“ข้าศึกบุก!”
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
“ค่ายพิทักษ์เขาเปิดออกแล้ว!”
“......”
หลังจากเสียงเตือนระฆังดังก้องไปทั่ว ทั้งสำนักเขาของอาณากระบี่หวูจี๋ก็วุ่นวายไปชั่วขณะ ภายใต้การควบคุมของเหล่าผู้อาวุโสและระดับสูงของอาณากระบี่ สถานการณ์ความวุ่นวายจึงสงบลงไปอย่างรวดเร็ว
ในฐานะที่เป็นกองกำลังใหญ่ระดับแดนศักดิ์สิทธิ์ขั้นสุดยอดแห่งหนึ่ง หากอาณากระบี่หวูจี๋ไม่มีแม้แต่ความสามารถที่จะรับมือกับเหตุร้ายเช่นนี้ละก็ พวกเขาก็ไม่มีทางตั้งตระหง่านอยู่ในโลกร้างมาได้ยาวนานเช่นนี้ด้วยซ้ำ
หุบเขาสยบปีศาจถูกหลัวซิวอพยพมายังดินแดนของอาณากระบี่หวูจี๋ตั้งนานแล้ว ด้วยเหตุนี้หลังจากค่ายพิทักษ์เขาถูกเปิดออก หุบเขาสยบปีศาจก็อยู่ภายในขอบเขตที่ถูกค่ายใหญ่คุ้มกันเช่นกัน
“ผู้ใดบังอาจโจมตีดินแดนของอาณากระบี่หวูจี๋?”
ภายในหุบเขาสยบปีศาจ ใบหน้าของเหยียนเยว่เอ๋อร์และเหยียนซีโรว่เต็มเปี่ยมไปด้วยความตะลึงงัน ปัจจุบันเหยียนเยว่เอ๋อร์ออกจากการปิดขังแล้ว ผลการฝึกตนของนางแข็งแกร่งมากกว่าเดิม บนร่างกายที่แวววับมีแสงเซียนของเพลิงอัคคีเป็นประกายอยู่เป็นระยะ ๆ ซึ่งอยู่ในแดนจักรพรรดิเทพเจ็ดกงล้อช่วงปลายแล้ว
……
นภาเหนือดินแดนอาณากระบี่หวูจี๋ เมิ่งเชียนชางกำลังแสยะยิ้มอย่างเยือกเย็น จักรพรรดิเทพเจ็ดกงล้อทั้งสามพันคนที่เขายกมาจากจ่างเทียนตี้ก็ล้วนยืนอยู่ด้านหลังเขาด้วยใบหน้าที่เยือกเย็นเช่นกัน ราวกับหุ่นเชิดที่ไม่มีความรู้สึกใด ๆ
“เศษเดนที่ใด บังอาจโจมตีสำนักเขาของอาณากระบี่หวูจี๋ของข้า?”
เสียงตะคอกที่โกรธเกรี้ยวสะท้อนลงมาจากด้านบน ก่อนจะมีผู้อาวุโสไท่ซ่างที่มีผลการฝึกตนมหาจักรพรรดิยุทธ์แปดกงล้อคนหนึ่งเดินออกมา จิตสังหารเข้มงวด
ปัจจุบันสถานการณ์ในโลกร้างผันผวนไม่แน่นอน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สำคัญอย่างยิ่ง แต่สิ่งที่ทำให้ผู้อาวุโสไท่ซ่างคนนี้รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยคือ ศัตรูที่มารุกล้ำไม่ได้แข็งแกร่งอย่างที่จินตนาการเอาไว้แต่อย่างใด มีเพียงมหาจักรพรรดิยุทธ์แปดกงล้อคนหนึ่งรวมไปถึงจักรพรรดิเทพเจ็ดกงล้ออีกหลายพันคน
เบื้องหลังของเจ้าหมอนั่นคือกองกำลังใด? หรือพวกเขาคิดว่าอาศัยกำลังคนแค่นี้ก็สามารถจัดการอาณากระบี่หวูจี๋ได้แล้วอย่างนั้นหรือ?
