มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 2901

“กลั่น!”

หลัวซิวสวดคาถา เห็นเพียงเงาร่างของเขาลอยขึ้นฟ้า ราวกับร่างกายของเขาผันเป็นเตาอหังการฟ้าดินหนึ่งเตา ก่อนจะมีพลังดูดกลืนวิญญาณที่มากมายมหาศาลพรั่งพรูออกมา ดูดกลืนแสงอัสนีที่ล้นฟ้าแล้วทำการกลั่นแปรมัน

นี่คือพลังของธรรมเวชกาลล้น ถึงแม้จะถูกพันธนาการโดยผลการฝึกตนของตัวเอง แต่เมื่ออาศัยความแข็งแกร่งของธรรมเวชกาลล้น หลัวซิวก็สามารถวิวัฒนาการธรรมเวชกาลล้นให้บรรลุขึ้นไปถึงแดนสำเร็จน้อยได้เช่นกัน

แสงอัสนีที่ไร้ขอบเขตพุ่งเบียดเสียดกันเข้าไปในร่างกาย จากการกลั่นแปรแสงอัสนีอย่างต่อเนื่อง เพราะร่างกายที่เพิ่งมีการบรรลุไม่ค่อยมีพลังอะไร จึงค่อย ๆ เต็มอิ่มขึ้นมา พลังที่แข็งแกร่งก็บังเกิดขึ้นมาเองตามธรรมชาติเช่นกัน

“เวิ่ง!”

เพียงเสี้ยววินาทีเดียว ร่างกายของหลัวซิวก็หายไป วินาทีต่อไปเขาก็ปรากฏด้านหลังผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิยุทธ์แปดกงล้อทั้งสองคนแล้ว

ซึ่งผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิยุทธ์แปดกงล้อทั้งสองคนนี้ก็คือสองคนที่ใช้ค่ายโลหิตมารฉกรรจ์กักขังเขาในเมื่อครู่นี้นั่นเอง

“ตาย!”

ใบหน้าของหลัวซิวไร้อารมณ์ มือทั้งสองข้างต่างโจมตีไปทางด้านหลังของผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิยุทธ์แปดกงล้อทั้งสอง

“รนหาที่ตาย!”

“คนที่ต้องตายคือมึงต่างหาก!”

มหาจักรพรรดิยุทธ์แปดกงล้อทั้งสองคนคิดไม่ถึงเลยว่าหลัวซิวจักเป็นฝ่ายบุกสังหารเข้ามาด้วยตนเอง ใบหน้าของทั้งสองจึงดูดุร้ายขึ้นมาทันที อีกทั้งกระตุ้นกระบวนท่าสังหารที่ทรงพลังที่สุดของตัวเอง

อย่างไรก็ตาม กระบวนท่าทั้งหมดของพวกเขาล้วนสลายหายไปเมื่ออยู่ภายใต้การกดอัดด้วยฝ่ามือเดียวของหลัวซิว อาศัยพลังป้องกันของเคล็ดเซียนแปรเก้าแปรที่หก ร่างเนื้อของหลัวซิวเทียบเท่าเศษณ์มหาจักรพรรดิยุทธ์แล้ว พลังการโจมตีของผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิยุทธ์แปดกงล้อแทบจะไม่มีความหมายอะไรต่อเขา

ผลการฝึกตนบรรลุ เมื่ออาศัยความแข็งแกร่งของพลังแห่งวิถีเซียน พลานุภาพของตรามหาหัตถ์ราชาเซียนทั้งสองที่หลัวซิวปลดปล่อยออกมา ณ วินาทีนี้สามารถเทียบทัดพลังโจมตีของมหาจักรพรรดิยุทธ์เก้ากงล้อได้โดยสมบูรณ์

ฟึ่บ! ฟึ่บ!

เสียงที่ร่างกายสองร่างแตกสลายแทบจะดังขึ้นมาพร้อมกัน ภายใต้พลังโจมตีของหลัวซิว ผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิยุทธ์แปดกงล้อช่วงปลายทั้งสองคนแทบจะไม่มีแรงที่ตอบโต้ได้เลย ก่อนจะถูกสังหารคาที่!

