มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 3161

“ด้านหลังของสำนักเซียนแห่งนี้มีโชคโอกาสอะไรซ่อนอยู่กันแน่?”หลัวซิวหรี่ตาลง

“ข้าก็มิทราบเช่นกัน ทว่าสิ่งที่สามารถยืนยันได้คือแม้แต่แต่จักรพรรดิเซียนในอดีตไม่อาจได้ครอบครอง”มารเฒ่าไม้พูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “ฉะนั้นข้าถึงได้บอกกับเจ้าว่าเจ้าไม่ได้ครอบครองหรอก หากเจ้าไม่กลัวตาย ก็สามารถเข้าไปลองดูได้เลย”

“ได้!”

จิตใจหลัวซิวเร่าร้อนฮึกเหิม เงาร่างกระพริบครั้งหนึ่ง แล้วมุ่งหน้าเดินตรงไปทางประตูที่มีแสงเซียนเป็นประกายระยิบระยับ

“เจ้าหนู ข้าขอย้ำเตือนเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย ตลอดกาลเวลาอันยาวนานที่ผ่านพ้นมา ทุกคนที่ฝ่าฟันเข้าไปในสำนักเซียนแห่งนี้ นอกจากเหล่าจักรพรรดิเซียนรวมไปถึงมหิทธิมกุฎเซียนส่วนน้อย ก็แทบจะไม่มีคนเคยมีชีวิตรอดออกมาเลย”

เสียงของมารเฒ่าไม้สะท้อนมาจากด้านหลัง แต่เงาร่างของหลัวซิวกลับไม่มีท่าทีที่จะหยุดชะงักงันเลยแม้แต่น้อย

ตัวธรรมของเขาหนักแน่นอย่างยิ่ง เขามีจิตใจที่ไม่หวาดหวั่น โชคโอกาสอยู่ใกล้แค่เอื้อมแล้ว อุปนิสัยที่กลัวทุกสิ่งทุกอย่างไปหมดไม่ใช่อุปนิสัยของเขา

ทันใดนั้น ร่างกายของหลัวซิวก็ก้าวเข้าไปในประตูล้ำลึก จากนั้นก็มีพลังที่มากมายมหาศาลพรั่งพรูออกมา ราวกับมหาสมุทรที่กว้างใหญ่อย่างไร้ขอบเขตหนึ่งได้ดูดกลืนร่างกายที่เล็กน้อยดั่งเศษฝุ่นของเขาเอาไว้

รอบกายคือแสงเซียนที่ไร้ขอบเขต จากทุกอย่างฟื้นฟูกลับคืนสู่สภาพที่เงียบสงบ ร่างกายของหลัวซิวก็อยู่ในมิติปริภูมิสีเขียวแห่งหนึ่งแล้ว

ออร่าสีเขียวไหลเวียนดั่งเมฆหมอก ซึ่งมีออร่าชีวีที่เข้มข้นแฝงซ่อนอยู่ นี่คือเกณฑ์ธาตุไม้ประเภทหนึ่งที่ระดับขั้นสูงมาก ๆ สูงถึงขั้นที่ทำให้เกณฑ์ธาตุไม้มีแก่นสารความล้ำลึกของลิขิตแฝงซ่อนอยู่ลาง ๆ แล้ว

ด้านหน้าคือเส้นทางที่คดเคี้ยวสายหนึ่ง มันพาดอยู่กลางปริภูมิสีเขียว เส้นทางดังกล่าวยาวมากจนมองไม่เห็นสุดขอบปลายทาง

สามารถมองเห็นได้ลาง ๆ ว่ามีรูปปั้นขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหน้า ปิดกั้นเส้นทางและวิสัยทัศน์เอาไว้

บนเส้นทางสายนี้มีอักษรฮู้สีเขียวที่นับไม่ถ้วนตลบฟุ้งไปทั่วทุกสารทิศ มีรัศมีเป็นประกายระยิบระยับอยู่บนอักษรฮู้เหล่านั้น ซึ่งมีพลังเต๋าที่ล้ำลึกถึงขีดสุดแฝงซ่อนอยู่