“แค่มหาจักรพรรดิยุทธ์แปดกงล้อช่วงกลางกระจอก ๆ ก็บังอาจจองหองต่อหน้าข้าอย่างนั้นรึ?”
เมิ่งเชียนชางมองกราดลงมาจากที่สูง ก้มมองไปทางผู้อาวุโสไท่ซ่างคนนั้น ดวงตาที่เยือกเย็นคู่หนึ่งเหมือนดั่งอสรพิษ มีจิตสังหารที่ไม่มีการปิดบังเลยแม้แต่น้อยทะลุออกมาจากแววตา
ไม่มีลางบอกเหตุใด ๆ เมิ่งเชียนชางก็ลงมือโจมตีภายในพริบตาแล้ว พลังแห่งวัฏสงสารที่ฝึกรวมมาจากเกณฑ์พลังเต๋าการเวียนว่ายตายเกิดและห้วงเวลาผนึกรวมกันอยู่กลางอนัตตา แล้วกลายเป็นมือใหญ่ข้างหนึ่ง กลางฝ่ามือของมือใหญ่มีรูเล็ตหนึ่งชิ้น ถัดจากนั้นมือใหญ่ก็กดอัดไปทางผู้อาวุโสไท่ซ่างแห่งอาณากระบี่หวูจี๋คนนั้น
“ระวัง!”
“รีบถอย!”
“ศักยภาพของศัตรูสูสีกับเรา!”
สีหน้าอารมณ์ของผู้อาวุโสไท่ซ่างอีกสี่คนที่เหลือดูตะลึงงัน ไม่มีผู้ใดคาดถึงเลยว่าฝ่ายตรงข้ามจะลงมือโจมตีโดยตรง
“เมิ่งเชียนชาง ตายซะเถอะ!”
เงาร่างของตู๋กูเจี้ยนเฉินพุ่งทะยานขึ้นฟ้า คนอื่น ๆ ในอาณากระบี่หวูจี๋ไม่รู้จักเมิ่งเชียนชาง แต่ตู๋กูเจี้ยนเฉินกลับไม่มีทางไม่รู้จัก
ควบคุมแสงกระบี่ ความเร็วในการเคลื่อนที่ของตู๋กูเจี้ยนเฉินรวดเร็วมาก ๆ แล้ว ทว่าขณะที่เขาพุ่งออกไปจากอาณากระบี่หวูจี๋ ภายใต้การกดอัดจากพลังแห่งวัฏสงสาร ผู้อาวุโสไท่ซ่างคนนั้นของอาณากระบี่หวูจี๋ก็กรีดร้องอย่างน่าเวทนาแล้ว ร่างกายแหลกสลายเป็นฝุ่นผง
ต่างอยู่ในแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์แปดกงล้อเหมือนกัน แต่เมิ่งเชียนชางใช้เพียงกระบวนท่าเดียว ก็สามารถสังหารผู้แข็งแกร่งที่อยู่ในแดนเดียวกันได้ภายในวินาทีเดียว!
“ตู้มม!”
รูเล็ตชิ้นหนึ่งที่ผันมาจากกงล้อเทพวงหนึ่งพุ่งโจมตีเข้ามา แล้วปะทะเข้ากับแสงกระบี่ดวงนั้นของตู๋กูเจี้ยนเฉิน เห็นเพียงแสงกระบี่แตกสลาย จากนั้นร่างกายของตู๋กูเจี้ยนเฉินก็กระเด็นออกไป
“ดูท่าไม่ว่าจะเป็นภพชาตินี้หรือในอดีตชาติ ตู๋กูเจี้ยนเฉินเจ้าก็ยังคงอ่อนแออยู่เหมือนเคยเลยนะ ทำได้เพียงดิ้นทุรนทุรายอยู่ด้านหลังเจ้าไท่ซ่างฉิงนั่นหรือ?”
เส้นผมที่ยาวดำของเมิ่งเชียนชางปลิวลอย แหงนหน้าขึ้นฟ้าแล้วหัวเราะดังลั่นอย่างจองหองพองขน
“ไอ้คนชั่วโอหัง ฆ่ามัน!”
