ทั้งคู่เดินไปด้วยพูดคุยไปด้วย ส่วนใหญ่แล้วแทบจะเป็นหลงอ้าวจวินที่เป็นฝ่ายพูดอยู่คนเดียว ส่วนหลัวซิวที่อยู่ข้าง ๆ ก็รับฟังอย่างเงียบสงบ
“หลังจากสิ้นสุดมหันตภัยในยุคโบราณกาล โลกเซียนก็บังเกิดขึ้นมาใหม่ แดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่ทั้งหลายต่างได้รับความเสียหายอย่างหนักหน่วง ทุกสิ่งอย่างที่ถูกพังทลายไปรอซ่อมแซม ภูเขาภูตศักดิ์สิทธิ์บาดเจ็บสาหัส จึงต้องพักฟื้นฟูตัว ดังนั้นนายท่านถึงได้มีโอกาสโผล่พรวดพราดขึ้นมา”
พูดประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับยุคบรรพกาลและโบราณกาลอยู่เยอะมาก ในที่สุดหลงอ้าวจวินก็พูดถึงนายท่านของเขาแล้ว
“ในขั้นของข้ามีนามว่าไท่ซ่างอวี้ ท่านปลุกตื่นวิญญาณไท่ซ่างตั้งแต่อายุแปดขวบ สิบขวบปลุกตื่นร่างไท่ซ่าง บรรลุเป็นเซียนในหนึ่งร้อยปี บรรลุเป็นราชาเซียนในหนึ่งพันปี หมื่นปีก้าวเข้าสู่แดนเซียนสูงสุด!”
เมื่อได้ยินถึงตรงนี้ หลัวซิวก็อดซี๊ดปากไม่ได้ เขาฝึกตนมาสองพันกว่าปี แต่ก็เพิ่งจะบรรลุเป็นเซียน ส่วนนายท่านของหลงอ้าวจวิน ไท่ซ่างอวี้ฝึกตนแค่พันปีก็บรรลุเป็นราชาเซียนแล้วอย่างนั้นหรือ
อะไรคืออัจฉริยะสวรรค์ประทานพร? เห็นได้ชัดเจนเลยว่าไท่ซ่างอวี้เป็นบุคคลที่สะท้อนให้เห็นถึงคำคำนี้มากที่สุดแล้ว
สามารถจินตนาการดูได้เลยว่าหลังจากสิ้นสุดยุคโบราณกาล ยุคโบราณก่อนช่วงต้นที่โลกเซียนเพิ่งบังเกิดขึ้นมาใหม่ ๆ เส้นทางการเจริญรุ่งเรืองของไท่ซ่างอวี้ต้องเหมือนดังตำนานแน่นอน!
อย่างไรก็ตามแค่นี้ยังไม่จบ ได้ยินเพียงหลงอ้าวจวินพูดต่ออีกว่า “ในปีที่ไท่ซ่างอวี้บรรลุเป็นเซียนสูงสุด ท่านได้มาถึงเผ่าบรรพมังกรของเรา ซึ่งในยุคสมัยนั้น ข้าก็คือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในเผ่าบรรพมังกร!”
“แม้นท่านจักยังหนุ่มมาก ๆ แต่ทว่าเนื่องจากความหนุ่มของท่านนี่แหละ อนาคตท่านจึงมีโอกาสมีผลสำเร็จที่สูงยิ่งกว่า ดังนั้นข้าจึงเลือกที่จะติดตามท่านอย่างไม่ลังเลใจ ไท่ซ่างอวี้จึงกลายเป็นนายท่านของข้า และตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงวินาทีสุดท้าย ท่านก็มองข้าเหมือนน้องชายคนหนึ่ง!”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ ก็มีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าหลงอ้าวจวิน “และภายในปีนั้นเช่นกัน ท่านได้สมรสกับสตรีงดงามอันดับหนึ่งในยุคสมัยนั้น สตรีอันดับหนึ่งที่เป็นผู้ภาคภูมิของสวรรค์ เทพธิดาเมี่ยวฮว๋า!”
