มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 295

ที่องค์กรนักล่ายุทธ์ต้องตั้งกฎอะไรพวกนี้ เป็นการป้องกันสมาชิกภายในองค์กรไม่ให้สร้างปัญหาภายนอกองค์กร โดยอาศัยนามขององค์กรและทำลายชื่อเสียงขององค์กร

และกฎเกณฑ์เช่นนั้น มุ่งเป้าไปที่สมาชิกจากต่างเขตเป็นหลัก เช่นเสิ่นหยวนหนาน เหวินเซวียนหง และเย่เซี่ยงโต่วกลุ่มนี้เป็นต้น

อย่างเช่นสมาชิกอัจฉริยะขั้นดำขึ้นไปอย่างหลัวซิว แทบไม่มีกฎเกณฑ์และข้อจำกัดใดๆ และสามารถเพลิดเพลินกับสิทธิพิเศษมากมายได้ แต่ในขณะเดียวกันก็มีภาระผูกพันที่เกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน

เมื่อก่อนที่สำนักงานใหญ่ หัวหน้าองค์กรจักรพรรดิยุทธ์หยวนเฉิงได้ให้ม้วนหยกกับหลัวซิว ซึ่งบันทึกเกี่ยวกับภาระผูกพันที่ต้องดำเนินการของสมาชิกอัจฉริยะขั้นดำขึ้นไป

ภาระผูกพันนี้ เป็นระยะเวลาห้าปี ต้องอยู่ที่องค์กรนักล่ายุทธ์เพื่อทำภารกิจรางวัลนำจับให้ครบสามภารกิจ

ภารกิจรางวัลนำจับ คือเอกลักษณ์ขององค์กรนักล่ายุทธ์ แต่ในระบบองค์กร มีเพียงสมาชิกภายในเท่านั้นที่สามารถรับภารกิจได้ และพวกเขาจะได้รับรางวัลมากมายหลังจากเสร็จสิ้น

หลัวซิวเมื่อก่อนก็เคยออกภารกิจรางวัลนำจับ เคยขอให้เย่เซี่ยงโต่วกับเหวินเซวียนหงลงมือ

ในขณะที่หลัวซิวกำลังย้อนคิดอยู่นั้น เสิ่นหยวนหนานก็พูดพลางหัวเราะไปด้วย “หากข้าเดาไม่ผิด เจ้ากลับมาครั้งนี้ ต้องการลงมือโจมตีสำนักเหลยหวู่สินะ? แต่ทางที่ดีเจ้าควรฟังคำแนะนำของข้าสักคำ เหลยเว่ยหลงมีผลการฝึกตนระดับแดนราชายุทธ์ขั้นสี่ ในตอนที่เจ้ายังไม่บรรลุถึงแดนราชายุทธ์ อย่าเพิ่งผฺลีผฺลามรีบร้อนลงมือจะดีที่สุด”

“ข้ารู้ดีว่าเจ้าสามารถต่อสู้ข้ามระดับได้ แต่แดนผลการฝึกตนของเหลยเว่ยหลงไม่เพียงแต่สูงกว่าเจ้าถึงห้าแดน ระหว่างฝึกจิตกับปรมาจารย์ยุทธ์ มีความแตกต่างกันอย่างมาก”

เสิ่นหยวนหนานพูดเช่นนี้กับหลัวซิว ก็เพราะไม่อยากให้เด็กน้อยที่เขาเลี้ยงมากับมือต้องไปเสี่ยงอันตรายเช่นนั้น ท้ายที่สุดการที่เขามีพรสวรรค์ที่ดีมากเช่นนั้น เพียงแค่รอเวลาอีกสักนิด เรื่องที่จะบรรลุเป็นราชายุทธ์นั้นมันเป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว

“นอกจากนี้ ครั้งนี้สำนักเหลยหวู่กับตระกูลกงซุนร่วมมือกันต่อต้านหอหย่งชาง ยังมีตระกูลเหยียนแห่งเมืองกู่เจี้ยนคอยเป็นเงาชักใยอยู่เบื้องหลัง ตระกูลเหยียนเป็นหนึ่งในสิบตระกูลใหญ่ มีผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิยุทธ์นั่งบัลลังก์อยู่”