กลางท้องฟ้าที่ว่างเปล่า พลังแห่งอัสนีจำนวนมากถูกหลัวซิวดูดกลืนกลั่นแปร เมฆแห่งทัณฑ์สายฟ้าจึงเริ่มสลายหายไปแล้ว

ร่างกายของผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิยุทธ์แปดกงล้อช่วงปลายสองคนแตกสลายเป็นฝุ่นผง ไม่เหลือแม้แต่ซาก ทุกคนที่มองเห็นภาพเหตุการณ์ดังกล่าวล้วนเบิกตากว้างอย่างควบคุมไม่ได้

นั่นมันมหาจักรพรรดิยุทธ์แปดกงล้อเชียวนะ ทั้งยังเป็นมหาจักรพรรดิยุทธ์แปดกงล้อช่วงปลายด้วย ครั้งนี้เขาเพิ่งบรรลุ หรือว่าศักยภาพบรรลุถึงแดนที่น่าสยดสยองเช่นนี้แล้ว?

โดยเฉพาะเหล่าผู้สูงส่งอย่างทูตเพ้าขาว พวกเขาเข้าใจดีมาก ๆ เลยว่าศักยภาพที่หลัวซิวคนนี้แสดงออกมาบนสนามรบเมื่อคราวก่อน อย่างมากสุดก็แค่เทียบเท่ามหาจักรพรรดิยุทธ์แปดกงล้อช่วงปลาย

ซึ่งนี่ก็คือการทลายพันธนาการของแดนใหญ่ ทำให้หลัวซิวที่มีศักยภาพมหาจักรพรรดิยุทธ์แปดกงล้อช่วงปลายในตอนแรก มีกำลังรบที่เทียบเท่ามหาจักรพรรดิยุทธ์เก้ากงล้อในครั้งเดียว

“ฆ่ามัน!”

ทูตเพ้าขาวตะคอกอย่างโกรธเกรี้ยว บัดนี้เขากำลังพัวพันอยู่กับผู้สูงส่งเก้าคนที่กำลังเผชิญหน้าอยู่ ซึ่งไม่สามารถหาโอกาสลงมือได้เลยด้วยซ้ำ มิเช่นนั้นเขาคงกำจัดหลัวซิวทิ้งไปตั้งนานแล้ว

นอกเหนือจากทูตเพ้าขาว อีกคนหนึ่งที่อยากกำจัดหลัวซิวมากที่สุดก็คือฮวงจวินแล้วล่ะ ศึกสงครามที่สำนักอัมพรเทวศักดิ์สิทธิ์ถูกล้มล้าง เขาไม่เพียงสูญเสียของล้ำค่าอย่างหอคอยฮวง ตัวเขาเองก็ถูกตู๋กูเจ้าแห่งอาณากระบี่โจมตีจนบาดเจ็บสาหัส จึงส่งผลให้ผลการฝึกตนของเขาตกจากแดนผู้แกร่งเลิศลงมาถึงผู้สูงส่งช่วงกลางโดยตรง

หากพูดให้แม่นยำหน่อย เขาไม่ใช่ผู้สูงส่งโลกร้างอีกต่อไปแล้ว และไม่มีสิทธิ์ถูกเรียกว่าฮวงจวินอีกต่อไปเช่นกัน ปัจจุบันเขาเป็นเพียงผู้สูงส่งอัมพรเทวเท่านั้น

“ข้าจักไปฆ่ามันเอง!”

มีเงาดำร่างหนึ่งพุ่งเข้ามา ซึ่งคนดังกล่าวก็คือจ้าวปีศาจเสวียนหยินนั่นเอง

“ข้าจักช่วยเจ้าอีกแรง!”

จ้าวปีศาจเทียนหยางก็บินเข้ามาเช่นกัน เขาเข้าใจดีมาก ๆ ว่าครั้งก่อนจ้าวปีศาจเสวียนหยินก็ได้ลงมือแล้วแต่กลับไม่สามารถสังหารหลัวซิวได้ ปัจจุบันศักยภาพของหลัวซิวแข็งแกร่งมากกว่าเก่า การที่จะสังหารเขานั้น จึงเป็นเรื่องที่ทำได้ยากกว่าเดิมอยู่แล้ว

จ้าวปีศาจเสวียนหยินโบกมือครั้งหนึ่ง แสงมืดที่นับไม่ถ้วนจึงปรากฏกลางนภา ก่อนจะพุ่งสังหารเข้าไปทางหลัวซิวดั่งธนูกระบี่ที่เฉียบคม

“หึ”

เมื่อเห็นว่าจ้าวปีศาจเสวียนหยินเป็นฝ่ายลงมือโจมตีก่อน หลัวซิวยืนนิ่งอยู่กับที่พลางแสยะยิ้มอย่างเยือกเย็นพลางพูด: “จ้าวปีศาจเสวียนหยิน มึงกล้าหาญไม่เบาเลยนี่!”