“อย่างไรก็ตามวันชื่นคืนสุขไม่ยั่งยืน บรรพอาจารย์ผู้เป็นอัจฉริยะของภูเขาภูตศักดิ์สิทธิ์กลัวว่านายท่านจะกลายเป็นจักรพรรดิเซียน แล้วทำให้เผ่าไท่ซ่างฟื้นฟูกลับคืนมา และเพื่อเป็นการไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน นายท่านจึงปลีกตัวออก แล้วถูกบรรพอาจารย์มกุฎเซียนนั่นไล่ล่า”
“ข้าและเทพธิดาเมี่ยวฮว๋าคอยอยู่เคียงข้างท่าน มองดูเขาค่อย ๆ เจริญเติบโตขึ้นมาทีละก้าว สุดท้ายบรรพอาจารย์มกุฎเซียนนั่นเพียงไม่สามารถสังหารท่าน ในทางตรงกันข้ามนายท่านกลับผ่านการขัดเกลามาครั้งแล้วครั้งเล่า จนบรรลุเป็นมกุฎเซียนในที่สุด!”
จู่ ๆ หลงอ้าวจวินก็หยุดเคลื่อนที่ แล้วใช้นิ้วชี้ไปด้านหน้า ตรงนั้นมีหลุมฝังศพหนึ่งหลุม หน้าหลุมฝังศพมีดาบหักเล่มหนึ่งที่เต็มไปด้วยสนิมปักอยู่
“หลุมฝังศพนั่นก็คือหลุมฝังศพของบรรพอาจารย์มกุฎเซียนแห่งภูเขาภูตศักดิ์สิทธิ์ แต่ว่าร่างเนื้อของเขาถูกนายท่านโจมตีจนแหลกสลายไปตั้งนานแล้ว ฉะนั้นนี่จึงเป็นเพียงสุสานที่ฝังเฉพาะเสื้อผ้าและสิ่งของของเขา”
หลงอ้าวจวินพูดอย่างไม่รีบไม่ร้อน “ท่านทราบหรือไม่ว่าเพราะเหตุใดนายท่านจึงต้องตั้งสุสานให้ผู้ที่ไล่ล่าตน”
“เพราะเหตุใดรึ?”หลัวซิวก็รู้สึกสงสัยมากเช่นกัน
“เพราะนายท่านบอกว่า ข้าต้องขอบคุณเขา ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ หากไม่มีการไล่ล่าจากเขา ข้าก็คงไม่มีทางฝึกถึงแดนมกุฎเซียนได้รวดเร็วปานนี้!”
หลงอ้าวจวินหัวเราะฮ่า ๆ เสียงดัง “ดังนั้นเพื่อเป็นการขอบคุณเขา นายท่านจึงลงมือสังหารเขาด้วยตนเอง แล้วสร้างสุสานหนึ่งให้แก่เขา!”
หลัวซิวที่ได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกน่าขำอย่างอดไม่ได้เช่นกัน พอจะจินตนาการได้เลยว่าหากบรรพอาจารย์มกุฎเซียนนั่นของภูเขาภูตศักดิ์สิทธิ์ได้ยินคำพูดนี้ จะหัวเสียมากจนคลานออกมาจากหลุมฝังศพหรือไม่
อย่างไรก็ตามหลงอ้าวจวินกลับหยุดหัวเราะกะทันหัน แล้วมีความโศกเศร้าเสี้ยวหนึ่งปรากฏบนใบหน้าเขา
“หลังจากนายท่านบรรลุเป็นมกุฎเซียนได้ไม่นาน เมี่ยวฮว๋าก็ตั้งครรภ์ และในเวลานั้น จู่ ๆ ก็มีผู้แข็งแกร่งลึกลับกลุ่มหนึ่งให้นายท่านจากไปพร้อมกับพวกเขา”
“แน่นอนว่านายท่านไม่มีทางทิ้งเมี่ยวฮว๋าที่กำลังตั้งครรภ์อยู่แล้ว ฉะนั้นศึกสงครามที่ยิ่งใหญ่จึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้”
“ศึกสงครามในครั้งนั้นรุนแรงอย่างยิ่ง คนลึกลับกลุ่มนั้นล้วนมีกำลังรบที่ไม่ต่ำกว่าระดับมกุฎเซียน ยิ่งกว่านั้นคือมีตนหนึ่งที่ใกล้จะบรรลุเป็นจักรพรรดิเซียนแล้ว!”
