มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 2975

ในเวลาเดียวกัน หลัวซิวเห็นสตรีชุดเขียวอ่อนนั่งถัดจากลู่เมิ่งเหยา สตรีคนนี้สวมชุดเขียวอ่อนพร้อมผ้าคลุมหน้า

เมื่อหลัวซิวเห็นคนๆนี้เป็นครั้งแรก เขารู้สึกราวกับว่าเขาเห็นห้วงดาราจักรวาล มองไม่ออกว่าแข็งแกร่งเพียงใด!

หลัวซิวสามารถสรุปได้ว่าสตรีสวมชุดเขียวอ่อนคนนี้น่าจะเป็นผู้แข็งแกร่งที่ออกมาจากหอดาบ

จากการสืบทอดในอดีตของหอมกุฎดาบ เป็นไปไม่ได้ที่ลู่เมิ่งเหยาจะฝึกฝนได้เร็วขนาดนี้ ดังนั้นผลการฝึกตนของลู่เมิ่งเหยาสามารถเพิ่มขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว ต้องมีบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับสตรีชุดเขียวอ่อนคนนี้

ในตอนแรก หลัวซิวถูกสตรีคนนี้บดขยี้เพียงแค่แผ่ตัวสำนึกไป ดังนั้น หลัวซิวจึงเพียงแค่มองจากมุมหางตาของเขาแล้วละสายตาจากมา

เขาแสร้งทำเป็นเมินเฉยและเดินไปนั่งลงที่ว่างข้างๆ จอมมกุฎลิ่งฮู๋ สนทนาอย่างเป็นกันเอง

หลังจากนั้นไม่นาน ชายวัยกลางคนในชุดขาวก็ปรากฏตัวขึ้นที่ใจกลางห้องโถง มองไปรอบๆ และกำหมัดเคารพทุกคนที่อยู่ตรงนั้น

“ก่อนอื่น ข้าขอต้อนรับทุกท่านเข้าร่วมงานประมูลสินค้านี้ ข้าคือ...”

ชายวัยกลางคนในชุดขาวเพิ่งพูด และก่อนที่เขาจะพูดจบประโยค เสียงฮึ่มเย็นชาก็ดังขึ้น และขัดจังหวะเขาที่กำลังจะพูดทันที

ทันใดนั้น ทุกคนมองไปยังทิศทางของเสียง แล้วเห็นสตรีชุดเขียวอ่อนคลุมหน้านั่งอยู่ในห้องโถง

ผู้ที่สามารถนั่งที่นี่ได้ไม่ใช่แดนผู้สูงส่งก็คือประมุขเต๋า ดังนั้นแม้ว่าชายวัยกลางคนในชุดขาวจะขมวดคิ้ว แต่เขาก็ยังกำหมักอย่างสุภาพ “ผู้เพื่อนยุทธ์ผู้นี้มีเรื่องอะไรรึ? งานประมูลสินค้าครั้งนี้ของเผ่าฟ้าเราจะเริ่มแล้ว”

เห็นได้ชัดว่าคำพูดของชายวัยกลางคนในชุดขาวมีความหมายในเชิงคุกคามเล็กน้อย ซึ่งหมายความว่างานประมูลสินค้าครั้งนี้ของเผ่าฟ้า หากเจ้ามีมีความเกรงกลัว เจ้าก็อย่าทำอะไรทั้งนั้น

เผ่าฟ้ามีมกุฎเต๋าเทียนชูเฝ้าอยู่ ความแข็งแกร่งของเขาไม่ต้องสงสัย แม้จะเป็นผู้แข็งแกร่งระดับประมุขเต๋าก็ไม่สามารถรุกรานเผ่าฟ้าได้หากไม่จำเป็น

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้กับทุกคนที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้คือสตรีชุดเขียวอ่อนฮึ่มเสียงเย็นชาอีกครั้ง “เจ้าเป็นแค่แดนผู้สูงส่งช่วงกลางเล็กๆคนหนึ่งก็มีคุณสมบัติที่จะเรียกข้าว่าผู้เพื่อนยุทธ์รึ? แล้วเผ่าฟ้าอะไรนั่น ข้ายังไม่ได้วางไว้สายตา”

หากเมื่อครู่นี้สตรีชุดเขียวอ่อนส่งเสียงเย็นและขัดจังหวะคำพูดของอีกฝ่าย มันเป็นพฤติกรรมที่ไม่วางหน้าอีกฝ่ายมาก งั้นคำพูดที่นางพูดออกมาในตอนนี้คือการตบหน้าโดยตรง ไม่ใช่แค่ใบหน้าของชายวัยกลางคนในชุดขาวเท่านั้น แต่เป็นใบหน้าของเผ่าฟ้าด้วย ตบเสียงดังเพี้ยะ!

ด้วยสถานะของเผ่าฟ้าในแผ่นดินดารา จะทนคนพูดแบบนี้ได้อย่างไร?

“ช่างกล้าพูดนัก ข้าว่าเจ้ามาที่นี่เพื่อสร้างปัญหาต่างหาก”

ในห้องโถง ผู้แข็งแกร่งแดนผู้สูงส่งสองคนของเผ่าฟ้ายืนขึ้นทันที และเห็นว่าชายสองคนนี้โจมตีในเวลาเดียวกัน กระบวนท่าดุร้าย โดยไม่มีเจตนาจะออมมือเลยแม้แต่น้อย

เมื่อหลัวซิวเห็นฉากนี้ เขารู้ว่าผู้แข็งแกร่งแดนผู้สูงส่งทั้งสองคนของเผ่าฟ้าจะโชคร้าย ผลการฝึกตนของสตรีชุดเขียวอ่อนคนนี้นั้นน่าจะสูงกว่าประมุขเต๋าและเห็นทัศนคติที่หยิ่งยโสและจองหองของสตรีคนนี้ นางจะไม่ยอมออมมือง่ายๆอย่างแน่นอน

“บูม!”