พลังเต๋าประเภทนี้ลึกซึ้งมากถึงมากที่สุด จากระดับความสามารถในการตระหนักรู้ของหลัวซิว แม้แต่เขายังมองไม่รู้เรื่องเลย ทราบแค่เพียงมีเกณฑ์ธรรมเวชที่ลึกซึ้งแฝงซ่อนอยู่ภายใน ซึ่งอยู่เหนือมหาเซียนและเซียนสูงสุด

นอกเหนือจากนี้แล้วก็ไม่มีสิ่งอื่นใดอีกเลย หลัวซิวแค่ยืนนิ่งอยู่กับที่พักหนึ่ง จากนั้นก็ย่างกรายสู่เส้นทางที่อยู่ด้านหน้า

เส้นทางดังกล่าวไม่กว้างใหญ่เท่าไหร่นัก ยิ่งกว่านั้นคือมันเหมือนสะพานไม้ต้นเดียวมากกว่า และเขาก็มาถึงหน้ารูปปั้นที่ปรากฏในวิสัยทัศน์อย่างรวดเร็ว

รูปปั้นดังกล่าวได้ปิดกั้นเส้นทางด้านหน้าเอาไว้ มีชุดเกราะสงครามคลุมอยู่บนตัวรูปปั้น มือถือหอกยาว อำนาจพลังยุทธ์ไม่ธรรมดา ร่างกายสูงตระหง่าน ลักษณะท่าทีเหมือนเตรียมพร้อมที่จะสู้รบ

เสี้ยววินาทีที่สายตามองเห็นรูปปั้นดังกล่าว หลัวซิวก็มีความรู้สึกเหมือนเมื่อศัตรูคู่อาฆาตได้พบเจอกันเพราะโลกกลม ผู้ชนะย่อมเป็นผู้กล้าหาญเสมอ

“แคว็ก……”

ทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงแตกร้าวสะท้อนออกมาจากรูปปั้น ถัดจากนั้นเสียงแคว็กก็ดังถี่ขึ้น และเศษหินบนรูปปั้นก็ร่วงหล่นลงมาอย่างไม่หยุดหย่อน

ในขณะเดียวกัน ก็มีอักษรฮู้นับไม่ถ้วนที่ผนึกรวมมาจากรัศมีสีเขียวพุ่งมาจากทั่วทุกสารทิศ อักษรฮู้ทั้งหมดล้วนหลอมรวมเข้าไปในร่างกายของรูปปั้นดังกล่าว จากนั้นของตายไร้พลังชีวิตในตอนแรกก็ถึงขั้นมีเลือดเนื้อโผล่ออกมา มากไปกว่านั้นคือยังมีเสียงเต้นของหัวใจที่หนักแน่นสะท้อนออกมาจากบริเวณทรวงอกด้วย

พละลิขิต!

หลัวซิวได้สัมผัสกับความล้ำลึกของเกณฑ์สูงศักดิ์ทั้งสามแล้ว ด้วยเหตุนี้เมื่อเขามองเห็นภาพเหตุการณ์ดังกล่าว ก็ทราบเลยว่านี่คือความล้ำลึกของเกณฑ์ลิขิต

ดังคำกล่าวที่ว่าลิขิตไร้ขอบเขต มหัศจรรย์อย่างไร้ขีดจำกัด ก้อนหินก้อนหนึ่งสามารถกลายเป็นทองคำฉันใด ของตายชิ้นหนึ่งก็สามารถกลายเป็นภูตศักดิ์สิทธิ์ได้ฉันนั้น และนี่ก็คือความมหัศจรรย์ของลิขิต

เพียงพริบตาเดียว รูปปั้นไร้ชีวีในตอนแรกก็มีชีวิตขึ้นมา กลายเป็นบุรุษสง่าที่ตัวคลุมเกราะสงครามมังกรเขียว มือกำหอกยุทธ์

“เวิง!”

