มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 2913

“นะนี่…..”

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

ในเมืองหวูยวน สีหน้าอารมณ์ของเหล่าผู้สูงส่งอย่างพวกทูตเพ้าขาวเปลี่ยนไปอย่างมาก เนื่องจากไม่มีคนใดคาดถึงเลยว่าหลังจากเข้ามาในแดนบรรพกาลแล้ว สถานการณ์จะเป็นเช่นนี้

คนฝั่งเมืองหวูยวนตายหมดแล้วหรือ?

หากภายในแดนบรรพกาลมีความอันตรายแฝงซ่อนอยู่ตั้งแต่แรกแล้วละก็ แล้วคนเกือบแสนฝั่งเมืองต้าฮวงโบราณมีชีวิตรอดมาได้อย่างไร?

“ให้ตายเถอะ ฮวงโหว ไม่ว่าอย่างไรเจ้าก็เป็นประมุขเต๋าเช่นกัน ไม่นึกเลยว่าเจ้าจักใช้แผนโกงอย่างนั้นหรือ!”

น้ำเสียงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความโกรธเกรี้ยวของประมุขเต๋าหวูยวนดังก้องอยู่ในอนัตตาฟ้าดิน เนื่องจากเขาสังเกตเห็นว่าในขบวนทัพฝั่งเมืองต้าฮวงโบราณมีออร่าของผู้สูงส่งที่เขาไม่คุ้นเคยปรากฏหลายออร่า

ด้วยเหตุนี้ประมุขเต๋าหวูยวนจึงคิดเองเออเองว่าในบรรดากองทัพนับแสนที่เข้ามาในแดนบรรพกาลล่วงหน้า ฝั่งเมืองต้าฮวงโบราณได้แอบส่งผู้สูงส่งเข้ามาด้วย ฉะนั้นหลังจากที่เข้ามาในแดนบรรพกาลแล้ว จึงทำการฆ่าล้างผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาเขาให้สิ้นซาก

ผู้แข็งแกร่งผู้สูงส่งคนหนึ่งสามารถล้มล้างกองทัพที่มีผลการฝึกตนมหาจักรพรรดิยุทธ์เก้ากงล้อได้อย่างง่ายดายเลย มิหนำซ้ำเขายังสัมผัสพลังออร่าของผู้สูงส่งได้จากขบวนทัพของฝ่ายตรงข้ามด้วย ซึ่งไม่ได้มีเพียงออร่าเดียวเท่านั้น?

สำหรับประมุขเต๋าหวูยวนแล้ว ผู้แข็งแกร่งที่ผลการฝึกตนบรรลุขึ้นมาถึงระดับขั้นอย่างพวกเขา สิ่งที่ดูหมิ่นมากที่สุดก็คือลูกไม้กลโกงเช่นนี้ เนื่องจากต่อให้จอมยุทธ์แดนต่ำจะตายไปมากเท่าไหร่ก็ไม่มีผลกระทบต่อสถานการณ์ใหญ่ การปะทะในครั้งนี้ประมุขเต๋าฮวงโหวดูเหมือนจะเป็นฝ่ายได้เปรียบ แต่ในทางตรงกันข้ามกลับทำให้ประมุขเต๋าหวูยวนดูถูกเขาอย่างยิ่ง

เสียงที่คับแค้นใจของประมุขเต๋าหวูยวนได้ระบือไปทั่ว พิโรธอย่างยิ่ง ประมุขเต๋าฮวงโหวที่เพิ่งควบคุมเมืองโบราณแล้วมาถึงแดนบรรพกาลก็รู้สึกผงะไปอย่างควบคุมไม่ได้เช่นกัน

กำลังคนที่ทั้งสองฝ่ายส่งออกมาแทบจะมีกำลังรบที่สูสีกันเลย เดิมทีคิดว่าต้องเป็นศึกสงครามที่บาดเจ็บสาหัสทั้งสองฝ่ายแน่นอน แต่ผู้ใดจะคิดได้เล่าว่าจะมีเรื่องประหลาดใจเช่นนี้เกิดขึ้น?

