มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 2934

นับตั้งแต่ปริภูมิสถานปรักเซียนแดนบรรพกาลพังทลาย จนถึงวันนี้เป็นเวลาผ่านไปหลายเดือนแล้ว

แม้เวลาจะไม่นาน แต่อะไร ๆ ก็เกิดขึ้นได้ในสถานการณ์ที่ปั่นป่วนในปัจจุบัน

จากความทรงจำของมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรแปดทั้งสองแห่งเผ่าดิน หลัวซิวก็ได้รับข่าวที่น่าตื่นตกใจ!

บรรพจารย์ฮวง…… ตายแล้ว!

ข่าวดังกล่าวเหมือนสายฟ้าจากท้องฟ้าที่สว่างไสว แม้ว่าตัวธรรมสงบนิ่งอย่างหลัวซิว ก็ยังอดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านไปทั้งตัว

ปฏิกิริยาแรกของเขาคือ ข่าวนี้เป็นความจริงหรือ? ถึงอย่างไรบรรพจารย์ฮวงก็ถือว่าเป็นหนึ่งในตำนาน อีกแค่ครึ่งก้าวก็จะเหยียบเข้าสู่แดนวิถีเซียนแล้ว ในยุคปัจจุบันที่ไม่มีชาวเซียนปรากฏขึ้นบนโลก ใครยังสามารถสังหารผู้แข็งแกร่งกึ่งเซียนอย่างมกุฎเต๋าขั้นสูงได้?

ความทรงจำของมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรแปดทั้งสองไม่ได้มีข้อมูลที่ละเอียดมากนัก ที่พวกเขาสามารถรับรู้ข่าวเช่นนี้ได้ ก็คือตอนที่อยู่ในสถานบรรพบุรุษถ้ำมังกรของเผ่าดิน บังเอิญได้ยินผู้อาวุโสท่านหนึ่งเอ่ยขึ้นเท่านั้น

“ถ้าหากบรรพจารย์ฮวงตายแล้วจริง ๆ เช่นนั้นอาจารย์……”

หลัวซิวขมวดคิ้ว ตัวธรรมที่สงบนิ่งทำให้เขารักษาสติสัมปชัญญะและความสงบได้ในระดับหนึ่ง แม้ว่าจะได้ทราบข่าวที่น่าตกใจเช่นนี้ก็ตาม

หากข้อมูลดังกล่าวเป็นจริง เช่นนั้นก็หมายความว่าสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวงกับเผ่ามังกรไท่ชูร่วมมือกันโจมตีโลกร้าง แต่ท่ามกลางโลกร้างไม่ใช่จะมีแค่บรรพจารย์ฮวงท่านเดียว ยังมีอาจารย์ของหลัวซิว นั่นก็คือมกุฎเต๋าหวูจี๋คอยบัญชาอยู่ด้วย

หากว่าบรรพจารย์ฮวงเกิดเรื่องขึ้น เช่นนั้นมกุฎเต๋าหวูจี๋ที่ออกมาจากแดนในวันนี้จะเป็นเช่นไร?

หลัวซิวคิดว่าเป็นไปได้มากที่ข่าวจะเป็นจริง ถึงอย่างไรบรรพจารย์ฮวงก็เป็นถึงการดำรงอยู่ของตำนาน หากไม่มีอะไรไม่คาดคิดเกิดขึ้น ผู้อาวุโสของเผ่าดินจะนำเรื่องการตายของบรรพจารย์ฮวงออกมาพูดส่งเดชได้อย่างไร?

“ผุ!”

เปลวเพลิงสองลูกถูกหลัวซิวโบกมือโยนออกไป ศพไร้ศีรษะของมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรแปดทั้งสองของเผ่าดิน ถูกเผาทำลายเป็นเถ้าธุลีในพริบตา เมื่อลมพัดผ่านมา ก็ปลิวละล่องไปตามอากาศ

ทุกคนในเมืองแสงดาวที่เห็นฉากนี้รู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก นั่นเป็นถึงผู้แข็งแกร่งที่มาจากเผ่าดิน คนตรงหน้านี้กลับสังหารเขาโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย ดาวร้ายที่น่าหวาดเกรงเช่นนี้ ใครจะไปกล้ายั่วยุ?