ผู้อาวุโสไท่ซ่างคนอื่น ๆ ในอาณากระบี่หวูจี๋ก็ต่างพากันพุ่งสังหารออกมาเช่นกัน ผู้อาวุโสไท่ซ่างสองคนที่เป็นผู้นำมีผลการฝึกตนมหาจักรพรรดิยุทธ์เก้ากงล้อ
“ไม่ประมาณตน!”
มีความดุร้ายทะลุออกมาจากแววตาเมิ่งเชียนชาง เห็นเพียงกงล้อเทพแปดวงที่อยู่หลังศีรษะเขากลายเป็นรูเล็ต รูปร่างลักษณะเหมือนดั่งสังสารวัฏหมุนเวียน ยิ่งอยู่ยิ่งใหญ่ แฝงความห้าวหาญเปี่ยมพลัง
“พลังวัฏสงสารสูงสุด!”
จากการที่เมิ่งเชียนชางตะคอกเสียงดังลั่นคำหนึ่ง จักรพรรดิเทพเจ็ดกงล้อทั้งสามพันคนที่เขายกมาจากจ่างเทียนตี้ก็ต่างพากันกระโดดพุ่งพรวดไปข้างหน้า เงาร่างหลอมรวมเข้าไปในรูเล็ตที่กลายมาจากกงล้อเทพของเขา
จักรพรรดิเทพเจ็ดกงล้อสามพันคนหลอมรวมเข้ากับกงล้อเทพ ทำให้พลังออร่าบนตัวเมิ่งเชียนชางพุ่งขึ้นสูงภายในพริบตา
“ตู้มม!”
หลังจากพุ่งขึ้นถึงจุดวิกฤตหนึ่งแล้ว กลางอนัตตาหลังศีรษะเมิ่งเชียนชางก็ผนึกรวมกงล้อเทพวงที่เก้าออกมาได้แล้ว!
เห็นได้ชัดเจนเลยว่าวิชาที่เขาใช้คือเคล็ดวิชาบางอย่างของเต๋าสังสารวัฏ อาศัยเคล็ดวิชาประเภทนี้ใช้ผลการฝึกตนของจักรพรรดิเทพเจ็ดกงล้อทั้งสามพันคนปลุกเสกร่างตน ทำให้เขาสามารถทลายพันธนาการ ก้าวเข้าสู่แดนมหาจักรพรรดิยุทธ์เก้ากงล้อ
“ฮ่าฮ่า มันคือความรู้สึกที่แข็งแกร่งเช่นนี้นี่แหละ ไม่ได้สัมผัสความรู้สึกเช่นนี้มานานแล้วจริง ๆ ……”
ดื่มด่ำกับพลังอันแข็งแกร่งที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายตัวเอง มีความรู้สึกที่พึงพอใจปรากฏบนใบหน้าเมิ่งเชียนชาง เมื่อหนึ่งยุคตรีภพก่อนหรือสามแสนกว่าล้านปีก่อน ผลการฝึกตนของเขาก็อยู่ที่มหาจักรพรรดิยุทธ์เก้ากงล้อนี่แหละ
“แต่น่าเสียดายที่กงล้อวัฏจักรธรรมไม่ได้อยู่ในมือข้า”
นี่คือสิ่งเดียวที่ทำให้เมิ่งเชียนชางรู้สึกเสียดายเล็กน้อย หากมีกงล้อวัฏจักรธรรมอยู่ในกำมือละก็ เมื่อเขาอาศัยผลการฝึกตนมหาจักรพรรดิยุทธ์เก้ากงล้อ สามารถปลดปล่อยกำลังรบที่เทียบเท่าผู้สูงส่งออกมาได้โดยสมบูรณ์เลย
ทว่าแม้จะไม่มีกงล้อวัฏจักรธรรม ผลการฝึกตนเป็นมหาจักรพรรดิยุทธ์เก้ากงล้อเหมือนกัน เขาก็ไม่ได้นำผู้อาวุโสไท่ซ่างสองคนนั้นของอาณากระบี่หวูจี๋มาไว้ในสายตาเช่นกัน
มีคู่ต่อสู้ในแดนเดียวกันน้อยมาก แทบจะเป็นผู้ไร้เทียมทานในแดนเดียวกัน เมิ่งเชียนชางจึงมีคุณสมบัติทำตัวหยิ่งยโสเช่นนี้!