ตัวสำนึกของผู้แข็งแกร่งระดับประมุขเต๋าเฉียบแหลมและว่องไวมากเพียงใด ประมุขเต๋าฮวงโหวก็สัมผัสได้ทันทีเช่นกันว่ามีคนนับพันรวมตัวกันอยู่ข้างกายหลัวซิว ซึ่งเขาไม่คุ้นเคยพลังออร่าเหล่านั้นเลย จึงทำให้ประมุขเต๋าฮวงโหวสามารถยืนยันได้แล้วว่านั่นไม่ใช่จอมยุทธ์ที่ฝั่งเมืองต้าฮวงโบราณส่งออกไปแน่นอน

และสิ่งที่สำคัญมากกว่านั้นคือประมุขเต๋าฮวงโหวสัมผัสพลังออร่าของผู้แข็งแกร่งผู้สูงส่ง 14 คนได้จากจำนวนคนทั้งหมดนั้น ผลการฝึกตนของกำลังคนที่เหลืออย่างน้อยก็ไม่ต่ำกว่ามหาจักรพรรดิยุทธ์แปดกงล้อ มากไปกว่านั้นคือมีหนึ่งพันกว่าคนล้วนเป็นมหาจักรพรรดิยุทธ์เก้ากงล้อ!

ผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ไม่ได้หาง่ายเหมือนผักในตลาด อีกอย่างอายุขัยของผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ก็มีขีดจำกัดเช่นกัน ต่อให้เป็นภูมิฐานที่ชนเผ่าฮวงสั่งสมมาอย่างยาวนาน มากสุดก็ไม่มีทางมีผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์เก้ากงล้อหนึ่งพันกว่าคน

ถัดจากนั้นสิ่งที่ทำให้ประมุขเต๋าฮวงโหวรู้สึกหวาดหวั่นขึ้นมาอีกครั้งคือ มีชายหนุ่มรูปงามคนหนึ่งยืนอยู่ข้างกายหลัวซิว เขาค้นพบว่าตัวเองมองผลการฝึกตนของฝ่ายตรงข้ามไม่ทะลุเลย

ในฐานะที่เป็นผู้แข็งแกร่งระดับประมุขเต๋า ซึ่งอยู่เหนือระดับและแดนที่ใหม่เอี่ยมแล้ว ผู้ที่สามารถทำให้เขามองผลการฝึกตนไม่ทะลุมีเพียงสองสถานการณ์เท่านั้น หนึ่งคือผลการฝึกตนของฝ่ายตรงข้ามสูงกว่าตัวเอง หรือไม่ก็เป็นผู้แข็งแกร่งที่อยู่ในแดนเดียวกันกับตัวเอง!

ต้องท้าวความก่อนว่ามาตรแม้นว่าเป็นจอมยุทธ์ที่เริ่มฝึกวิถีเซียนอย่างหลัวซิว แม้นประมุขเต๋าฮวงโหวจะไม่สามารถวินิจฉัยรายละเอียดแดนผลการฝึกตนของเขาได้อย่างแม่นยำ แต่ก็พอจะคาดเดาโดยคร่าว ๆ ได้อยู่ ดังนั้นเขาจึงสามารถยืนยันได้ว่าผลการฝึกตนของหลัวซิวต้องบรรลุไม่ถึงระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์แปดกงล้ออย่างแน่นอน

“คนเหล่านี้มาจากที่ใด?”

ประมุขเต๋าฮวงโหวขมวดคิ้วลงเล็กน้อย จากนั้นเขาก็นึกถึงตัวตนอีกตัวตนหนึ่งของหลัวซิวอย่างอดไม่ได้

“ใช่สิ เขาคือศิษย์ของมกุฎเต๋าหวูจี๋ บางทีคนเหล่านั้นอาจเป็นผู้ที่มกุฎเต๋าหวูจี๋จัดแจงให้ค่อยคุ้มกันอยู่ข้างกายเขา? มกุฎเต๋าหวูจี๋ทะนุถนอมศิษย์คนนี้ไม่น้อยเลยนี่”ประมุขเต๋าฮวงโหวคิดเองเออเอง

เมืองโบราณทั้งสองย่างกรายมาถึงแดนบรรพกาล ในขณะที่ประมุขเต๋าฮวงโหวและประมุขเต๋าหวูยวนสัมผัสการคงอยู่ของผู้แข็งแกร่งระดับประมุขเต๋าอย่างต้วนคงได้ ต้วนคงก็สัมผัสพลังออร่าของประมุขเต๋าทั้งสองคนนั้นได้เช่นกัน

“นายน้อย……”ต้วนคงมองไปทางหลัวซิวที่อยู่ข้าง ๆ ด้วยสายตาในเชิงสอบถาม เพราะเขาไม่ทราบว่าประมุขเต๋าทั้งสองที่ย่างกรายมายังสถานที่แห่งนี้ ตกลงผู้ใดเป็นคนฝ่ายตัวเองกันแน่

ในขณะเดียวกัน เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังออร่าที่มากมายมหาศาลของผู้แข็งแกร่งระดับประมุขเต๋า สีหน้าอารมณ์ของคนอื่น ๆ ในกองทัพเทพมารก็ต่างดูเข้มงวด ราวกับเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจ!