เตากลั่นนภาจื่อเซียวบินออกมาจากหว่างคิ้วหลัวซิว เตาเซียนหมุนติ้ว ๆ แล้วมีม่านแสงสาดส่องลงมา ทำการต้านทานแสงมืดที่นับไม่ถ้วนเอาไว้ด้านนอก

“หัตถ์อัคคีระอุ!”

มีมือใหญ่สีทองข้างหนึ่งครอบคลุมพื้นที่รัศมีนับร้อยลี้ มีพระอาทิตย์เก้าดวงผนึกรวมกันกลางฝ่ามือ เห็นได้ชัดเจนเลยว่าจ้าวปีศาจเทียนหยางนั่นก็ลงมือแล้ว ทันทีที่ลงมือก็ปลดปล่อยพลังอมตะที่ตนชำนาญมากที่สุดออกมาเลย

“สรรพวิถีล้วนว้าง!”

หลัวซิวหกระเหินเดินฟ้า มองข้ามพลังโจมตีของจ้าวปีศาจเทียนหยาง เห็นเพียงเมื่อพระอาทิตย์ทั้งเก้าดวงที่มีพลังอันน่าสยดสยองแฝงซ่อนอยู่ประชิดใกล้ร่างกายหลัวซิว จู่ ๆ ปริมาตรของพระอาทิตย์ทั้งเก้าดวงก็เล็กลงกะทันหัน ภายใต้การสาดส่องจากแสงเซียน พระอาทิตย์ทุกดวงจึงสลายหายไปโดยสิ้นเชิง

พลังอมตะโจมตี ไร้ประสิทธิผล!

“นี่มันจะมีทางเป็นไปได้อย่างไร?”

จ้าวปีศาจเทียนหยางเบิกตากว้าง “หรือว่ามันก็เป็นร่างเทวไร้มลทินเหมือนกัน?”

ในโลกหล้านี้ ผู้ที่สามารถทำเช่นนี้ได้ก็มีเพียงร่างเทวไร้มลทินในตำนานแล้วล่ะ แต่ทว่าจวบจนปัจจุบัน ดูเหมือนผลการฝึกตนของสวีเซิ่งเจี๋ยแห่งโลกร้างที่ถูกเรียกขานว่าท่านชายไร้มลทิน ก็เพิ่งจะบรรลุถึงแดนมกุฎเทพหกกงล้อหรือเปล่า?

การที่จะทลายพลังอมตะที่มหาจักรพรรดิยุทธ์เก้ากงล้ออย่างเขาปลดปล่อยออกไปนั้น แดนของร่างเทวไร้มลทินจำเป็นต้องบรรลุถึงมหาจักรพรรดิยุทธ์เก้ากงล้อก่อน

“มันไม่ใช่ร่างเทวไร้มลทิน แต่ก็แข็งแกร่งกว่าร่างเทวไร้มลทินมาก”

สีหน้าอารมณ์ของจ้าวปีศาจเสวียนหยินดูตึงเครียดอย่างยิ่ง ตลอดกาลเวลาอันยาวนานที่ผ่านมา จ้าวปีศาจแห่งสำนักหยินหยางของพวกเขาไม่เคยร่วมมือกันมานานมาก ๆ แล้ว ไม่นึกเลยว่าครั้งนี้ทั้งสองร่วมมือกันโจมตีคนคนหนึ่ง แต่กลับได้ปะทะกับปีศาจที่ไม่สามารถประเมินความลึกตื้นได้

“ตู้มม!”

มีเพลิงอัคคีที่มากมายมหาศาลพรั่งพรูออกมาจากเตากลั่นนภาจื่อเซียว แล้วซัดกระหน่ำไปทางจ้าวปีศาจเสวียนหยิน

ในขณะเดียวกัน เตาอลวนหวูจี๋ก็ถูกหลัวซิวเรียกออกมาเช่นกัน รัศมีเทวผสมผสานกัน แล้วมีเงาลวงมหาศักดิ์ที่ทรงพลังกว่าเก่าผนึกรวมออกมา

ใช้พลังแห่งวิถีเซียนในแดนจักรพรรดิเทพกระตุ้น ปัจจุบันมีคลื่นพลังที่เทียบเท่ามหาจักรพรรดิยุทธ์เก้ากงล้อแพร่กระจายออกมาจากเงาลวงมหาศักดิ์แล้ว

“ถอย!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