เมิ่งเชียนชางปรากฏด้านหลังเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ รูเล็ตที่โบราณและเรียบง่ายชิ้นหนึ่งร่วงหล่นลงมากะทันหัน ทำให้ร่างกายเขาถูกบทขยี้จนกลายเป็นเนื้อเละ ๆ ระเบิดแตกเป็นหมอกเลือดอยู่กลางท้องฟ้า
“พวกเจ้าจักหนีไม่รอดแม้แต่คนเดียว!”
เมิ่งเชียนชางแสยะยิ้มอย่างเยือกเย็น เขาสามารถสัมผัสได้อยู่ว่าทุกครั้งที่ตัวเองสังหารคู่ต่อสู้หนึ่งคน พลังวัฏสงสารสูงสุดก็จะทำให้ผลการฝึกตนของเขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ถ้าเกิดกำจัดพวกผู้อาวุโสไท่ซ่างในอาณากระบี่หวูจี๋หมดละก็ ผลการฝึกตนของเขาน่าจะสามารถยกระดับถึงแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์เก้ากงล้อขั้นสูงได้แล้ว
การดับสลายสูญสิ้นของผู้อาวุโสไท่ซ่างทำให้คนจำนวนไม่น้อยต่างตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูก สำหรับคนส่วนใหญ่ในอาณากระบี่หวูจี๋แล้ว ผู้อาวุโสไท่ซ่างทุกคนที่มีผลการฝึกตนมหาจักรพรรดิยุทธ์ล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งที่สูงส่ง ปัจจุบันไม่นึกเลยว่าคนเหล่านั้นจะตายอย่างน่าเวทนาอยู่ต่อหน้าพวกเขา
เรื่องตื่นตระหนกตกใจเป็นเพียงเรื่องรอง สิ่งที่ตามมาก็คือความหวาดกลัวที่เกิดจากการโจมตีของศัตรู!
“อ๊ากก! ……”
เสียงกรีดร้องที่น่าเวทนาดังขึ้นมาอีกครั้ง นี่เป็นผู้อาวุโสไท่ซ่างคนที่สามแล้วที่ตายอยู่ในเงื้อมมือเมิ่งเชียนชาง
กระทั่งวินาทีนี้ บนนภานอกอาณากระบี่หวูจี๋ก็เหลือเพียงผู้อาวุโสไท่ซ่างสองคนที่มีผลการฝึกตนมหาจักรพรรดิยุทธ์เก้ากงล้อ รวมไปถึงตู๋กูเจี้ยนเฉินที่เพิ่งตกลงมาจากฟ้าแล้วบาดเจ็บสาหัส
และในเวลานี้เอง อาศัยช่วงจังหวะที่ผู้อาวุโสสองคนถูกสังหาร ผู้อาวุโสไท่ซ่างสองคนที่มีผลการฝึกตนมหาจักรพรรดิยุทธ์เก้ากงล้อจึงเข้าไปในขอบเขตของอาณากระบี่ ได้รับการคุ้มครองจากม่านแสงค่ายใหญ่ ในขณะที่รู้สึกว่าตนรอดพ้นจากภัยพิบัติอยู่นั้น ภายในใจก็เต็มเปี่ยมไปด้วยไฟโกรธที่ล้นฟ้า
ถูกศัตรูบุกโจมตีมาถึงสำนักเขาไม่ว่า ผู้อาวุโสไท่ซ่างถึงขั้นดับสลายสูญสิ้นติดต่อกันถึงสามคน สำหรับอาณากระบี่หวูจี๋แล้ว นี่ต้องเป็นการโจมตีและการเหยียดหยามที่ยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่งอย่างแน่นอน!
“พวกเจ้าคิดจริง ๆ หรือว่ามีกระดองเต่าแค่อันเดียวก็ปลอดภัยแล้ว?”
