มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 3018

เคล็ดเซียนแปรเก้าบรรลุถึงแปรที่แปด ร่างเนื้อจึงสามารถเทียบทัดภัณฑ์เต๋า มากสุดสามารถบรรลุถึงระดับของภัณฑ์เต๋าชั้นสูง หากสามารถบรรลุถึงระดับที่สูงที่สุดของแปรที่เก้า เช่นนั้นร่างเนื้อก็จะเทียบเท่าภัณฑ์เต๋าชั้นยอด

สามารถพูดได้เลยว่าวรยุทธ์กลั่นร่างวิชานี้ เป็นวรยุทธ์ที่มกุฎเต๋าหวูจี๋ทุ่มเทแรงกายและแรงใจมายาวนานอย่างไม่รู้จบ จนกลายเป็นวรยุทธ์กลั่นร่างอันดับหนึ่งในจักรวาล

แม้แต่วรยุทธ์กลั่นร่างระดับเซียนบางวิชาก็เทียบเคียงกับเคล็ดเซียนแปรเก้าไม่ได้ด้วยซ้ำ ข้อบกพร่องเพียงหนึ่งเดียวของเคล็ดเซียนแปรเก้าก็คือ ขาดแคลนวิถีที่จะนำไปสู่การบรรลุเป็นร่างศักดิ์สิทธิ์

แต่ถ้าเกิดมกุฎเต๋าหวูจี๋สามารถฝึกจนบรรลุเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ก้าวเข้าสู่แดนเซียน เช่นนั้นวรยุทธ์วิชานี้ก็จะสามารถบรรลุถึงระดับของวรยุทธ์ระดับเซียน อีกทั้งเป็นวรยุทธ์กลั่นร่างระดับเซียนขั้นสุดยอด

วิถีไร้ลักษณ์รองรับทุกสรรพสิ่ง หลัวซิวไม่ได้ฝึกเคล็ดเซียนแปรเก้าตามขั้นตอนการดั้งเดิมตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่เป็นการนำแก่นสารของเคล็ดเซียนแปรเก้าหลอมรวมเข้ากับวิถีไร้ลักษณ์ของตนเอง

ถึงแม้หลัวซิวเพิ่งจะบรรลุถึงแดนแปรที่แปดก็ตาม แต่เขาสามารถสัมผัสได้อยู่ว่าวรยุทธ์วิชานี้ ยังมีศักยภาพที่สามารถขุดคุ้ยได้อีกเยอะมาก แปรที่เก้าไม่มีทางใช่จุดสิ้นสุดแน่นอน อนาคตเขาสามารถริเริ่มจากพื้นฐานของมกุฎเต๋าหวูจี๋ต่อ ปรับปรุงแก้ไขให้กำเนิดแปรที่สิบ ตลอดจนแปรที่ 11!

แม้นแดนกลั่นร่างจะบรรลุถึงแปรที่แปด แต่ทว่าจากการที่หลัวซิวจมดิ่งลงไปอย่างต่อเนื่อง กระทั่งเท้าทั้งสองข้างย่ำอยู่บนพื้นที่อยู่ต่ำที่สุดของลาวา แม้นร่างเนื้อจะเทียบทัดภัณฑ์เซียนชั้นล่าง ก็ยังคงสามารถสัมผัสได้ถึงความร้อนผ่าวอยู่ดี อีกทั้งเขาจำเป็นต้องโคจรพลังเซียนตลอดเวลา เพื่อประคองอาณาจักรไร้ลักษณ์ ทลายออร่าที่ร้อนแผดเผา มิเช่นนั้นทันทีร่างเนื้อเปิดเผยอยู่ภายใต้ลาวานี้ เขาต้องถูกแผดเผ่าจนกลายเป็นเถ้าธุลีอย่างแน่นอน

หลังจากมาถึงส่วนที่ลึกที่สุดของลาวา หลัวซิวก็สัมผัสออร่าของเซียนอัคคีได้แล้ว เมื่อเขาเดินตามพลังออร่าดังกล่าวไป อาณาจักรไร้ลักษณ์ก็ใกล้จะต้านทานการกัดกร่อนของออร่าระอุไม่ได้แล้ว

เวิ่ง!

