มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 3157

การปรากฏตัวของสมบัติในเทือกเขาฉื้อหมิงดึงดูดเทือกเขาฉื้อหมิงจำนวนมาก

หลัวซิว มาที่นี่เพื่อค้นหาไข่มุกแก้วเจ้านาวา ตอนนี้เมื่อเขาพบแล้ว เขาก็เลือกที่จะจากไปทันที

เมื่อพบสถานที่ที่ค่อนข้างปลอดภัย เขาแกะสลักค่ายกลและสร้างค่ายกลแล้วเข้าสู่แหล่งดั้งเดิมเลิศล้ำทันที

ใช้ไข่มุกแก้วเจ้านาวา ชั้นยอดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเซียนอัคคี ในขณะเดียวกันก็ใช้สายฟ้าเซียนในแหล่งดั้งเดิมสายฟ้าเพื่อกลั่นแปรเตาเซียนอีกครั้ง สำหรับนักโอสถเซียนคนหนึ่ง ความแตกต่างระหว่างคุณภาพของเตาเซียนกลั่นยา มีความเป็นได้ที่จะส่งผลต่อระดับคุณภาพของเม็ดยาที่เสร็จแล้ว

เวลาผ่านไปโดยไม่รู้ตัว หลัวซิว ใช้เวลาหลายร้อยปีในแหล่งดั้งเดิมเลิศล้ำ

ว่ากันว่าแหล่งดั้งเดิมเลิศล้ำสามารถพิชิตดั้งเดิมสรรพเต๋า หลัวซิว สามารถทำอะไรก็ได้ที่เขาต้องการในนั้นและจัดเตรียมการสร้างมหาค่ายสีมาเพลา

ดังนั้นเขาจึงใช้เวลาหลายร้อยปีอยู่ข้างใน แต่ในโลกภายนอกผ่านไปเพียงประมาณหนึ่งปีเท่านั้น

“หากในอนาคตเจ้าสามารถได้รับดั้งเดิมเพลา ก็จะกำเนิดความเร็วของเวลาได้ตามใจชอบน่ะสิ? นี่ก็เจ๋งเกินไปแล้วน่ะสิ?”

หลัวซิว รู้สึกทึ่งกับประโยชน์ต่างๆ ของแหล่งดั้งเดิมเลิศล้ำ แต่สมบัติเช่นดั้งเดิมธรรมเวชนั้นหาได้ยาก เขาโชคดีมากที่ได้รับแหล่งดั้งเดิมสายฟ้า

รูปแบบของภูมิภาคเบญจธาตุนั้นวุ่นวายมากกว่าภูมิภาคอื่น ในภูมิภาคอื่น มีแดนศักดิ์สิทธิ์ที่จะปราบปรามด้านหนึ่งและมีความขัดแย้งเป็นครั้งคราวระหว่างสำนักเซียน ประเทศเซียนและราชวงศ์เซียน แต่ก็ไม่เป็นอันตราย แม้ว่าจะมีความขัดแย้งครั้งใหญ่ และผู้คนจากแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ก้าวออกมาเป็นสื่อกลางและรักษาสมดุล

แต่มันแตกต่างออกไปในภูมิภาคเบญจธาตุ เนื่องจากมีการต่อสู้อย่างต่อเนื่องภายในแดนศักดิ์สิทธิ์เบญจธาตุ

มันค่อนข้างแตกต่างจากแดนศักดิ์สิทธิ์สามยอด แม้ว่าแดนศักดิ์สิทธิ์สามยอดฟ้าดินมนุษย์สามนิกายจะแข่งขันกัน แต่อย่างน้อย พวกเขาก็รักษาความสงบสุขไว้บนพื้นผิว

แต่นี่ไม่ใช่ในแดนศักดิ์สิทธิ์เบญจธาตุ เป็นเรื่องปกติที่ผู้คนจะต่อสู้กันเมื่อมีข้อขัดแย้งเพียงเล็กน้อยหรือแม้แต่ความขัดแย้งขนาดใหญ่ที่ปะทุขึ้นก็มีบ่อยๆ

แดนศักดิ์สิทธิ์เบญจธาตุมีห้าสาขาหลัก ได้แก่ ภูเขาทองเกิง วังไม้ขจี วิหารน้ำนิล สำนักไฟชาด พรรคดินทึบ

