มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 298

แน่นอนว่ากงซุนเชียนจีไม่เชื่อว่าหลัวซิวจะมีระดับค่ายกลที่สูงขนาดนี้ ที่สงสัยก็เพราะว่า หลัวซิวสามารถสร้างค่ายกลธงได้รวดเร็วเช่นนี้ ยังไงก็ต้องมีธงค่ายพิเศษอย่างใดอยู่ในมือแน่นอน

ในตอนนี้ เขามีความต้องการที่จะลงมือทำ ถ้าเขาสามารถเอาสมบัติชิ้นนี้มาได้ ความแข็งแกร่งจะสูงขึ้นอีกระดับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่แน่อาจจะสามารถเข้าใจความลึกลับอันลึกซึ้งของค่ายกลได้ และยกระดับทักษะค่ายกลของตน หรือแม้แต่ระดับขั้น!

“ห้วงยุทธ์อัสนี เหยียบมังกรทะลุฟ้า!”

ที่กลางอากาศ เหลยเว่ยหลงกู้ร้องด้วยความโกรธา อำนาจรอบร่างของเขาพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และรัศมีของสายฟ้าหลอมรวมกันกลายเป็นรูปมังกร คำรามและพุ่งตรงไปที่หลัวซิว

ในเวลาเดียวกัน พลังแห่งตัวสำนึกของเขาหลอมรวมกับพลังของห้วงยุทธ์ กลายเป็นสายฟ้า โจมตีไปที่ตัวหยั่งรู้ของหลัวซิว

นี่ไม่ใช่วิชาลับโจมตีวิญญาณอะไร แต่ตัวสำนึกที่หลอมรวมเป็นห้วงยุทธ์ของราชายุทธ์ผู้แข็งแกร่ง สามารถโจมตีให้ได้ผลลัพธ์เท่าเทียมกับวิชาโจมตีวิญญาณ

“ประลองครั้งสุดท้ายสินะ?”

นำเสียงเยือกเย็นของหลัวซิวลอยออกมาจากเปลวเพลิงมรณะ ทันใดนั้น เปลวเพลิงรอบตัวเขาก็เริ่มลุกลาม แปรเปลี่ยนเป็นวิชาพลังมังกรแท้ และกลายเป็นมังกรไฟสีดำ

ส่วนตัวสำนึกห้วงยุทธ์ที่หลอมรวมกันเป็นสายฟ้า ยังไม่ทันทีจะได้เข้าใกล้ตัวหลัวซิว ดาบสังหารห้วงยุทธ์และตัวสำนึกของห้วงยุทธ์แห่งความตาย ก็ถูกโจมตีจนปราชัยไปในทันที

ระดับตัวสำนึกของเหลยเว่ยหลง ถึงแม้จะสูงกว่าหลัวซิวถึงสองแดน แต่ที่เขาครอบครองอยู่คือห้วงยุทธ์สอง อีกทั้งยังเชี่ยวชาญวิชาโจมตีวิญญาณ,ในขณะที่ใช้ตัวสำนึก ยังห่างชั้นกว่าเหลยเว่ยหลงอย่างมาก

ปัง!

มังกรอัสนีกับมังกรเพลิงดำชนเข้าด้วยกัน ภูตอัคคีกลืนกินสีน้ำตาลแดงค่อย ๆ ปรากฏตัวขึ้น ในพริบตา ไม่ว่าจะผ่านไปที่ใด พื้นที่นั้นก็เต็มไปด้วยร่องรอยการเผาไหม้

เกิดการระเบิดรุนแรงในอากาศ ทุกคนด้านล่างเห็นร่างหนึ่งพุ่งออกมา และเลือดก็พุ่งออกจากปากของเขา

เมื่อมองเข้าไปใกล้ ๆ ทุกคนก็ตระหนักได้ว่า ร่างนี้กระอักเลือดตีลังกากลับหัวกลับหาง นั่นก็คือหลัวซิว

ฝั่งคนจากสำนักเหลยหวู่ เผยสีหน้าและรอยยิ้มแห่งความสุขออกมา

แต่คนทางหอหย่งชาง ก็จิตใจขุ่นมัวขึ้นมาทันที

“เขายังเด็กเกินไป ต่อให้ฝึกตนได้รวดเร็วสักเพียงใด พรสวรรค์จะมากมายสักเพียงใด แต่อายุเท่านี้ ขะสามารถเอาชนะราชายุทธ์คนหนึ่งที่ฝึกตนมาแล้วนับร้อยปีได้อย่างไร?”

ทั้งสองกองทัพที่เผชิญหน้ากันอยู่นั้น สีหน้าและอารมณ์ของทุกคนซับซ้อนมาก แม้จะพ่ายแพ้ ในสายตาของทุกๆ คน หลัวซิวคนนี้ก็พ่ายแพ้อย่างสมศักดิ์ศรีเช่นกัน เพราะอายุเพียงสิบเจ็ดปี มีผลการฝึกตนของแดนฝึกจิตขั้นแปด ท้าชนกับผู้แข็งแกร่งแห่งแดนราชายุทธ์ขั้นสี่!

อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ ร่างหนึ่งตกลงมาจากฟากฟ้า ทำให้สายตาที่แสดงความตกตะลึงทุกคู่นั้นกลับมารวมกันเป็นตาเดียว

เจ้าของร้างที่ว่านั้น ที่แท้ก็คือเจ้าสำนักเหลยหวู่ ‘เหลยเว่ยหลง’!

ปั้ง!

ร่างของเหลยเว่ยหลงหล่นลงบนเวทีประลองยุทธ์ที่รกร้างนั้นอย่างแรง ฝุ่นกระจายขึ้นกลางอากาศ ดวงตาของเขาเบิกกว้าง ร่างกายไร้ซึ่งคลื่นชีวิตและลมหายใจ

“ตายหรือ?”

ฉากตรงหน้านั้น ราวกับสายฟ้าในวันแดดจัดฟาดลงตรงกลางใจของชาวสำนักเหลยหวู่นักยุทธ์ทุกคน

“เจ้าสำนัก!”

ผู้อาวุโสคนหนึ่งแห่งสำนักเหลยหวู่รีบกระโจนเข้ามา เขายืนอยู่ข้างตัวเหลยเว่ยหลง สายตาจับจ้องไปที่จุดตันเถียน มีร่องรอยของการเผาไหม้ จุดตันเถียนวิชาชี่ไห่ ถูกเจาะและเผาไหม้กลายเป็นความว่างเปล่า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