มีแสงเซียนดวงหนึ่งปรากฏ ขวดเซียนอัคคีหลอมจิตลอยอยู่เหนือศีรษะหลัวซิว มีระลอกคลื่นลูกหนึ่งปรากฏบนปากขวด ออร่าระอุที่แผ่มาจากทั่วทุกสารทิศจึงถูกขวดเซียนอัคคีหลอมจิตดูดกลืนอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลัวซิวรู้สึกว่าแรงกดดันลดฮวบลงไปไม่น้อยเลย

ทว่าอย่างไรเสียขวดเซียนอัคคีหลอมจิตก็เป็นภัณฑ์เซียน จากผลการฝึกตนของหลัวซิว ยังไม่สามารถประคองใช้งานมันได้นาน ๆ ดังนั้นเขาจึงรีบก้าวเท้าเดินอย่างรวดเร็ว หลังจากผ่านไปประมาณ 15 นาที เขาก็มองเห็นเซียนอัคคีดวงนั้น

แม้นหลัวซิวจะมองเห็นเซียนอัคคีดวงนั้น ทว่าเขากลับไม่ได้เพ่งเล็งความสนใจทั้งหมดไปที่เซียนอัคคี แต่ถูกเงาดำร่างหนึ่งที่อยู่ข้างเซียนอัคคีดึงดูดไป

คนดังกล่าวคือสตรีที่กำลังนั่งอยู่ในท่าขัดสมาธิคนหนึ่ง เสื้อผ้าที่อยู่บนตัวคือชุดกระโปรงยาวสีม่วง นางกำลังหลับตา หน้าตาไม่ได้สระสวยมากเท่าไหร่นัก แต่กลับมีใบหน้าอันอ่อนช้อยที่น่ามองมาก

และสิ่งที่หลัวซิวใส่ใจมากกว่าคือ มือทั้งสองข้างของสตรีคนดังกล่าวกำลังวางอยู่บนเซียนอัคคี ซึ่งเซียนอัคคีกำลังไหลเข้าไปในฝ่ามือทั้งสองข้างของนาง แล้วเข้าไปในร่างกายนางทีละน้อย

“ไม่นึกเลยว่าจะถูกผู้อื่นคว้าไปก่อนอย่างนั้นหรือ?”

สีหน้าของหลัวซิวดูย่ำแย่เล็กน้อย ผู้ที่กล้าดูดซับพลังแห่งเซียนอัคคีเข้าไปกลั่นแปรในร่างกายนั้น ต้องไม่ใช่ผู้แข็งแกร่งทั่วไปแน่นอน อย่างน้อยหลัวซิวที่มีร่างเนื้อเทียบทัดภัณฑ์เซียนชั้นล่างก็ไม่กล้าทำเช่นนั้นแน่นอน

เพราะอย่าว่าแต่ภัณฑ์เซียนชั้นล่างเลย ต่อให้เป็นร่างเนื้อที่เทียบเท่าภัณฑ์เซียนชั้นยอด ก็จำเป็นต้องใช้สมบัติพิเศษบางอย่างมาช่วยเหลือเช่นกัน ถึงจะกล้าดูดซับกลั่นแปรพลังของเซียนอัคคีโดยตรง

และในเวลานี้เอง สตรีที่อยู่ในกระโปรงม่วงก็ลืมตาขึ้นมากะทันหัน ขนตาของนางยาวมาก โฉมหน้าที่ไม่ถือว่างามเมืองล่ม ควบคู่กับดวงตาที่งดงามคู่หนึ่ง ทำให้นางมีมนต์เสน่ห์ที่หาที่เปรียบไม่ได้ทันที

ยิ่งกว่านั้นคือจากความหนักแน่นของปณิธานตัวธรรมของหลัวซิว เมื่อเขาเห็นสตรีกระโปรงม่วงนั่นลืมตาขึ้นมา ก็อดใจไม่ไหวอยากสบตากับนางนาน ๆ เช่นกัน

นี่จึงทำให้จิตใจหลัวซิวรู้สึกหวาดหวั่น เขายิ่งรู้สึกว่าสตรีนางนี้ไม่ธรรมดา มีความตึงเครียดเสี้ยวหนึ่งทะลุออกมาจากแววตา

“ในเมื่อเจ้ามาถึงที่นี่ คาดว่าก็น่าจะมาเพราะเซียนอัคคีดวงนี้สินะ?”สตรีกระโปรงม่วงมองหลัวซิวตั้งแต่หัวจรดเท้ารอบหนึ่ง เม้มปากครั้งหนึ่งแล้วเอ่ยปากพูด

หลัวซิวไม่ได้ตอบกลับคำถามนี้แต่อย่างใด เพราะเห็นได้ชัดเจนเลยว่าสตรีนางนี้ถามโดยที่ทราบคำตอบอยู่แล้ว ถ้าเกิดไม่ใช่มาเพราะเซียนอัคคี ผู้ใดจักว่างมากจนต้องแจ้นมาก้นบึ้งของลาวาแห่งนี้หรือ?

เมื่อเห็นว่าฝ่ายตรงข้ามนิ่งเงียบไม่ปฏิเสธ ความรู้สึกบนใบหน้าสตรีกระโปรงม่วงไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด ก่อนจะพูดต่อว่า: “จากกำลังแรงของข้าเพียงคนเดียว ก็ยากที่จะกลั่นแปรเซียนอัคคีดวงนี้เช่นกัน เจ้าและข้าร่วมมือกันกลั่นแปรคนละครึ่งเป็นอย่างไร?”