เช่นเดียวกับที่เบญจธาตุที่ส่งผลกระทบต่อกันและกัน ภายในสำนักศักดิ์สิทธิ์เบญจธาตุ ก็ส่งผลดระทบต่อกันและกันและมีการต่อสู้อยู่ตลอดเวลา

สำหรับหลัวซิว สถานการณ์ที่วุ่นวายนี้เหมาะสมกว่าสำหรับเขาที่จะซ่อนตัวอยู่ที่นี่ ค่อยๆ สะสมความรู้ และปีนขึ้นไปบนยอดที่แข็งแกร่งทีละขั้น

ความขัดแย้งภายในแดนศักดิ์สิทธิ์เบญจธาตุนั้นเป็นเรื่องที่เกลียดชังชาวต่างชาติอย่างมาก หากแดนศักดิ์สิทธิ์อื่นๆพยายามที่จะเข้ามาแทรกแซงกองกำลังภายในแดนศักดิ์สิทธิ์เบญจธาตุจะวางความขุ่นเคืองของพวกเขาลงและจัดการกับโลกภายนอกพร้อมเพรียงกัน

หลังจากที่เขาออกมาจากความสันโดษฝึกฝนเขาก็มาถึงเมืองเซียนแห่งหนึ่ง ตอนนี้เขามีเงื่อนไขในการกลั่นระดับโอสถเซียน ดังนั้นสิ่งต่อไปที่ต้องทำคือการหาวิธีกลั่นแปรโอสถเซียน เขาขาดโอสถเซียนขั้นฟ้าจำนวนมาก

มีข่าวลือในเทือกเขาฉื้อหมิงว่ามีคนเคยพบเทือกเขาฉื้อหมิง แต่หลัวซิวค้นหาที่นั่นเป็นเวลานานและพบเพียงไข่มุกแก้วเจ้านาวา เพียงบางส่วนเท่านั้น ไม่ต้องพูดถึโอสถเซียนขั้นฟ้า โอสถเซียนขั้นดินเขายังไม่พบสักต้นด้วยซ้ำ ดังนั้นเมื่อเขาเข้าไปในเมืองเซียนในครั้งนี้ เขาอยากจะลองค้นหาว่าเขาจะหาโอสถเซียนขั้นฟ้าได้ที่ไหนได้ง่ายขึ้น

โดยทั่วไปพื้นที่ที่ผลิตทรัพยากรจะอยู่ในมือของกองกำลังหลัก ตัวอย่างเช่น ไข่มุกแก้วเจ้านาวา จำนวนมากเพิ่งปรากฏขึ้นมาในเทือกเขาฉื้อหมิง ซึ่งดึงดูดสายตาที่สอดรู้สอดเห็นของสำนักเซียนเหล่านั้น ตั้งใจที่จะควบคุมไว้ในมือ

ในภูมิภาคเบญจธาตุ สถานที่ที่ หลัวซิว เคยได้ยินมากที่สุดคือ สถานเบญจธาตุ

ว่ากันว่าสถานเบญจธาตุมีอยู่แล้วก่อนที่พื้นที่นี้จะถูกตั้งชื่อว่าภูมิภาคเบญจธาตุ และถูกควบคุมโดยสำนักเซียนชั้นนำห้าสำนักในเวลาเดียวกัน

สถานเบญจธาตุกล่าวกันว่าเป็นสถานที่ที่แปลกประหลาด เป็นโลกของตัวเอง ซึ่งมีวิวัฒนาการลึกลับขั้นสูงสุดของอ เช่นเดียวกับความลึกลับของวิวัฒนาการเบญจธาตุขเปลี่ยนแปลงเป็นหยินหยาง หยินหยางกลายเป็นตรีภพ

ดังนั้นเมื่อผู้แข็งแกร่งจำนวนมากมาที่ภูมิภาคเบญจธาตุ พวกเขาทั้งหมดตรงไปที่ สถานเบญจธาตุ นี่เป็นสถานที่ที่สร้างปาฏิหาริย์นับไม่ถ้วน มีผู้แข็งแกร่งที่มีชื่อเสียงและทรงพลังมากมายในโลกที่ได้รับโอกาสและลิขิตมากมายในสถานเบญจธาตุ

