ทว่าเวลานี้ไม่มีใครก้าวออกมากล่าวอะไรหรือว่าลงมือทำอะไรทั้งนั้น หลายปีมานี้ตระกูลเผยพยายามเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในการจัดลำดับสิบตระกูลใหญ่ และแอบดำเนินการเรื่องลับต่างๆ มากมาย ทำให้กลุ่มอำนาจในหลายๆ ฝ่ายไม่พอใจอย่างมาก
สวีจิงเหนียนเองก็ไม่ได้ปล่อยพลังของตัวเองออกมา ในฐานะที่เป็นผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิยุทธ์ หากใช้พลังของตัวเองในการต่อสู้กับราชายุทธ์แบบตัวต่อตัว นั่นกลับจะเท่ากับว่าเป็นการลดระดับของตัวเองลง
“เผยหยวนชิว ถ้าหากอยากให้ลูกสาวของแกยังมีชีวิตอยู่ต่อ แกก็ต้องพิจารณาข้อเสนอของฉัน ปล่อยผู้หญิงที่แกจับตัวไปออกมาเดี๋ยวนี้”
หลัวซิวถอนใจ เขาเริ่มออกแรงบีบคอของเผยหลัวเหลียนมากขึ้น ทำให้ใบหน้าของเธอซีดขาวขึ้นทันที
“ฉันไม่มีอารมณ์จะพูดไร้สาระกับแกนะ ผู้หญิงที่ฉันบอกให้แกปล่อยตัวออกมาคือใคร ตัวแกเองรู้อยู่แก่ใจ”
หลัวซิวกล่าวออกมาเช่นนี้มีหรือที่เผยหยวนชิวจะฟังไม่เข้าใจ ตั้งแต่เริ่มแรกที่อีกฝ่ายมาตามหาคน เขาก็แอบสงสัยมาตั้งแต่ต้นแล้ว เพราะในช่วงเวลานี้มีเพียงคนเดียวที่ตระกูลเผยจับตัวเอาไว้ นั่นคือจักรพรรดิยุทธ์เทียนเฟิ่ง เหยียนเยว่เอ๋อร์นั่นเอง
“ทหารตระกูลเผย ไปจับตัวสองคนนั้นมา!” สีหน้าของเผยหยวนชิวหมองคล้ำเย็นชา เขายกมือขึ้นแล้วตวาดออกคำสั่ง
“ท่านเจ้าตระกูล คุณหนูอยู่ในมือของพวกมันนะ” ผู้อาวุโสราชายุทธ์คนหนึ่งกล่าวแทรกขึ้นพลางขมวดคิ้ว
“ข้ารู้ดีว่าตัวเองกำลังทำอะไร ลงมือ!” เผยหยวนชิวตวาดเสียงแข็ง
หากเทียบกับความปรารถนาที่จะได้บรรลุแดนจักรพรรดิยุทธ์แล้ว สำหรับเผยหยวนชิว ลูกสาวคนเดียวไม่ถือว่าสำคัญอะไร เพราะขอแค่สามารถบรรลุแดนจักรพรรดิยุทธ์ได้ อายุขัยของเขาจะเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า เขาจะมีอายุเพิ่มไปอีกเป็นพันปี ถึงตอนนั้นเขาจะมีลูกสาวอีกกี่คนก็ยังได้
เมื่อได้ยินคำสั่งของเผยหยวนชิวแล้ว ผู้แข็งแกร่งตระกูลเผยทั้งหมดที่อยู่บริเวณนั้นก็ส่งเสียงรับ ผู้แข็งแกร่งราชายุทธ์ขั้น 4 ขึ้นไปทั้ง 4 คนรวมตัวผนึกพลังฟ้าดินเข้าด้วยกัน อีกทั้งยังเรียกตัวนักยุทธ์ออกมาจากแหวนเก็บของ ตอนนี้ทุกอย่างต่างมุ่งหน้าไปยังหลัวซิวกับสวีจิงเหนียน
เมื่อผู้แข็งแกร่งราชายุทธ์ทั้ง 4 คนร่วมมือกันโจมตี ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งราชายุทธ์ขั้น 5 และขั้น 6 ก็ยังต้องถอยหนี
ทว่าทั้งหมดนี้สำหรับจักรพรรดิยุทธ์อย่างสวีจิงเหนียนแล้ว ถือเป็นการดูถูกความสามารถเขาเกินไปหน่อย
ผู้อาวุโสคนนี้มีแสงสีเขียวปกคลุมไปทั่วทั้งร่างกายจนทำให้มองไม่เห็นใบหน้าของเขา ตอนนี้ดูไม่มีทีท่าว่าจะหนี แถมยังมีพลังงานที่น่ากลัวแผ่ซ่านออกมาจากภายในร่างกายของเขา
“ตู้ม!”
ราชายุทธ์ทั้ง 4 คนที่บุกโจมตีเข้ามา ถูกพลังงานบางอย่างโจมตีจนลอยกระเด็นคว้างออกไป แสงสีเขียวสว่างวาบจนทำให้ทุกคนรู้สึกจ้าตา
“นี่คือ......ผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิยุทธ์รึ” ในห้องโถงตอนนี้ ผู้แข็งแกร่งที่มาร่วมอวยพรจากหลากหลายที่ต่างพากันทำสีหน้าชะงักงัน
ในประเทศเทียนหวูแห่งนี้ จำนวนผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิยุทธ์มีไม่เกิน 15 คน นอกจากนี้ยังมีไม่น้อยที่ปลีกตัวไม่ข้องเกี่ยวทางโลก จักรพรรดิยุทธ์แต่ละคนมักจะนั่งบัลลังก์ปกครองอยู่ประจำกลุ่มอำนาจต่างๆ โดยไม่เปิดเผยตัวเอง
“ตระกูลเผยทำให้จักรพรรดิยุทธ์ไม่พอใจ มีเรื่องกับคนที่ไม่ควรมีเรื่องด้วยเลย” ผู้แข็งแกร่งจากแต่ละกลุ่มอำนาจต่างพากันมองหน้ากันด้วยสีหน้าวิตกกังวล
“จักรพรรดิยุทธ์?”
สีหน้าของเผยหยวนชิวแปรเปลี่ยนไปทันที อารมณ์ปั่นป่วนแล่นไปทั่วร่างของเขา “ท่านผู้อาวุโส ตระกูลเผยของพวกเราดูเหมือนจะไม่เคยมีความแค้นใดๆ ต่อท่านกระมัง”
ทว่าสวีจิงเหนียนกลับไม่มีทีท่าสนใจคำพูดของเผยหยวนชิว เขาไม่เก็บมันมาใส่ใจและไม่ยอมเอ่ยปากอะไรออกมา
หลัวซิวก้าวอาดออกไปข้างหน้าแล้วยิ้มอย่างขมขื่น “ฉันขี้เกียจจะพูดเรื่องไร้สาระกับแกแล้ว ส่งตัวคนที่ฉันต้องการออกมาเดี๋ยวนี้ไม่เช่นนั้นแล้ว ฉันจะฆ่าตระกูลเผยของแกทั้งตระกูล”
“ฉันไม่เข้าใจว่าแกกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่ ตระกูลเผยของพวกเราไม่มีคนที่แกตามหา” เผยหยวนชิวยังคงเถียงกลับ
“ผู้อาวุโส ลงมือเถิด” หลัวซิวหันไปมองสวีจิงเหนียนที่มีแสงสีเขียวปกคลุมไปทั่วร่าง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...