ตั้งแต่เริ่มต้นหลัวซิวก็รู้แล้วว่าโกวต๋าเป็นเพียงกุ๊ยกระจอก ๆ เมื่อตัวสำนึกของเขามองเห็นท่านหัวหน้าแก๊งที่อยู่บนชั้นสามของอาคารพาณิชย์ หลัวซิวก็คาดเดาว่าท่านหัวหน้าแก๊งคนนั้นน่าจะเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังโกวต๋า
สำหรับศักยภาพในปัจจุบันของหลัวซิวแล้ว เขาที่อยู่บนดาราทงซังสามารถทำเรื่องทุกอย่างได้อย่างสบายใจเลย เนื่องจากที่นี่ไม่มีคู่ต่อสู้ใด ๆ ที่สามารถสร้างภัยคุกคามให้แก่เขาได้ด้วยซ้ำ
เขาจับมือเหยียนเยว่เอ๋อร์ที่อยู่ข้างกาย วินาทีต่อไปหลัวซิวและเหยียนเยว่เอ๋อร์ที่ยังเดินอยู่บนถนนในตอนแรกก็หายวับไปกะทันหัน
จู่ ๆ ทั้งสองคนที่เดินอยู่บนถนนใหญ่ก็หายวับไป ทำให้ผู้คนที่อยู่บริเวณข้างเคียงล้วนตกใจจนสะดุ้ง ซูเสว่หลันที่เดินตามอยู่ด้านหลังมาโดยตลอดก็เบิกตากว้างอ้าปากค้างเช่นกัน
นางสามารถยืนยันได้เลยว่าหลัวซิวต้องเทเลพอร์ตแน่นอน แต่เห็นได้ชัดเจนเลยว่าแดนในการยึดกุมปริภูมิของฝ่ายตรงข้ามสูงมาก นางสัมผัสคลื่นปริภูมิไม่ได้เลยแม้แต่น้อย และยิ่งไม่ทราบด้วยว่าหลัวซิวเทเลพอร์ตไปยังสถานที่ใด
มีความโกรธแค้นเสี้ยวหนึ่งกระพริบผ่านไปในแววตาซูเสว่หลัน นางเข้าใจดีมาก ๆ ว่าการปรากฏตัวของหลัวซิวเป็นที่พึ่งพิงเดียวที่นางจะแก่งแย่งไฟเทวชิงเทียนกลับมา หากหลัวซิวจากไปแล้วละก็ จากศักยภาพ ณ ปัจจุบันของนาง จะมีทางแก่งแย่งสมบัติกลับมาจากมือพวกแก๊งทงซังได้อย่างไร?
ภายในห้องรับแขกบนชั้นสามของอาคารพาณิชย์ ท่านหัวหน้าแก๊งยังสอบถามรายละเอียดยิบย่อยกับโกวต๋าอยู่ อ้างอิงจากการบรรยายของโกวต๋า ท่านหัวหน้าแก๊งคนนี้ของแก๊งทงซังจึงชี้ขาดได้แล้วว่าชายหนุ่มชุดดำคนนั้นไม่มีทางใช่เทพมารระดับเก้าขั้นปฐมภูมิแน่นอน
แค่ใช้พลังออร่าก็สามารถทำให้โกวต๋าที่มีผลการฝึกตนเทพมารระดับเก้าช่วงปลาย ไม่มีแม้แต่ความคิดที่จะกล้าต่อต้าน อย่างน้อยฝ่ายตรงข้ามก็เป็นผู้แข็งแกร่งระดับราชาเทพห้ากงล้อคนหนึ่ง
“เจ้ากำลังตามหาข้าอยู่หรือ?”
ทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงเสียงหนึ่งสะท้อนเข้าไปในหูชายชุดแพรและโกวต๋า นี่จึงทำให้สีหน้าของพวกเขาทั้งสองคนเปลี่ยนไปกะทันหัน
“เจ้าเข้ามาได้อย่างไร?”
ชายชุดแพรเห็นชายหนึ่งหญิงหนึ่งปรากฏตรงหน้ากะทันหัน แต่ทว่า ณ เสี้ยววินาทีที่เห็นฝ่ายตรงข้าม หัวหน้าแก๊งคนนี้ของแก๊งทงซังก็รู้แล้วว่าสองคนนี้ต้องเป็นสองคนที่โกวต๋าหมายถึงแน่นอน
ส่วนสิ่งที่หัวหน้าแก๊งทงซังใส่ใจมากกว่านั้นคือบนชั้นสามของอาคารพาณิชย์แห่งนี้มีค่ายกลต้องห้าม ไม่นึกเลยว่าทั้งสองคนนี้จะสามารถเข้ามาได้อย่างราบรื่น พวกเขาต้องมีผลการฝึกตนและศักยภาพระดับใดกันนะ?