แดนศักดิ์สิทธิ์เบญจธาตุยังอาศัยสถานเบญจธาตุเพื่อสร้างโชคลาภ มีผู้แข็งแกร่งนับไม่ถ้วนซึ่งสามารถเปรียบเทียบได้กับแดนศักดิ์สิทธิ์ที่สืบทอดมาจากสมัยยุคบรรพกาล

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทุกคนคาดไม่ถึงก็คือแดนศักดิ์สิทธิ์เบญจธาได้เปิดสถานเบญจธาตุให้กับโลกภายนอก ไม่ว่าเจ้าจะเป็นผู้บำเพ็ญตนอิสรหรือศิษย์ของสำนักเซียน ประเทศเซียน ราชวงศ์เซียนหรือศิษย์ของแดนศักดิ์สิทธิ์ ตราบเท่าที่ จ่ายกรองแก้วเซียนจำนวนหนึ่ง ทุกคนสามารถเข้าสู่สถานเบญจธาตุได้

หลัวซิว เคยได้ยินเกี่ยวกับ สถานเบญจธาตุ และวางแผนที่จะไปที่นั่น เนื่องจาก สถานเบญจธาตุ เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ผลิตโอสถเซียนมากที่สุดในภูมิภาคเบญจธาตุทั้งหมด

ต้นกำเนิดของโอสถเซียนโดยทั่วไปคือสวนยาที่ปลูกและดูแลโดยกองกำลังหลัก สวนยาที่สามารถผลิตโอสถเซียนคุณภาพสูงจำนวนมากได้อย่างต่อเนื่องมักจะต้องใช้เวลาในการดูแลเป็นเวลานานเพื่อสะสมมรดก

สำหรับราชาสมุนไพรนั้นไม่สามารถปลูกฝังได้ด้วยกำลังคน โดยทั่วไป โอสถเซียนที่ปลูกในสวนยาสูงที่สุดก็คือระดับเซียนชั้นฟ้า

หากพูดกันตรงๆ โอสถเซียนระดับฟ้าเป็นสมบัติที่ขาดแคลนในโลกเซียนเนื่องจากมีนักยุทธ์ที่อยู่ในแดนเซียนชั้นฟ้ามากเกินไป

จากเซียนชั้นฟ้าเป็ราชาเซียนนั้นเป็นช่องว่างขนาดใหญ่ หากพูดตรงๆ ท่ามกลางเซียนชั้นฟ้าหลายพันคน โชคดีมากนักที่มีคนหรือสองคนสามารถกลายเป็นราชาเซียนได้ เซียนชั้นฟ้าส่วนใหญ่ใช้เวลาหลายปีอย่างสูญเปล่า แม้ว่าจะมี อายุขัยที่ยืนยาวและเกือบจะเป็นนิรันดร์ หากผลการฝึกฝนถูกพันธนาการไม่เพิ่มขึ้น วันหนึ่งอาจประสบภัยพิบัติ ร่างกายและจิตวิญญาณจะถูกทำลาย และการฝึกฝนอย่างยากลำบากทั้งชีวิตก็จะสูญเปล่า

ดังนั้น ในเส้นทางของยุทธ์ ถ้าไม่ก้าวหน้าแล้วยังถอยหลัง แม้จะรู้ว่ามีความหวังเพียงเล็กน้อย แต่ก็ยังมีเซียนชั้นฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนที่จะบินเข้าไปในเปลวไฟ เพียงเพื่อค้นหาโอกาสริบหรี่ที่สามารถบรรลุราชาเซียนได้สำเร็จ

“ว่ากันว่ามีความลับอันยิ่งใหญ่ซ่อนอยู่ในสถานเบญจธาตุ!”