“นายท่านใช้วิถีไร้ลักษณ์วิวัฒนาการธรรมเวชเวียนว่ายตายเกิด ท่านได้ฝึกธรรมเวชเวียนว่ายตายเกิดถึงขีดสุด ริเริ่มเส้นทางแห่งวัฏสงสารที่เป็นของตัวท่านเอง อีกทั้งเป็นเส้นทางแห่งวัฏสงสารแดนบรรลุผลด้วย!”
“แต่น่าเสียดายที่ท่านมีเวลาสั้นเกินไป ถ้าเกิดให้เวลานายท่านอีกพันปีหมื่นปี บางทีท่านก็อาจจะสามารถรู้แจ้งในเส้นทางแห่งวัฏสงสาร ก้าวเข้าสู่แดนของเกณฑ์สรรค์ดับ แล้วบรรลุเป็นจักรพรรดิเซียนแห่งยุค!”
“ข้าไม่ทราบแต่อย่างใดว่าท่านพ่อท่านดับสลายสูญสิ้นไปหรือยัง แต่ข้าคาดคะเนว่าท่านอาจจะยังไม่ตาย ในส่วนของท่านแม่ท่านเมี่ยวฮว๋า นางเคยข้ามผ่านสะพานทะยานเซียนกลับมาที่นี่อยู่ จากนั้นก็ทำลายสะพานทะยานเซียนทิ้ง ข้าคิดว่านางน่าจะไม่อยากให้ท่านเข้ามาติดอยู่ในระลอกคลื่นแห่งความยุ่งเหยิงของโลกเซียน และข้าก็ทราบมาจากปากนางเช่นกันว่า นางได้ตั้งชื่อให้นายน้อยว่าไท่ซ่างฉิง!”
“กลุ่มคนลึกลับที่รุมโจมตีท่านพ่อข้าคือผู้ใดกันแน่?”หลัวซิวถามข้อสงสัยในใจออกมา
อย่างไรก็ตามหลงอ้าวจวินกลับส่ายหน้า “ข้าก็ไม่ทราบเช่นกัน แต่ท่านพ่อท่านสันนิษฐานว่าคนกลุ่มนั้นน่าจะมีความเกี่ยวข้องกับจักรพรรดิเซียนไท่ซ่าง และจักรพรรดิเซียนภูตศักดิ์สิทธิ์ที่หายสาบสูญไปในยุคบรรพกาลและยุคโบราณกาล”
“ฟังดูเหมือนจะวุ่นวายมากเลยนะ”
หลัวซิวยิ้มอย่างขมขื่น สำหรับเขาที่มีผลการฝึกตนเป็นเพียงเซียนขั้นปฐมภูมิในวินาทีนี้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นผู้แข็งแกร่งลึกลับที่รุมโจมตีท่านพ่อ หรือเผ่าพันธุ์ภูตศักดิ์สิทธิ์ที่ต้องการกวาดล้างเผ่าไท่ซ่าง ล้วนไม่ใช่เขาในตอนนี้สามารถต่อกรได้
“ท่านไม่ต้องเป็นห่วง เมื่ออยู่ในแดนต้องห้ามที่ท่านพ่อท่านใช้วัฏสงสารบุกเบิกขึ้นมา ต่อให้จักรพรรดิเซียนมาถึง ข้าก็สามารถโจมตีให้ฝ่ายตรงข้ามถดถอยได้เช่นกัน อนาคตหากท่านเจอปัญหา ขอแค่กลับมาที่นี่ท่านก็จะปลอดภัยขอรับ”
