มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 2931

“มังกรอิม เจ้าเลิกคิดเสียเถอะ!”

แน่นอนว่ามกุฎเต๋าบรรพจารย์ฮวงไม่สามารถนั่งมองเฉย ๆ เพื่อให้มกุฎมังกรอิมไปสู้กับหลัวซิวได้ ดังนั้นวินาทีที่มกุฎมังกรอิมทำลายอนัตตาพุ่งเข้าไปสู่สถานปรักเซียน เขาก็พุ่งตามเข้าไปด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังยกมือขึ้นปล่อยวิชาพลังอมตะมากมายเข้าไปโจมตีมกุฎมังกรอิมอีกด้วย

“เจ้าที่ไม่มีหอคอยฮวง มีสิทธิ์อะไรมาสู้กับข้า?”

สีหน้าของมกุฎมังกรอิมเผยรอยยิ้มเย็นชาด้วยความเย้ยหยันออกมา นอกจากอู๋จี๋และนอกนภาสองศิษย์พี่น้องนี้ที่ทำให้นางค่อนข้างที่จะหวาดกลัวอยู่บ้าง แต่สำหรับบรรพโบราณทั้งแปดแล้ว นางไม่เคยเห็นอยู่ในสายตา

“ปัง!”

สถานปรักเซียนแต่เดิมก็มีอายุมาอย่างยาวนานอยู่แล้ว ปริภูมิภายในนั้นไม่มั่นคงอย่างมาก เมื่อผู้แข็งแกร่งระดับมกุฎเต๋าทั้งสองคนต่อสู้กันภายในที่แห่งนี้ อนัตตาขนาดมหึมาก็พลันแตกร้าวลงในพริบตา ระเบิดออกกลายเป็นความว่างเปล่า

มกุฎเต๋าทั้งสองท่านไม่มีใครปราณีใครทั้งสิ้น มกุฎเต๋าบรรพจารย์ฮวงควบคุมธรรมเวชกาลร้าง ร่างเนื้อแข็งแรงหาใดเทียม ทุกการขยับต่างก็ปล่อยพลังอำนาจมหาศาลออกมา มกุฎมังกรอิมครอบครองความมืดและน้ำแข็งแห่งไท่หยิน สิ่งที่นางสำแดงพลังอมตะความมืดออกมานั้น ต่างก็เป็นสิ่งที่สามารถกลืนกินได้แม้แต่ห้วงเวลา

มกุฎเต๋าทั้งสี่ค่อสู้กันโดยแบ่งฝ่ายเป็นสองสอง สองคนอยู่ภายในสถานปรักเซียน อีกสองคนอยู่ด้านนอกสถานปรักเซียน

เนื่องด้วยสงครามระหว่างมกุฎมังกรอิมและมกุฎเต๋าบรรพจารย์ฮวงยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ปริภูมิทั่วทั้งสถานปรักเซียนก็ถูกทำลายลงไปจนแทบไม่เหลือเค้าโครง เรียกได้ว่าผู้สูงส่งและมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าจำนวนไม่น้อยที่ก่อนหน้านี้ถูกส่งเข้ามาหาสมบัติภายในสถานปรักเซียนต่างก็ถูกคลื่นของพลังนั้นโจมตี ภายในชั่วพริบตาก็เสียชีวิตโดยไม่เหลือแม้แต่โครงกระดูก

โชคยังดีที่คนที่ถูกคลื่นจากสงครามระหว่างมกุฎเต๋าโจมตีนั้นมีไม่มาก แต่ภายในสถานปรักเซียนมียาเซียนและทรัพยากรที่หายากเป็นจำนวนมากนั้นได้รับผลกระทบอย่างมาก ไม่รู้ว่ามีของดีสักกี่มากน้อยที่ถูกทำลายไป

หลัวซิวคิดไม่ถึงว่าเรื่องจะกลายเป็นการต่อสู้ครั้งใหญ่ระหว่างผู้แข็งแกร่งระดับมกุฎเต๋า แต่ว่าเขาเห็นแค่เพียงมกุฎมังกรอิมกับมกุฎเต๋าบรรพจารย์ฮวง แต่กลับไม่เห็นอาจารย์ของตนและมกุฎเต๋าหวูซินเลย