คำอธิบายทั้งหมดเกี่ยวกับ สถานเบญจธาตุ ที่ หลัวซิว ได้ยินนั้นคลุมเครือและไม่ชัดเจน

แหล่งดั้งเดิมสายฟ้ากลายเป็นดาราส่องแสงราวกับชั่วนิรันดร์ หลัวซิวนั่งขัดสมาธิอยู่ท่ามกลางพวกมัน แหล่งดั้งเดิมสายฟ้าจะไม่สร้างความเสียหายแก่เขาเลย เขาพยายามดึงพลังดั้งเดิมสายฟ้ามาใช้

พลังแห่งแหล่งกำเนิดสายฟ้าคือพลังสายฟ้าดั้งเดิมที่สุดประกอบด้วยหนทางแห่งการสร้างสรรค์และการทำลายล้างและเป็นพลังแห่งกฎเกณฑ์สูงสุด

หากเขาสามารถใช้ได้ แม้ว่าจะมีเพียงเล็กน้อย พลังของมันก็ไม่อาจจินตนาการได้

เมื่อพิจารณาจากระดับแดนผลการฝึกตนในปัจจุบันของ หลัวซิว แล้ว มันยากเกินไปที่จะครอบครองพลังดั้งเดิมสายฟ้า และไม่สามารถทำได้ในชั่วข้ามคืน

แม้จะมีอุปสรรคด้านเวลา แต่เวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เมื่อ หลัวซิว ถอยออกมาจากแหล่งดั้งเดิมเลิศล้ำ เวลาสามวันก็หมดลง

เขาออกจากห้องลับของที่พัก ปฏิบัติตามข้อกำหนดในป้ายบัญชาการ และมาที่จตุรัสฝั่งใต้

มีค่ายวาร์ปอยู่ที่นี่ จากการสนทนาของผู้คนรอบ ๆ รู้ว่ค่ายวาร์ปนี้ใช้เพื่อเคลื่อนย้ายไปยังสถานเบญจธาตุโดยเฉพาะ

นอกจากนี้ยังมีค่ายวาร์ปที่เมืองฝั่งเหนือ ซึ่งถูกเคลื่อนย้ายกลับจากสถานเบญจธาตุ

คนที่ถือป้ายบัญชาการถูกส่งไปเป็นกลุ่ม ๆ เมื่อความรู้สึกเวียนหัวของห้วงเวลาและปริภูมิหายไป หลัวซิว ก็พบว่าเขามาถึงโลกที่ไม่ได้เป็นของโลกเซียน

นี่คือดินแดนรกร้างว่างเปล่า ล้อมรอบด้วยกำแพงหินสูงราวกับหุบเขา มีเพียงทิศทางเดียวและมีทางเข้าขนาดใหญ่

ตรงกลางของพื้นที่เปิดโล่งมีศิลาขนาดใหญ่ที่มีตัวอักษรสามตัวว่า "สถานเบญจธาตุ" เขียนอยู่ นอกจากนี้ยังมีแบบอักษรขนาดเล็กบางส่วนที่อธิบายข้อมูลง่ายๆ

ตัวอย่างเช่นตามที่อธิบายไว้บนศิลาทางเข้าขนาดใหญ่คือทางเข้าสู่ สถานเบญจธาตุ หากใครต้องการออกจาก สถานเบญจธาตุ ต้องไปที่พิกัดหนึ่ง มีค่ายวาร์ปอยู่ที่พิกัดนี้ ซึ่งสามารถเคลื่อนย้ายกลับไปยังเมืองเบญจธาตุเซียนได้

ในเวลาเดียวกัน ทุกคนเห็นว่ามีร้านค้าที่สร้างขึ้นใกล้ทางเข้าขนาดใหญ่ ป้ายร้านมีโลโก้ของแดนศักดิ์สิทธิ์เบญจธาตุ

ที่นี่มีการจำหน่ายม้วนหยกเกี่ยวกับ สถานเบญจธาตุ โดยเฉพาะ สำหรับผู้ที่มาที่ สถานเบญจธาตุ เป็นครั้งแรก จำเป็นต้องซื้อม้วนหยกเหล่านี้เพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่อันตรายโดยไม่ได้ตั้งใจและจะรู้ว่าแต่ละสถานที่ใดที่มีสมบัติที่เหมาะกับตนเอง

แน่นอนว่าม้วนหยกเหล่านี้ราคาไม่ถูก แม้แต่ม้วนหยกที่พบบ่อยที่สุดซึ่งบันทึกข้อมูลพื้นฐานบางส่วนก็ยังต้องการกรองแก้วเซียนชั้นสูงสองหมื่นก้อน

ม้วนหยกเหล่านั้นที่มีบันทึกรายละเอียดมากขึ้นก็มีราคาแพงกว่าและมีราคาสูงถึงกรองแก้วเซียนชั้นสูงหลายล้านก้อน