ตัวสำนึกของหลัวซิวแผ่ขยายถึงขีดสุดทันที ครอบคลุมทุกซอกทุกมุมของเมืองแสงดาวทั้งหมดอย่างสมบูรณ์แบบ

ในไม่ช้าเขาก็ตรึงตำแหน่งหนึ่งไว้ จากนั้นร่างของเขากระพริบ และเทเลพอร์ตตรงไป

ด้านหน้าตำหนักหลักเมืองของเมืองแสงดาว นักยุทธ์สองคนหยุดเขาไว้ด้วยท่าทีระมัดระวัง “ที่แห่งนี้คือตำหนักหลักเมืองเป็นสถานที่สำคัญ หากไม่ได้รับอนุญาต ห้ามเข้า”

เมืองแสงดาวกว้างขวาง แต่เพราะหลัวซิวใช้การเทเลพอร์ตมายังที่นี่ ดังนั้นคนของตำหนักหลักเมืองทางนี้ จึงยังไม่รู้เรื่องที่สองผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรแปดถูกสังหาร

“ไสหัวไป!”

หลัวซิวคร้านจะพูดให้เปลืองน้ำลาย เห็นเพียงเขาเดินสาวเท้าก้าวเข้าไป บนร่างปลดปล่อยออร่าที่มองไม่เห็นออกมา ทำให้นักยุทธ์สองคนที่อารักขาอยู่หน้าตำหนักหลักเมืองลอยกระเด็นออกไป แต่ละคนต่างกระอักเลือดสดออกมา หมดสติไปในทันที ไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย

เวลานี้ท่ามกลางสำนักของตำหนักหลักเมือง เจ้าเมืองของเมืองแสงดาวกำลังจัดงานเลี้ยงให้กับชายหนุ่มรูปงามที่มาจากเผ่าดิน หรือก็คือตี้เทียนเจี๋ยนั่นเอง

เผ่าดินในโลกใต้ดินนี้ เรียกได้ว่าเป็นกองกำลังที่ยิ่งใหญ่อย่างไร้ข้อโต้แย้ง ถึงแม้ว่าตี้เทียนเจี๋ยจะมีผลการฝึกตนไม่ถึงมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรแปดด้วยซ้ำ แต่เป็นเพราะว่าเขาเกิดในเผ่าดิน เป็นผู้สืบทอดที่ครอบครองสายเลือดมังกรดินตรีภพอย่างแท้จริง เช่นนั้นต่อให้เจ้าเมืองของเมืองแสงดาวจะเป็นผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าท่านหนึ่ง เขาก็ยังไม่กล้าที่จะละเลยแม้แต่น้อย

“น่าเสียดายจริง หากว่าข้าไม่ได้มองผิดไป ผู้หญิงคนนั้นก็น่าจะครอบครองการสืบทอดสายเลือดที่ยิ่งใหญ่อยู่ด้วย หากว่าสามารถผสมกันได้ ย่อมต้องทำให้ระดับของสายเลือดของข้าเพิ่มขึ้นอีกไม่น้อยทีเดียว”

งานเลี้ยงในโถงใหญ่ ตี้เทียนเจี๋ยดื่มเหล้าในแก้วด้วยอารมณ์ที่ค่อนข้างหดหู่ ถอนหายใจด้วยความเสียดาย

ก่อนหน้านี้หลังจากออกจากเกสเฮ้าว์กลางเมืองแสงดาว คนรับใช้ชราในบัญชาของเขาได้ไปจัดการกับชายที่อยู่กับผู้หญิงคนนั้นแล้ว ผู้หญิงคนนั้นพยายามที่จะหลบหนี แต่ก็ถูกเขานำกำลังคนมาขัดขวางไว้ด้วยตนเอง

ตี้เทียนเจี๋ยคือจักรพรรดิเทพวัฏจักรเจ็ดขั้นสูง ครอบครองการสืบทอดพลังแห่งสายเลือดของบรรพจารย์ดิน ดังนั้นแม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาต่อให้เจอกับผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรแปดช่วงกลางเขาก็สามารถจัดการได้อย่างใจเย็น