“ตระกูลเหยียน?” หลัวซิวขมวดคิ้วเล็กน้อย ความเยือกเย็นแวบหนึ่งปรากฏขึ้นในแววตา

การหลอมอาวุธอย่างกระบี่อาถรรพ์ฟันเสือ ต่างก็อาศัยหลินเจียเอ๋อร์ช่วยตามหาอาจารย์จุนหลู่ แม้จะไร้ซึ่งน้ำใจนี้ก็ตาม ความแค้นระหว่างหลัวซิวกับสำนักเหลยหวู่และตระกูลกงซุนนั้น ก็ทำให้เขายินดีเป็นอย่างมากที่จะช่วยทำให้แผนการของทั้งสองพังลง

“ข้าไปร่วมสนุกเสียหน่อย…” หลัวซิวพูดอย่างร่าเริง

ได้ยินเช่นนั้น หัวหน้าแก๊งเสิ่นหยวนหนานชะงักไปชั่วครู่ “ข้าลำบากลำบนพูดกับเจ้าไปตั้งมากมาย ใจคอเจ้าจะทำหูทวนลมอย่างนั้นรึ?”

แม้ว่าจะพูดอย่างนั้น แต่เสิ่นหยวนหนานกลับรู้ดีว่า เจ้าหลัวซิวคนนี้บ้าคลั่งขนาดไหน ในตอนนั้นเพื่อที่จะหาโอกาสที่จะบุกเข้าไปในแดนมรณะ จึงขอให้เขาลงมือ แต่เขาก็เกือบจะฆ่าเด็กคนนี้เสียแล้ว

คนบ้าที่ไม่กลัวความตาย เสิ่นหยวนหนานคิดไม่ออกจริง ๆ ว่าเหลยเว่ยหลงทำไมถึงต้องล้ำเส้นคนแบบนี้ด้วย

หอหย่งชางคือหนึ่งในสามอำนาจใหญ่แห่งเขตการปกครองโตว้ไห่ ตั้งอยู่ในสถานที่ที่เจริญรุ่งเรืองในเขตการปกครองโตว้ไห่

ในวันนี้ ถนนที่ครั้งหนึ่งเคยรุ่งเรืองแห่งนี้ กลับเงียบสงัด และไม่มีใครอยู่บนถนนเลย

ประตูใหญ่ของหอหย่งชางถูกพังทลายลง ทั้งสองฝ่าย เผชิญหน้ากันอยู่ที่ลานฝึกยุทธ์อันกว้างขวาง

ศูนย์กลางของลานฝึกยุทธ์ มีเวทีประลองยุทธ์ตั้งอยู่ ร่างสองกำลังต่อสู้อยู่บนนั้น พลังแห่งสวรรค์และโลกผันผวนอย่างรุนแรง ทั้งสองคนที่ต่อสู้กันอยู่นั้น คือราชายุทธ์ผู้แข็งแกร่งที่มีหนทางที่จะควบคุมสวรรค์และโลก

ร่างหนึ่งมีแสงสีน้ำเงินไปทั่วร่าง ระหว่างที่สะบัดมือพลังจิตแท้ธาตุน้ำพลุ่งพล่านและทรงพลัง การโจมตีต่อเนื่องและหอกยาวในมือของเขาเคลื่อนไหวราวกับมังกร

คน ๆ นี้คือเจ้าสำนักแห่งหอหย่งชาง หลินโยว่เทียนมีผลการฝึกตนของราชายุทธ์แดนฝึกจิตขั้นสาม

อย่างไรก็ตาม ศัตรูของหลินโยว่เทียน ดูเหมือนจะแข็งแกร่งกว่าอยู่บ้าง ล้อมรอบด้วยสายฟ้าราวกับเทพเจ้าแห่งสงคราม ระหว่างการเหวี่ยงดาบกว้าง เสียงฟ้าร้องดังก้อง และการโจมตีนั้นรุนแรงและดุร้าย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