มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 3114

ทั้งคู่เดินไปด้วยพูดคุยไปด้วย ส่วนใหญ่แล้วแทบจะเป็นหลงอ้าวจวินที่เป็นฝ่ายพูดอยู่คนเดียว ส่วนหลัวซิวที่อยู่ข้าง ๆ ก็รับฟังอย่างเงียบสงบ

“หลังจากสิ้นสุดมหันตภัยในยุคโบราณกาล โลกเซียนก็บังเกิดขึ้นมาใหม่ แดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่ทั้งหลายต่างได้รับความเสียหายอย่างหนักหน่วง ทุกสิ่งอย่างที่ถูกพังทลายไปรอซ่อมแซม ภูเขาภูตศักดิ์สิทธิ์บาดเจ็บสาหัส จึงต้องพักฟื้นฟูตัว ดังนั้นนายท่านถึงได้มีโอกาสโผล่พรวดพราดขึ้นมา”

พูดประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับยุคบรรพกาลและโบราณกาลอยู่เยอะมาก ในที่สุดหลงอ้าวจวินก็พูดถึงนายท่านของเขาแล้ว

“ในขั้นของข้ามีนามว่าไท่ซ่างอวี้ ท่านปลุกตื่นวิญญาณไท่ซ่างตั้งแต่อายุแปดขวบ สิบขวบปลุกตื่นร่างไท่ซ่าง บรรลุเป็นเซียนในหนึ่งร้อยปี บรรลุเป็นราชาเซียนในหนึ่งพันปี หมื่นปีก้าวเข้าสู่แดนเซียนสูงสุด!”

เมื่อได้ยินถึงตรงนี้ หลัวซิวก็อดซี๊ดปากไม่ได้ เขาฝึกตนมาสองพันกว่าปี แต่ก็เพิ่งจะบรรลุเป็นเซียน ส่วนนายท่านของหลงอ้าวจวิน ไท่ซ่างอวี้ฝึกตนแค่พันปีก็บรรลุเป็นราชาเซียนแล้วอย่างนั้นหรือ

อะไรคืออัจฉริยะสวรรค์ประทานพร? เห็นได้ชัดเจนเลยว่าไท่ซ่างอวี้เป็นบุคคลที่สะท้อนให้เห็นถึงคำคำนี้มากที่สุดแล้ว

สามารถจินตนาการดูได้เลยว่าหลังจากสิ้นสุดยุคโบราณกาล ยุคโบราณก่อนช่วงต้นที่โลกเซียนเพิ่งบังเกิดขึ้นมาใหม่ ๆ เส้นทางการเจริญรุ่งเรืองของไท่ซ่างอวี้ต้องเหมือนดังตำนานแน่นอน!

อย่างไรก็ตามแค่นี้ยังไม่จบ ได้ยินเพียงหลงอ้าวจวินพูดต่ออีกว่า “ในปีที่ไท่ซ่างอวี้บรรลุเป็นเซียนสูงสุด ท่านได้มาถึงเผ่าบรรพมังกรของเรา ซึ่งในยุคสมัยนั้น ข้าก็คือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในเผ่าบรรพมังกร!”

“แม้นท่านจักยังหนุ่มมาก ๆ แต่ทว่าเนื่องจากความหนุ่มของท่านนี่แหละ อนาคตท่านจึงมีโอกาสมีผลสำเร็จที่สูงยิ่งกว่า ดังนั้นข้าจึงเลือกที่จะติดตามท่านอย่างไม่ลังเลใจ ไท่ซ่างอวี้จึงกลายเป็นนายท่านของข้า และตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงวินาทีสุดท้าย ท่านก็มองข้าเหมือนน้องชายคนหนึ่ง!”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ ก็มีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าหลงอ้าวจวิน “และภายในปีนั้นเช่นกัน ท่านได้สมรสกับสตรีงดงามอันดับหนึ่งในยุคสมัยนั้น สตรีอันดับหนึ่งที่เป็นผู้ภาคภูมิของสวรรค์ เทพธิดาเมี่ยวฮว๋า!”

“อย่างไรก็ตามวันชื่นคืนสุขไม่ยั่งยืน บรรพอาจารย์ผู้เป็นอัจฉริยะของภูเขาภูตศักดิ์สิทธิ์กลัวว่านายท่านจะกลายเป็นจักรพรรดิเซียน แล้วทำให้เผ่าไท่ซ่างฟื้นฟูกลับคืนมา และเพื่อเป็นการไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน นายท่านจึงปลีกตัวออก แล้วถูกบรรพอาจารย์มกุฎเซียนนั่นไล่ล่า”

“ข้าและเทพธิดาเมี่ยวฮว๋าคอยอยู่เคียงข้างท่าน มองดูเขาค่อย ๆ เจริญเติบโตขึ้นมาทีละก้าว สุดท้ายบรรพอาจารย์มกุฎเซียนนั่นเพียงไม่สามารถสังหารท่าน ในทางตรงกันข้ามนายท่านกลับผ่านการขัดเกลามาครั้งแล้วครั้งเล่า จนบรรลุเป็นมกุฎเซียนในที่สุด!”