“ข้าเคยพูดแล้วว่าที่นี่คือแดนสุขาวดีที่พ่อท่านทิ้งไว้ให้ท่าน อนาคตหากท่านฝึกถึงแดนเซียนชั้นฟ้า จะได้รับของสิ่งหนึ่งที่ท่านพ่อท่านทิ้งไว้ให้ท่าน”หลงอ้าวจวินพูด
“ท่านอาวุโสสามารถทำให้จักรพรรดิเซียนถดถอยได้หรือ?”หลัวซิวมองหลงอ้าวจวินด้วยความตะลึงงันเล็กน้อย อ้างอิงจากความเข้าใจของเขา ในทุกยุคสมัย ผู้แข็งแกร่งที่แข็งแกร่งที่สุดล้วนเป็นจักรพรรดิเซียนทั้งนั้น
และเมื่อปีนั้น ท่านพ่อของเขาไท่ซ่างอวี้ก็มีผลการฝึกตนเป็นเพียงมกุฎเซียน หลงอ้าวจวินเป็นสัตว์ที่ใช้ขี่ของท่าน แล้วจะมีทางมีศักยภาพที่สามารถต่อกรกับจักรพรรดิเซียนได้อย่างไร?
“เหอะ ๆ จักรพรรดิเซียนก็ใช่ว่าจะไร้เทียมทานเสมอไป ยกตัวอย่างเช่นแม้นจะเป็นจักรพรรดิเซียนเหมือนกัน ทว่าจักรพรรดิเซียนไท่ซ่างในยุคบรรพกาลใช้เพียงนิ้วมือเดียว ก็สามารถสังหารจักรพรรดิเซียนภูตศักดิ์สิทธิ์ในยุคโบราณกาลได้แล้ว และอัจฉริยะไร้เทียมทานผู้ภาคภูมิของสวรรค์บางส่วนที่อยู่ในแดนมกุฎเซียนก็ไม่ด้อยกว่าจักรพรรดิเซียนทั่วไป ซึ่งท่านพ่อท่านก็บังเอิญเป็นคนประเภทนี้พอดี”
หลงอ้าวจวินพูดอย่างภาคภูมิใจ “และตัวท่านก็ไม่ได้ทำให้พ่อท่านขายหน้าเช่นกัน แม้นท่านจะเพิ่งบรรลุสู่เซียนขั้นปฐมภูมิ ทว่าศักยภาพของท่านกลับไม่ด้อยกว่าเซียนดินทั่วไปแล้ว อนาคตหากท่านก็สามารถได้รับการถ่ายทอดสืบสานทั้งหมดของแปดต้องห้ามไท่ซ่างเหมือนพ่อท่าน แล้วหลอมรวมแปดต้องห้ามของตัวเอง ริเริ่มเก้าต้องห้ามออกมา เช่นนั้นเมื่อท่านบรรลุเป็นมกุฎเซียน ต่อให้เป็นจักรพรรดิเซียนท่านก็สามารถต่อกรได้ด้วยเช่นกัน!”
“แต่น่าเสียดายที่ข้าไม่สามารถออกจากที่นี่ได้ มิเช่นนั้นข้าอยากออกไปเที่ยวชมป่าเขาลำเนาไพรของโลกาภายนอกพร้อมกับท่านมากจริง ๆ ……”หลงอ้าวจวินพูดอย่างทอดถอนใจอีกครั้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
นี้ก็หายไปเป็นปีเลย แอแ...
รออ่านยุ...
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...