แสงดาบปรากฏขึ้น รวมถึงหลัวซิว ไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าสตรีชุดเขียวอ่อนโจมตีอย่างไร ทุกคนเห็นเพียงแสงดาบที่สว่างจ้า จากนั้นผู้แข็งแกร่งสองคนของเผ่าฟ้าก็หายไปในแสงดาบ และหายไปอย่างไร้ร่องรอย

“ผู้แข็งแกร่งประมุขเต๋า!”

ในขณะนี้ สีหน้าของทุกคนในห้องโถงเปลี่ยนไป สามารถฆ่าผู้แข็งแกร่งทั้งสองคนได้โดยไม่หลงเหลือเถ้าถ่านเพียงแค่โบกมือ นี่อาจเป็นผู้แข็งแกร่งระดับประมุขเต๋าเท่านั้น

ในชั่วพริบตาทั้งห้องโถงเกิดความเงียบงัน ไม่มีใครคิดว่าเรื่องเช่นนี้จะเกิดขึ้นก่อนที่งานประมูลสินค้ายังไม่เริ่มขึ้น

ในบรรดาผู้คนที่มีอยู่ คนเดียวที่ค่อนข้างสงบน่าจะเป็นลู่เมิ่งเหยา นางเหลือบมองสีหน้าของผู้แข็งแกร่งวิถียุทธ์ที่อยู่ที่นี่อย่างราบเรียบ และทันใดนั้นก็ส่ายหัว หากคนเหล่านี้ทำให้คนข้างๆนางผู้นี้ไม่พอใจ งานประมูลสินค้านี้จะกลายเป็นงานนองเลือดแล้ว

ทันใดนั้น สีหน้าของลู่เมิ่งเหยาชะงักเล็กน้อย เพราะนางเห็นชายหนุ่มในชุดดำคนนหนึ่งที่นั่งอยู่ในห้องโถง แม้ว่าหน้าตาของเขา นางจะไม่เคยพบมาก่อน แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด นางมักจะรู้สึกว่ามีบางอย่างเกี่ยวกับชายคนนี้ที่ทำให้นางรู้สึกคุ้นเคย

สิ่งที่ทำให้หัวใจของลู่เมิ่งเหยาสั่นไหวมากยิ่งขึ้นก็คือเมื่อนางเห็นอีกฝ่ายหนึ่ง ดวงตาของอีกฝ่ายสบกับนาง สายตาของอีกฝ่ายทำให้หัวใจของนางสั่นไหว

“หลัวซิว ใช่เจ้าหรือไม่?”

ลู่เมิ่งเหยาอ้าปาก และนางเกือบจะโพล่งประโยคนี้ออกมา เพราะสายตาของเขาในตอนนี้คล้ายกันมาก นางคิดผิดว่าหลัวซิวปรากฏตัวต่อหน้าต่อตานาง

แต่สุดท้ายแล้วนางก็ไม่ได้ตะโกนออกมาและไม่ได้ไปถาม นางคิดว่านางน่าจะคิดมากไป หลัวซิวจะมาปรากฏตัวที่นี่ได้อย่างไร?

จากดวงตาที่มีน้ำตาคลอของลู่เมิ่งเหยา หลัวซิวรู้ว่านางน่าจะจำเขาได้ แต่ก็ไม่แน่ใจนัก

จากสิ่งนี้ หลัวซิวสามารถเดาได้ว่าลู่เมิ่งเหยาน่าจะฟื้นความทรงจำและความรู้สึกของนางได้อย่างสมบูรณ์ ย้อนกลับไป ณ ตอนนั้น เขาค้นพบว่าความรู้สึกบางอย่างของนางถูกผนึกอยู่ในตัวหยั่งรู้ความทรงจำของนาง

เหตุผลที่เขาเลือกที่จะฝึกฝนถึงแดนผู้สูงส่งแล้วมาโลกสวรรค์ เพราะเขารู้สึกว่ามีเพียงเขาไปถึงแดนผู้สูงสุงเท่านั้น เขาถึงจะมั่นใจได้ว่าจะทำลายผนึกนี้ได้

ตอนนี้ดูแล้ว น่าจะเป็นหญิงชุดเขียวอ่อนคนนั้นที่ช่วยทำลายผนึกของนาง

เดิมทีเขายังสงสัยมาใครที่ผนึกใส่นาง ตอนนี้คิดดีๆแล้ว ในใจของหลัวซิวก็เย็นเฉียบเล็กน้อย หากไม่มีเรื่องใดๆ น่าจะเป็นที่จอมดาบหวูฉ่างของหอมกุฎดาบเป็นคนผนึกใส่นาง

วิถีดาบของหอมกุฎดาบเดินไปทางผิด วิถีดาบที่พวกเขาฝึกฝนทำให้คนเหมือนอาวุธที่เย็นชาไร้ความรู้สึก ทอดทิ้งอารมณ์มากมายจากการเป็นมนุษย์ไป

แบบนี้ถึงแม้ว่าจะแข็งแกร่งมากขึ้น แต่หากคนๆหนึ่งไม่มีอารมณ์ งั้นก็ยังจะเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบรึ?

ชาติก่อนของหลิวซิว ไท่ซ่างฉิงได้ตัดอารมณ์ความต้องการทิ้งไป ในใจมีแต่วิถียุทธ์ ดูเหมือนจะไล่ตามวิถียุทธ์อย่างสุดขีด แต่จริงๆแล้วเดินไปในเส้นทางที่ผิด

หากทุกสิ่งในโลกสามารถอนุมานและคงที่ได้ อารมณ์ก็เป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ที่สุด!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