เสี้ยววินาทีที่ลืมตาทั้งสองข้างขึ้นมา ก็มีพลังออร่าที่ดุดันล้นฟ้าปะทุออกมาจากร่างชายเกราะเขียว แล้วมีคลื่นพลังสีเขียวสั่นกระเพื่อมออกมา

“เซียนชั้นฟ้าขั้นปฐมภูมิ?”

หลัวซิวเพ่งมองฝ่ายตรงข้าม เขาสามารถสัมผัสคลื่นผลการฝึกตนที่เป็นเช่นเดียวกับตนได้จากตัวชายเกราะเขียว

อย่างไรเสียที่นี่ก็เป็นสถานที่ที่แม้แต่ผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิเซียนยังไม่สามารถฝากกันเข้าไปแล้วได้ครอบครองโอกาสอันไร้เทียมทาน ถ้าเกิดทันทีที่เข้ามาก็ได้พบกับคู่ต่อสู้ที่มีกำลังรบเทียบเท่าจักรพรรดิเซียนเลย เช่นนั้นมารเฒ่าไม้ก็คงไม่ให้เขาเข้ามาแล้ว

เส้นทางแห่งการฝึกยุทธ์ในภพชาตินี้ของเขาค่อย ๆ พัฒนาทีขึ้นมาทีละก้าว หลัวซิวก็เคยเข้าไปในสถานที่ที่เป็นทำนองนี้มาหลายครั้งเช่นกัน และดูเหมือนบททดสอบของสำนักเซียนสุดลึกลับนี่ก็ไม่มีจุดใดพิเศษเช่นกัน

ศึกแห่งแดนเดียวกัน!

แดนผลการฝึกตนเหมือนกัน ฝ่ายใดแข็งแกร่งฝ่ายใดอ่อนแอ สามารถประเมินพรสวรรค์ สติปัญญา แล้วก็ความสามารถในการกระตุ้นศักยภาพของคนคนหนึ่งได้เลย

“โครม!”

ชายเกราะเขียวไม่พูดอะไรสักคำ ก้าวขาออกมาก้าวหนึ่ง แล้วพุ่งมาถึงหน้าหลัวซิวภายในชั่วพริบตาเดียว พลังออร่าที่ดุดันไร้ขอบเขตม้วนซัดออกมา หอกยุทธ์ที่อยู่ในมือเสมือนมังกรพิโรธคำราม พุ่งกระโจนไปทางหลัวซิว

พลังหอกในครั้งนี้ดูธรรมดาเรียบง่ายมาก แต่กลับมีพลานุภาพที่น่าสยดสยองแฝงซ่อนอยู่ภายใน แม้นผลการฝึกตนจักเป็นเพียงเซียนชั้นฟ้าขั้นปฐมภูมิ แต่หลัวซิวกลับรู้สึกว่าฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่งกว่าเทพบุตรภูตศักดิ์สิทธิ์อย่างตงฟางหยุนเซิงที่เขาเคยเจอในก่อนหน้านี้มาก ๆ

อีกทั้งฝ่ายตรงข้ามไม่เพียงมีผลการฝึกตนที่เท่ากับหลัวซิว หอกยุทธ์ที่อยู่ในมือชายเกราะเขียวก็เป็นภัณฑ์เซียนชั้นสูงเช่นกัน

“ตราเข้าล็อกเดิม!”

หลัวซิวประสานอิน เพียงพริบตาเดียวไร้ลักษณ์ก็วิวัฒนาการสรรพวิชา สรรพวิชารวมกันเป็นหนึ่ง ผนึกรวมกันอยู่กลางฝ่ามือเขา

“ตู้มม!”

ตราเข้าล็อกเดิมและหอกยุทธ์ปานมังกรพิโรธพุ่งชนเข้าด้วยกัน ร่างกายของชายเกราะเขียวนั่นจึงถูกโจมตีจนกระเด็นออกไปภายในชั่วพริบตาเดียว แสงเซียนที่อยู่บนเกราะเขียวดับ ๆ หาย ๆ มีเสียงแตกร้าวดังขึ้น ก่อนที่รอยร้าวจะแผ่ขยายออกไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