สงครามการปะทะกันระหว่างผู้แข็งแกร่งระดับมกุฎเต๋า หลัวซิวไม่มีทางเข้าไปใกล้อย่างแน่นอน ไม่ต้องพูดถึงว่าเขาในตอนนี้เป็นเพียงมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าช่วงปลาย ต่อให้เขาบรรลุถึงแดนผู้สูงส่ง ก็ใช่ว่าจะมีคุณสิทธิ์เข้าไปแทรกแซงสงครามระดับมกุฎเต๋า

ปริภูมิทั่วทั้งสถานปรักเซียนต่างเกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรงขึ้นมา หลัวซิวประเมินว่า หากเหตุการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป ไม่นานจากนี้ปริภูมิทั่วทั้งปรักเซียนก็จะพังทลายลง ทุกสิ่งทุกอย่างในที่แห่งนี้ ต่างก็จะถูกพลังงานของปริภูมิที่พลังทลายทั้งหมดแผดเผาจนสิ้น

อาศัยสรรพคุณของน้ำอมฤตเทียนอี บาดแผลของหลัวซิวก็ได้ฟื้นฟูขึ้นมาไม่น้อย เขาหยิบเอาแผนที่ม้วนหยกออกมา ไม่นานก็สามารถตรึงตำแหน่งของสามสมบัติในปรักเซียนไว้ได้ ชิ้นสุดท้ายก็คือที่อยู่ของเข็มทิศสาสน์เต๋าชิ้นนั้น

ในเมื่อรากเซียนน้ำไฟและไข่มุกสาสน์เต๋าต่างก็ได้มาอยู่ในมือแล้ว แน่นอนว่าหลัวซิวจึงไม่มีเหตุผลที่จะปล่อยสมบัติชิ้นสุดท้ายอย่างเข็มทิศสาสน์เต๋าให้หลุดมือไป

เมื่อมีมกุฎเต๋าบรรพจารย์ฮวงลงมือ ต่อให้พลังของมกุฎมังกรอิมจะแข็งแกร่งกว่ามกุฎเต๋าบรรพจารย์ฮวงเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่สามารถหาจังหวะมาลงมือกับหลัวซิวได้อยู่ดี

ดังนั้น ใช้เวลาเพียงไม่นาน หลัวซิวก็สามารถค้นหาจนเจอตำแหน่งของเข็มทิศสาสน์เต๋า แต่ว่าเขากลับมองไม่เห็นเข็มทิศสาสน์เต๋า เห็นเพียงห้วงลึกแห่งหนึ่งที่มีตัวต้องห้ามพละเซียนน้ำไฟผนึกอยู่

และตามสัญลักษณ์บนแผนที่ม้วนหยก เข็มทิศสาสน์เต๋าก็น่าจะอยู่ที่ฐานล่างสุดของห้วงลึกแห่งนี้

“ปัง!”

หลัวซิวกระโดดลงไปในห้วงลึกอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย เขาโคจรสรรพวิถีล้วนว้าง รอบกายเปล่งประกายไปด้วยแสงเซียน ฝืนฝ่าการโจมตีของตัวต้องห้ามพละเซียนน้ำไฟเอาไว้ และดำดิ่งลงไปยังด้านล่างสุดของห้วงลึกเรื่อย ๆ

ทันใดนั้นเอง เขาก็สัมผัสได้ถึงพลังอันมหาศาลของออร่าวิถีเซียน จากนั้นเขาก็สังเกตเห็นถึงกงล้อกลมที่มีลักษณะเหมือนดาวหกแฉก ลอยอยู่ท่ามกลางความมืดในห้วงลึก

ลายเส้นบนกงล้อนั้นตัดสลับกันไปมา ทุก ๆ ลายเส้นต่างเต็มเปี่ยมไปด้วยความลึกลับของวิถีเซียน แต่ไม่เหมือนกับรากเซียนน้ำไฟ บนเข็มทิศสาสน์เต๋าชิ้นนี้มีออร่าของAttrไหลเวียนอยู่ ไม่ใช่Attrของพละน้ำไฟ

“สมบัติแห่งฟ้าดินบ่มเพาะหรือ?”