จู่ ๆ หลงอ้าวจวินก็หยุดเคลื่อนที่ แล้วใช้นิ้วชี้ไปด้านหน้า ตรงนั้นมีหลุมฝังศพหนึ่งหลุม หน้าหลุมฝังศพมีดาบหักเล่มหนึ่งที่เต็มไปด้วยสนิมปักอยู่

“หลุมฝังศพนั่นก็คือหลุมฝังศพของบรรพอาจารย์มกุฎเซียนแห่งภูเขาภูตศักดิ์สิทธิ์ แต่ว่าร่างเนื้อของเขาถูกนายท่านโจมตีจนแหลกสลายไปตั้งนานแล้ว ฉะนั้นนี่จึงเป็นเพียงสุสานที่ฝังเฉพาะเสื้อผ้าและสิ่งของของเขา”

หลงอ้าวจวินพูดอย่างไม่รีบไม่ร้อน “ท่านทราบหรือไม่ว่าเพราะเหตุใดนายท่านจึงต้องตั้งสุสานให้ผู้ที่ไล่ล่าตน”

“เพราะเหตุใดรึ?”หลัวซิวก็รู้สึกสงสัยมากเช่นกัน

“เพราะนายท่านบอกว่า ข้าต้องขอบคุณเขา ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ หากไม่มีการไล่ล่าจากเขา ข้าก็คงไม่มีทางฝึกถึงแดนมกุฎเซียนได้รวดเร็วปานนี้!”

หลงอ้าวจวินหัวเราะฮ่า ๆ เสียงดัง “ดังนั้นเพื่อเป็นการขอบคุณเขา นายท่านจึงลงมือสังหารเขาด้วยตนเอง แล้วสร้างสุสานหนึ่งให้แก่เขา!”

หลัวซิวที่ได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกน่าขำอย่างอดไม่ได้เช่นกัน พอจะจินตนาการได้เลยว่าหากบรรพอาจารย์มกุฎเซียนนั่นของภูเขาภูตศักดิ์สิทธิ์ได้ยินคำพูดนี้ จะหัวเสียมากจนคลานออกมาจากหลุมฝังศพหรือไม่

อย่างไรก็ตามหลงอ้าวจวินกลับหยุดหัวเราะกะทันหัน แล้วมีความโศกเศร้าเสี้ยวหนึ่งปรากฏบนใบหน้าเขา

“หลังจากนายท่านบรรลุเป็นมกุฎเซียนได้ไม่นาน เมี่ยวฮว๋าก็ตั้งครรภ์ และในเวลานั้น จู่ ๆ ก็มีผู้แข็งแกร่งลึกลับกลุ่มหนึ่งให้นายท่านจากไปพร้อมกับพวกเขา”

“แน่นอนว่านายท่านไม่มีทางทิ้งเมี่ยวฮว๋าที่กำลังตั้งครรภ์อยู่แล้ว ฉะนั้นศึกสงครามที่ยิ่งใหญ่จึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้”

“ศึกสงครามในครั้งนั้นรุนแรงอย่างยิ่ง คนลึกลับกลุ่มนั้นล้วนมีกำลังรบที่ไม่ต่ำกว่าระดับมกุฎเซียน ยิ่งกว่านั้นคือมีตนหนึ่งที่ใกล้จะบรรลุเป็นจักรพรรดิเซียนแล้ว!”

“นายท่านใช้วิถีไร้ลักษณ์วิวัฒนาการธรรมเวชเวียนว่ายตายเกิด ท่านได้ฝึกธรรมเวชเวียนว่ายตายเกิดถึงขีดสุด ริเริ่มเส้นทางแห่งวัฏสงสารที่เป็นของตัวท่านเอง อีกทั้งเป็นเส้นทางแห่งวัฏสงสารแดนบรรลุผลด้วย!”

“แต่น่าเสียดายที่ท่านมีเวลาสั้นเกินไป ถ้าเกิดให้เวลานายท่านอีกพันปีหมื่นปี บางทีท่านก็อาจจะสามารถรู้แจ้งในเส้นทางแห่งวัฏสงสาร ก้าวเข้าสู่แดนของเกณฑ์สรรค์ดับ แล้วบรรลุเป็นจักรพรรดิเซียนแห่งยุค!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