สมบัติอย่างเซียนอัคคีเป็นสิ่งที่หาพบได้ยากมาก หลัวซิวรู้ตัวเองดีอยู่ว่าถ้าเกิดเปลี่ยนเป็นตัวเขาละก็ ภายใต้สถานการณ์ที่มาถึงที่นี่ก่อน เขาไม่มีทางแบ่งปันผลประโยชน์กับคนที่ไม่รู้จักคนหนึ่งแน่นอน แต่สตรีกระโปรงม่วงคนนี้กลับเสนอเงื่อนไขเช่นนี้ จึงทำให้เขาอดครุ่นคิดไม่ได้

“หากข้าดูไม่ผิดละก็ จากผลการฝึกตนของผู้เพื่อนยุทธ์ยังไม่สามารถกลั่นแปรเซียนอัคคีดวงนี้ได้โดยสิ้นเชิง แต่เจ้าเริ่มกลั่นแปรมันแล้ว จะไม่สามารถหยุดการกลั่นแปรเช่นกัน หากเจ้าฝืนหยุดกลั่นแปร เจ้าต้องถูกเซียนอัคคีแว้งกัดแน่นอน หากเจ้าฝืนกลั่นแปรต่อไป เช่นนั้นร่างกายของเจ้าก็จะถูกแผดเผาเป็นเถ้าธุลีเพราะต้านทานพลังแห่งเซียนอัคคีที่มากล้นไม่ไหว”ในระหว่างที่พูดอยู่นั้น หลัวซิวก็เพ่งมองใบหน้าของสตรีกระโปรงม่วงพลางพูด

แต่เขากลับมองความลนลานจากใบหน้าสตรีคนดังกล่าวไม่ได้เลยแม้แต่น้อย สีหน้าอารมณ์ของนางยังคงดูเรียบนิ่งอยู่เช่นเคย มองหน้าหลัวซิวนิ่ง ๆ “ในเมื่อเจ้าค้นพบแล้ว เช่นนั้นต้องทำอย่างไรเจ้าถึงจะยอมช่วยข้า?”

“อย่างนั้นก็ต้องรอดูแล้วล่ะว่าเจ้าจะมอบค่าตอบแทนอะไรให้ข้า”หลัวซิวตอบกลับ

“ไข่มุกเต๋าชั้นสูงสิบล้านเม็ดเป็นอย่างไร?”สตรีกระโปรงม่วงตอบกลับ

เมื่อหลัวซิวได้ยินคำตอบนี้ เขาก็เกือบคิดว่าตัวเองหูฝาดไปแล้ว ไข่มุกเต๋าชั้นสูงกลายเป็นสินค้าราคาต่ำอย่างผักกาดขาวตั้งแต่เมื่อไหร่?

ต้องท้าวความก่อนว่าภายในแหวนเก็บของลึกลับที่เขาเก็บได้เมื่อปีนั้น ภายในมีค่ายกลหนึ่งที่ฝึกเซ่นไข่มุกเต๋า ทำให้เขาได้รับไข่มุกเต๋ามาเป็นร้อยล้านปี ทว่าไข่มุกเต๋าชั้นสูงที่อยู่ภายในก็มีแค่แสนกว่าเม็ดเท่านั้น

เมื่อเห็นหลัวซิวไม่พูดอะไร สตรีกระโปรงม่วงจึงขมวดคิ้วลง “ข้าจะเพิ่มไข่มุกเต๋าชั้นยอดให้เจ้าอีกไม่หนึ่งหมื่นเม็ด”

คราวนี้ทำให้หลัวซิวหมดคำจะพูดเล็กน้อยแล้วจริง ๆ ทรัพย์สินของสตรีนางนี้มีเยอะเกินไปแล้ว เขากล้าพูดเลยว่าในบรรดามกุฎเต๋าทั้งหลายในจักรวาลสามโลกา ไม่มีคนใดสามารถควักไข่มุกเต๋าชั้นยอดหนึ่งหมื่นเม็ดและไข่มุกเต๋าชั้นสูงสิบล้านเม็ดออกมาได้ในครั้งเดียวแน่นอน

ต่อให้เป็นไข่มุกเต๋าชั้นล่างและไข่มุกเต๋าชั้นกลาง ก็เป็นสิ่งที่ตามหายากมาก ๆ อย่างไรเสียสถานที่ที่สามารถกำเนิดไข่มุกเต๋าก็มีน้อยเกินไป และดาราจักรวาลก็กว้างใหญ่ขนาดนี้อีก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