นอกม่านแสงค่ายใหญ่ เมิ่งเชียนชางหัวเราะอย่างเยือกเย็น ก่อนจะพลิกมือหยิบฮู้สีดำออกมาหนึ่งชิ้น
“ฮู้ดับต้องห้าม!”
เสี้ยววินาทีที่เห็นเมิ่งเชียนชางหยิบฮู้ดับต้องห้ามนั่นออกมา ตู๋กูที่อยู่ในหุบเขาก็ลืมตาขึ้นมากะทันหัน แววตาเฉียบคมดั่งกระบี่ มองทะลวงปริภูมิ
ตั้งแต่วินาทีที่เมิ่งเชียนชางปรากฏตู๋กูก็สัมผัสได้แล้ว แต่เขาแค่ไม่ได้ลงมือเท่านั้นเอง แม้นเหตุการณ์ในครั้งนี้จะทำให้อาณากระบี่หวูจี๋ต้องสูญเสียผู้แข็งแกร่งไปบ้าง ทว่าสำหรับกองกำลังระดับแดนศักดิ์สิทธิ์หนึ่งแล้ว เหตุการณ์นี้เป็นการขัดเกลาและบททดสอบที่ต้องประสบ
อย่างไรเสียเขาก็ไม่มีทางประคองแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ใหญ่โตได้ด้วยแรงตนเองเพียงคนเดียวอยู่แล้ว นอกเสียจากมีผู้แข็งแกร่งระดับผู้สูงส่งย่างกรายมาถึง มิเช่นนั้นภัยคุกคามอื่น ๆ ล้วนต้องให้อาณากระบี่หวูจี๋เป็นผู้จัดการเอง เมื่อไม่ถึงช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย เขาจักไม่ลงมือง่าย ๆ
แต่ฮู้ดับต้องห้ามกลับแตกต่างกัน เพราะมีเพียงผู้แข็งแกร่งระดับประมุขเต๋าที่ชำนาญในวิถีค่ายเท่านั้นถึงจะสามารถกลั่นฮู้ประเภทนี้ออกมาได้ ขอแค่เป็นค่ายกลที่บรรลุไม่ถึงระดับประมุขเต๋า เมื่ออยู่ต่อหน้าฮู้ดับต้องห้าม ค่ายกลเหล่านั้นก็แทบจะไม่ต่างอะไรจากของตกแต่งเลย!
“ฉึก!”
เสี้ยววินาทีที่เมิ่งเชียนชางกระตุ้นฮู้ดับต้องห้าม ก็มีแสงมืดดวงหนึ่งบินออกไปจากฮู้สีดำ วินาทีนี้ม่านแสงค่ายใหญ่ระดับผู้สูงส่งที่แข็งแกร่งไม่ต่างอะไรจากสิ่งเปราะบาง เพียงพริบตาเดียวก็ถูกฉีกกระชากจนแตกสลาย และไม่คงอยู่อีกต่อไป!
ทันทีที่ไม่มีการขวางกั้นของม่านแสงค่ายกล จากศักยภาพ ณ ปัจจุบันของเมิ่งเชียนชาง ล้วนเป็นฝันร้ายสำหรับคนในอาณากระบี่หวูจี๋ ทั้งสำนักเขามีโอกาสสูญสิ้นอยู่ในเงื้อมมือเขาสูงมาก!
เมื่อดำเนินการมาถึงวินาทีนี้ ตู๋กูรู้อยู่ว่าตัวเองจำเป็นต้องลงมือแล้ว เขาสามารถยอมรับความเสียหายของอาณากระบี่หวูจี๋ได้ในขอบเขตที่กำหนด แต่กลับไม่มีทางนิ่งดูดายต่อหายนะที่อาณากระบี่หวูจี๋จะถูกล้มล้าง
ไม่ว่าอย่างไรอาณากระบี่แห่งนี้ก็เป็นกิจการงานที่เขาทุ่มแรงกายแรงใจบ่มเพาะมายาวนานมาก ๆ แล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
นี้ก็หายไปเป็นปีเลย แอแ...
รออ่านยุ...
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...