ตี้เทียนเจี๋ยเดิมคิดว่ามันคงจะง่ายที่จะจัดการผู้หญิงคนนั้นด้วยกำลังของเขาเอง หลังจากที่เขาจับผู้หญิงคนนี้ได้ เขาก็สามารถสนุกกับนางได้จนพอใจ สนองงานอดิเรกโรคจิตของเขาด้วยความสุขทางเพศอย่างพึงพอใจ

แต่ตี้เทียนเจี๋ยไม่คาดคิดว่าเขาจะประเมินความแข็งแกร่งของผู้หญิงคนนั้นผิดไป เธอไม่ใช่แค่ ผู้หญิงที่เพียงแค่สวยงามและมีออร่าที่โดดเด่นแต่แต่มีผลการฝึกตนจักรพรรดิเทพวัฏจักรเจ็ดช่วงกลาง พลังที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าตนเลย

ตี้เทียนเจี๋ยสามารถมั่นใจได้ว่าท่ามกลางโลกใต้ดินไม่มีทางมีผู้หญิงคนใดที่เก่งกาจถึงเพียงนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งออร่าสายเลือดที่แข็งแกร่งออกมาจากผู้หญิงคนนั้น มันมีพลังและเก่าแก่ยิ่งกว่าเลือดบรรพจารย์ดินในร่างกายของเขาเสียอีก!

การค้นพบนี้ทำให้ตี้เทียนเจี๋ยรู้สึกดีจนแทบคลั่ง แม้ว่าความแข็งแกร่งของผู้หญิงจะไม่อ่อนแอ แต่เขาก็ยังสามารถทำร้ายผู้หญิงคนนั้นอย่างรุนแรงได้ด้วยการใช้ไพ่ตาย

เมื่อตี้เทียนเจี๋ยคิดว่าเขาไม่เพียงแต่จะได้ร่างกายของผู้หญิงที่สวยโดดเด่นเท่านั้น แต่ยังได้รับโอกาสในการยกระดับสายเลือดของเขาด้วย แต่ผู้หญิงบ้าคนนั้นกลับหนีรอดไปได้จากใต้จมูกของเขา!

หากว่าแค่หนีก็ยังไม่เป็นไร ถึงอย่างไรโลกใต้ดินก็กว้างใหญ่เสียขนาดนี้ เพียงแค่อีกฝ่ายไม่ได้หนีออกไปจากขอบเขตของโลกใต้ดิน เช่นนั้นก็อย่าคิดแม้แต่จะหนีการไล่ตามของเขา

แต่ว่า! ผู้หญิงคนนั้นกลับหนีเข้าไปในสถานที่ที่แม้แต่เขาก็ไม่กล้าเข้าไป!

สถานที่แห่งนั้น มีนามว่าหุบเขาเขี้ยวโลหิต!

ก็เหมือนกับแดนบรรพกาลแห่งโลกร้าง หอคอยนภากาศของโลกสวรรค์ ทุกแดนของโลกาผู้สูงส่งทั้งแปด ต่างก็มีสถานที่ประหลาด มีสิ่งเร้นลับทุกประเภทที่คนทั่วไปไม่รู้

ท่ามกลางหุบเขาเขี้ยวโลหิตมีความเร้นลับแบบใดที่ซ่อนอยู่ แม้แต่มกุฎเต๋าบรรพจารย์ดินเองก็ยังไม่รู้ ในตอนแรกเริ่มที่มกุฎเต๋าบรรพจารย์ดินเปิดโลกใต้ดินขึ้นมา ยังไม่มีสถานที่ดังเช่นหุบเขาเขี้ยวโลหิตเกิดขึ้น

สำหรับที่มาของหุบเขาเขี้ยวโลหิต มีการพูดถึงกันว่าหุบเขาเขี้ยวโลหิตมาจากแดนบรรพกาล หรือบางคนก็บอกว่ามาจากหอคอยนภากาศของโลกสวรรค์

ไม่ว่าหุบเขาเขี้ยวโลหิตจะมีที่มาอย่างไร นับตั้งแต่หุบเขาเขี้ยวโลหิตปรากฏขึ้น ก็ปักหลักอยู่ที่โลกใต้ดิน นับตั้งแต่โบราณกาลจนถึงปัจจุบัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