึงกลัวไร้ขอบเขต มหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรแปดคนหนึ่งของโลกาฟ้าดินหลิงหลงไหวตัวไม่ทัน ร่างและวิญญาณจึงแหลกสลายไป ภายใต้การโจมตีของลำแสงต้นเสา

เดิมทีเมืองต้าฮวงโบราณก็เป็นของขลังที่มีอานุภาพล้ำเลิศอยู่แล้ว เป็นสิ่งที่ชนเผ่าฮวงสร้างขึ้นเพื่อทำสงครามโดยเฉพาะ

หุบเขาอสูรฟ้าเองก็ไม่ธรรมดา หมอกดำที่ลอยอยู่รอบหุบเขาอสูรฟ้าปลิวตลบขึ้นมา กลายเป็นหนวดปลาหมึกสีดำเส้นแล้วเส้นเล่า ผุดขึ้นมาในสนามรบเป็นบางครั้งคราว หากถูกหนวดรัดเอาไว้โดยไม่ทันระวัง แก่นแท้ชีวีกับวิญญาณดั้งเดิมล้วนต้องถูกดูดไปจนหมด

ตกอยู่ในใจกลางค่ายโลหิตมารฉกรรจ์ หลัวซิวยังคงสัมผัสเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้านนอกได้อย่างเลือนราง แม้แต่ตัวเขาเองยังคิดไม่ถึงว่าเพราะตนเองถูกกักขังเอาไว้ ทำให้ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันอย่างเด็ดขาดขึ้นมา

เวลาล่วงเลยไป จู่ ๆ ก็มีเสียงร้องคำรามดังลอยออกมาจากค่ายโลหิตมารฉกรรจ์ เดชานุภาพส่องแสงเจิดจรัสที่ทรงพลังอย่างไม่อาจคาดเดากลุ่มหนึ่งได้ปกคลุมทั่วทั้งอนัตตาสนามรบนับล้านลี้

จู่ ๆ ท้องฟ้าก็มืดสนิทลง อัสนีสายแล้วสายแล้วสายเล่าพาดผ่านอยู่บนท้องนภา กระจายไปด้วยรัศมีพลังอันน่าเกรงขาม

ทัณฑ์สายฟ้าพิโรธ!

เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์เช่นนี้ปรากฏขึ้น ภายในใจของทุกคนก็นึกถึงจุดนี้ขึ้นมา เพราะพวกเขาต่างก็เคยผ่านบททดสอบอันยิ่งใหญ่ของทัณฑ์สายฟ้าพิโรธมาแล้วทั้งนั้น สำหรับกลิ่นอายของทัณฑ์สายฟ้า ย่อมต้องคุ้นเคยเป็นอย่างดี

แต่ทว่า ทัณฑ์สายฟ้าพิโรธได้ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าเหนือสนามรบ ใครกันที่กำลังข้ามผ่านทัณฑ์?

“ถอย!”

ทูตชุดขาวสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างห้ามไม่ได้ ทันทีที่ทัณฑ์สายฟ้าพิโรธปรากฏ เช่นนั้นทัณฑ์สายฟ้าก็จะโจมตีโดยไม่แบ่งแยกภายใต้บริเวณที่ปกคลุม

ดูจากอานุภาพของทัณฑ์สายฟ้าพิโรธในครั้งนี้แล้ว ทันทีที่ทัณฑ์สายฟ้าได้ปะทุรอบด้าน เกรงว่าแม้แต่มหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรแปดก็คงต้านรับไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นแล้วจักรพรรดิเทพวัฏจักรเจ็ด และยังมีราชาเทพวัฏจักรห้ากับมกุฎเทพวัฏจักรหกเล่า?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