ก่อนหน้านี้การกวาดล้างบริเวณรอบนอกของแดนบรรพกาลเป็นสิ่งที่พวกเขาสามารถทำได้ง่ายดั่งปอกกล้วยเข้าปาก แต่ทว่าสำหรับกองทัพเทพมารแล้ว ผู้แข็งแกร่งระดับประมุขเต๋าก็เป็นคู่ต่อสู้ที่จัดการยากมากเลยทีเดียว

สิ่งที่แตกต่างจากครั้งก่อนคือครั้งนี้หลัวซิวไม่ได้เอ่ยปากออกคำสั่ง ผู้บัญชาการใหญ่ทั้งห้าของกองทัพเทพมารต่างก็ไม่ได้ลงมือโดยพลการ

“ต้วนคง หากเจ้าร่วมมือกับประมุขเต๋าท่านนั้น สามารถสยบประมุขเต๋าอีกคนได้หรือไม่?”

หลัวซิวใช้นิ้วชี้ไปทางเมืองต้าฮวงโบราณ แล้วสอบถามต้วนคงที่อยู่ข้าง ๆ

เมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าว ต้วนคงจึงขมวดคิ้วลงเล็กน้อย แล้วตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ไม่มั่นใจ “เมื่อต่างอยู่ในแดนประมุขเต๋าเหมือนกัน ประมุขเต๋าคนหนึ่งสังหารประมุขเต๋าอีกคนได้ยากมาก ต่อให้ประมุขเต๋าสองคนร่วมมือกันแล้วสามารถโค่นล้มฝ่ายตรงข้ามได้ ทว่าโอกาสที่จะสังหารฝ่ายตรงข้ามได้กลับต่ำมาก ๆ ขอรับ”

“หากข้านำขวดเซียนอัคคีหลอมจิตให้เจ้ากระตุ้นล่ะ?”หลัวซิวถามอีกครั้ง

“หากไม่มีพลังแห่งวิถีเซียนจักไม่สามารถกระตุ้นมณีวิถีเซียนได้นะขอรับ แม้แต่มกุฎเต๋าก็ทำไม่ได้เช่นกัน”ต้วนคงส่ายหน้า

“ดูท่าการที่จะกำจัดประมุขเต๋าคนหนึ่งนั้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ!”

เมื่อต้วนคงได้ยินคำพูดนี้ เขาก็รู้สึกกลืนไม่เข้าข่ายไม่ออกทันที นายน้อยคนนี้ของตัวเองเพิ่งจะอยู่ในแดนจักรพรรดิเจ็ดกงล้อ ไม่นึกเลยว่าก็คิดที่จะกำจัดประมุขเต๋าแล้วอย่างนั้นหรือ?

“หลัวซิว!”

และในเวลานี้เอง ก็มีแสงกลดวงหนึ่งบินออกมาจากเมืองต้าฮวงโบราณ ถัดจากนั้นเงาร่างของประมุขเต๋าฮวงโหวก็ปรากฏด้านหน้าหลัวซิว

“ประมุขเต๋า”หลัวซิวประสานมือทำท่าคารวะ

ประมุขเต๋าฮวงโหวผงกหัว จากนั้นสายตาก็ร่วงลงบนตัวต้วนคงที่ยืนอยู่ด้านหลังเขา “ท่านนี้คือ?”

“ข้าคือต้วนคง ผู้บัญชาการใหญ่ของกองทัพเทพมารที่อยู่ใต้บังคับบัญชานายน้อย”ต้วนคงเป็นฝ่ายตอบกลับด้วยตนเอง

“ใต้บังคับบัญชา?”เมื่อประมุขเต๋าฮวงโหวได้ยินคำตอบดังกล่าว ก็รู้สึกตะลึงมาก ผู้แข็งแกร่งระดับประมุขเต๋านั้นหยิ่งผยองมากเพียงใด ต่อให้หลัวซิวเป็นศิษย์ของมกุฎเต๋าหวูจี๋ ก็มีคุณสมบัติทำให้ประมุขเต๋าคนหนึ่งยอมปฏิบัติตามคำสั่งอยู่ใต้บังคับบัญชาของเขาอย่างสมัครใจได้หรือ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