“เจ้าไม่มีความจำเป็นต้องทราบ ข้ามีคำถามบางอย่างจักถามเจ้า”
หลัวซิวเอ่ยปากพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่ง สายตาที่เยือกเย็นเพ่งมองหัวหน้าแก๊งทงซังที่อยู่ในชุดแพร
“แน่นอนอยู่แล้วว่าลำดับแรกข้าหวังว่าเจ้าจะซื่อสัตย์หน่อย”
ในระหว่างที่พูดอยู่นั้น ก็มีพลังออร่าอันแข็งแกร่งที่มากมายมหาศาลอย่างไร้ขอบเขตปะทุออกมาจากตัวหลัวซิว ภายใต้สถานการณ์ที่เขาปลดปล่อยพลังอำนาจออกมาด้วยตนเอง โกวต๋าที่มีผลการฝึกตนเทพมารระดับเก้าช่วงปลายก็กระอักเลือดกะทันหัน เป็นลมหมดสติไปโดยตรง
ส่วนท่านหัวหน้าแก๊งแห่งแก๊งทงซังนั่น แม้สถานการณ์ของเขาจะดีกว่าโกวต๋าเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันเท่าไหร่นัก หลังจากกระอักเลือดเฮือกหนึ่ง ตัวเขาก็ล้มนั่งลงไปกับพื้น แม้แต่ลุกขึ้นยืนก็ทำไม่ได้
ณ บัดนี้วินาทีนี้ หัวหน้าแก๊งทงซังคนนี้จะยังไม่เข้าใจได้อย่างไรว่าศักยภาพของฝ่ายตรงข้ามอยู่เหนือการจินตนาการของตัวเองมาก ๆ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็เป็นผู้แข็งแกร่งแดนมกุฎเทพหกกงล้อคนหนึ่ง แต่ฝ่ายตรงข้ามแค่ใช้พลังออร่า ก็กดอัดเขาจนไม่มีแม้แต่แรงที่จะต่อต้าน
“ท่านอาวุโส……มีอะไรค่อย ๆ พูดค่อย ๆ จากันนะขอรับ……”
มีรังสีแห่งความหวาดกลัวปรากฏบนใบหน้าหัวหน้าแก๊งทงซัง ภายในแววตาก็มีความประจบประแจงปนอยู่เล็กน้อยเช่นกัน
“เจ้าเคยเห็นคนคนนี้หรือไม่?”
หลัวซิวไม่ได้ใส่ใจลักษณะท่าทีของฝ่ายตรงข้ามแต่อย่างใด เขาแค่โบกมือทีเดียว ใช้พลังเซียนแปลงรูปร่างลักษณะของถูโยวหมิงออกมา
หัวหน้าแก๊งทงซังส่ายหน้า “ตอบกลับท่านอาวุโสขอรับ ผู้น้อยไม่เคยเจอคนดังกล่าวมาก่อน แต่ทราบอยู่ว่าคนดังกล่าวคือเพื่อนผู้ยุทธ์ของซูเสว่หลัน”
เขาเข้าใจดีมาก ๆ ว่าความเป็นความตายของตัวเองล้วนอยู่ในเสี้ยวความคิดหนึ่งของผู้อาวุโสท่านนี้ ดังนั้นจึงตอบกลับคำถามของฝ่ายตรงข้ามอย่างซื่อสัตย์
“เขาตายได้อย่างไร? ตายที่ใด?”หลัวซิวถามอีกครั้ง
“ผู้น้อยก็ไม่ทราบเช่นกันขอรับว่าเขาตายได้อย่างไร ส่วนตายอยู่ที่ใดนั้น ผู้น้อยก็ยิ่งไม่ทราบเลยขอรับ”หัวหน้าแก๊งทงซังตอบกลับอย่างซื่อสัตย์
จากผลการฝึกตน ณ ปัจจุบันของหลัวซิว จิตสัมผัสของเขาว่องไวและเฉียบแหลมมาก ฝ่ายตรงข้ามโกหกหรือไม่ เพียงแวบเดียวเขาก็มองทะลุแล้ว ดูจากปฏิกิริยาของหัวหน้าแก๊งทงซัง หลัวซิวสามารถยืนยันได้อยู่ว่าคนดังกล่าวน่าจะไม่ได้โกหก
เมื่อเป็นเช่นนี้ กลับทำให้มีคำถามบางอย่างผุดขึ้นมาในใจหลัวซิว ดูเหมือนเรื่องการตายของถูโยวหมิงน่าจะมีเงื่อนงำบางอย่างซ่อนอยู่
“ซูเสว่หลันเป็นคนบอกว่าเจ้าเป็นผู้สังหารเขา”
“ไม่ ไม่ ไม่ ผู้อาวุโส เรื่องนี้ต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิดแน่นอนขอรับ หากผู้อาวุโสไม่เชื่อละก็ สามารถตรวจสอบความทรงจำของข้าและโกวต๋าได้เต็มที่เลยขอรับ”
หัวหน้าแก๊งทงซังตกใจจนสะดุ้งหลังจากได้ยินคำพูดนี้ เขานึกไม่ถึงเลยว่าตัวละครเล็ก ๆ อย่างซูเสว่หลันที่เพิ่งบรรลุสู่เทพมารระดับเก้าจะรู้จักผู้แข็งแกร่งเช่นนี้ ถ้าเกิดพิสูจน์ได้ว่าถูโยวหมิงตายเพราะแก๊งทงซัง เช่นนั้นเขาก็ต้องได้ตายอย่างแน่นอนมิใช่หรือ?
เพราะฉะนั้นหัวหน้าแก๊งทงซังคนนี้ก็เด็ดเดี่ยวมากเช่นกัน เปิดห้วงจักรหยั่งรู้ของตัวเองออก แล้วให้หลัวซิวอ่านความทรงจำของตนเต็มที่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...
ตอนใหม่ยังไม่ลงเลยครับ...