วินาทีที่หลัวซิวมองเห็นเข็มทิศสาสน์เต๋า ลางสังหรณ์ของเขาก็บอกกับเขาว่าสมบัติชิ้นนี้ต้องไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์กลั่นขึ้นมาอย่างแน่นอน เพราะว่าหากเป็นสมบัติที่ชาวเซียนกลั่น ไม่มีทางที่จะมีออร่าพลังเต๋าทั่วไปทั้งชิ้นเช่นนี้

จากบนเข็มทิศสาสน์เต๋า หลัวซิวสัมผัสได้ถึงAttrของปริภูมิ Attrของความเร็ว Attrของแสง กระทั่งAttrของเวลา

“ล้วนเต็มไปด้วยกำลังเซียนของAttrทั้งสี่ชนิด?” แววตาของหลัวซิวเผยความประหลาดใจออกมา ในมือของเขาก็มีภัณฑ์เซียนอยู่ชิ้นหนึ่ง แต่ขวดเซียนอัคคีหลอมจิต ก็เป็นแค่เพียงภัณฑ์เซียนที่มีเพียงAttrไฟชนิดเดียวเท่านั้น

นั่นก็หมายความว่า หากเข็มทิศสาสน์เต๋าในมือของเขาสามารถยกระดับไปถึงระดับภัณฑ์เซียนได้ นั่นก็เทียบเท่ากับสมบัติชิ้นหนึ่งแข็งแกร่งกว่าขวดเซียนอัคคีหลอมจิตหลายหมื่นหลายแสนเท่า

ขนาดของเข็มทิศสาสน์เต๋านั้นไม่ใหญ่ รัศมีมีเพียงแค่ระยะประมาณหนึ่งเมตรเท่านั้น หลัวซิวไม่ลังเลที่จะเปิดตัวตัวหยั่งรู้ของตนออก เก็บเอาเข็มทิศสาสน์เต๋าเข้าไปด้านใน

ในวินาทีที่เข็มทิศสาสน์เต๋าถูกหลัวซิวเก็บไป สมบัติทั้งสามชิ้นทั่วทั้งสถานปรักเซียนจึงหายไปทั้งหมด

เมื่อสมบัติทั้งสามชิ้นถูกเก็บไปจนหมด เช่นนั้นตัวต้องห้ามที่ชาวเซียนทิ้งเอาไว้ในที่แห่งนี้ ก็หมดความหมายที่จะดำรงอยู่ ณ ที่แห่งนี้อีกต่อไป

ดังนั้น เมื่อเข็มทิศสาสน์เต๋าชิ้นสุดท้ายถูกหลัวซิวชิงไปแล้ว ทั่วทั้งปริภูมิของสถานปรักเซียน ก็ยิ่งทวีคูณความเร็วในการพังทลายขึ้นอีกในทันที

ถึงแม้ว่าจะไม่มีผู้แข็งแกร่งระดับมกุฎเต๋าต่อสู้กันในที่แห่งนี้ ปริภูมิแห่งนี้ก็ยังจะพังทลายอยู่ดี เพียงแค่การพังทลายนั้นจะเร็วหรือช้าก็เท่านั้น

“ไม่ได้การ รีบหนี!”

เมื่อหลัวซิวเก็บเข็มทิศสาสน์เต๋าไปแล้ว ก็ได้เป็นการเพิ่มความเร็วในการพังทลายปริภูมิสถานปรักเซียนอีกด้วย พลังการดับสูญอันน่าสะพรึงกลัวระเบิดออกมา ทำให้ทุกคนที่อยู่ภายในสถานปรักเซียนต่างตกใจจนทำอะไรไม่ถูกขึ้นมา

ไม่ว่าจะเป็นนักยุทธ์ระดับประมุขเต๋า หรือผู้สูงส่ง หรือกระทั่งมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้า ทุกคนต่างสำแดงวิชาของตนที่แข็งแกร่งที่สุดออกมาอย่างบ้าคลั่งเพื่อทำลายปริภูมิ คิดเพียงแต่ต้องการจะหนีออกไปจากที่แห่งนี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