มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 3196

“นี่......”

การเคลื่อนไหวของหลัวซิว ยิ่งทำให้บรรดาประมุขเต๋ามกุฎเต๋าตะลึงตาค้าง

ตรีภพแห่งนี้ พวกเขาไม่กล้าแตะต้องเลยสักนิด เพียงก้าวเท้าเข้าใกล้ ก็จะมีก้อนพลังที่ไม่อาจต้านทานผลักพวกเขาออกมา ไม่อาจก้าวเข้าไปได้เลย

ทว่าหลัวซิวเพียงยกมือขึ้นโบก ก็ได้เปิดทางสายหนึ่งขึ้นมาในตรีภพ เหมือนดั่งราชันแห่งตรีภพ

เช่นนั้นผลการฝึกตนของซิวหลัวไท่ซ่างผู้นี้ ได้ถึงแดนที่น่ากลัวเช่นใดกันแน่?

จากที่พวกเขาทราบมา ตอนที่ซิวหลัวไท่ซ่างผู้นี้เหาะขึ้นสู่โลกเซียน มีผลการฝึกตนยังไม่ถึงแดนกึ่งเซียนเสียด้วยซ้ำ

หรือว่าหลังจากเขาได้ไปยังโลกเซียน แค่ในเวลาสั้น ๆ เพียงสองพันปี ก็กลายเซียนแล้วอย่างนั้นหรือ?

การคาดเดาเช่นนี้ เพียงพอที่จะทำให้บรรดาประมุขเต๋ามกุฎเต๋าตื่นเต้นดีใจอย่างไม่ต้องสงสัย หากเรื่องนี้เป็นความจริง ก็ไม่หมายความว่าถ้าพวกเขาก็ไปโลกเซียนเหมือนกัน และกลายเป็นชาวเซียนได้เวลาอันสั้น?

หลัวซิวไม่รู้ว่าในใจของพวกเขาคิดสิ่งใดอยู่ มิเช่นนั้นคงต้องหัวเราะเยาะเย้ยอย่างแน่นอน

ระยะเวลาสองพันปีมันไม่นานก็จริง แต่ก็ต้องดูว่าสำหรับใครด้วย โลกเซียนเองก็ไม่ได้สวยงามอย่างที่คนในโลกามนุษย์คิด

พูดได้แม้กระทั่งว่า สภาพแวดล้อมในโลกเซียน มันโหดร้ายยิ่งกว่าโลกามนุษย์ไม่รู้สักเท่าไร

ประมุขเต๋ามกุฎเต๋า เป็นเหมือนดั่งหินก้อนหนึ่ง ที่ถูกโยนสู่ทะเล มันไม่ทำให้เกิดแม้แต่ระลอกคลื่น

หลัวซิวมิได้สนใจบรรพจารย์จักรภพพวกนั้น เพราะสำหรับเขาแล้วคนพวกนี้ เป็นเพียงคนภายนอกเท่านั้น

ยู่เอ๋อร์ย่อมตามอยู่ด้านหลังของหลัวซิวอย่างไม่ต้องคิด ต้วนคงได้ประสานมือคารวะพวกบรรพจารย์จักรภพ จากนั้นก็ได้ตามมา

ส่วนพวกบรรพจารย์จักรภพ ต่างได้มองหน้ากัน มีใจอยากตามไปดูว่ามีสิ่งใดอยู่ในตรีภพกันแน่ แต่ก็ไม่กล้าขยับไปด้านหน้า

เพราะชื่อของซิวหลัวไท่ซ่างผู้นั้น พูดได้ว่าโด่งดังมาจากการเข่นฆ่าสังหารอย่างแท้จริง หากทำให้ผู้แข็งแกร่งที่สงสัยว่าได้กลายเซียนแล้วคนนี้ไม่พอใจ จะไม่เท่ากับเป็นการหาเรื่องวุ่นวายครั้งใหญ่ให้กับตนเองหรอกหรือ?

หลังจากที่พวกหลัวซิวทั้งสามคนได้เดินเข้าไป ตรีภพที่อยู่รอบ ๆ ต่างกระเพื่อมเข้ามาทันที ทางเดินถูกปิดตาย

พวกบรรพจารย์จักรภพต่างมองหน้าซึ่งกันและกัน สุดท้ายก็ยังคงส่ายศีรษะ และแยกย้ายกันไป ไม่ว่าจะมีสิ่งใดอยู่ในตรีภพแห่งนี้ก็ตาม ในเมื่อซิวหลัวไท่ซ่างได้มาถึงที่นี่ มันก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอันใดกับพวกเขาอีกแล้ว

อีกอย่างพวกเขาสงสัยว่า ตรีภพแห่งนี้ อาจเกิดขึ้นด้วยน้ำมือของซิวหลัวไท่ซ่าง

ในตรีภพ หลัวซิวก้าวเดินไปข้างหน้า ตรีภพที่อยู่ด้านหน้าเปิดเป็นทางเดิน ยู่เอ๋อร์กับต้วนคงเดินตามหลังเขาอยู่ไม่ห่าง ไม่กล้าวิ่งเพ่นพ่าน

เพราะกระแสพลังตรีภพในที่นี้นั้นแข็งแกร่งมาก แม้ว่ายู่เอ๋อร์ได้ก้าวเข้าใกล้แดนกลายเซียนแล้ว แต่ก็ไม่มีทางที่จะต้านทานพละตรีภพในที่นี้ได้

ไม่นานหลังจากนั้น ภายใต้การนำของหลัวซิว พวกเขาได้มาถึงใจกลางของตรีภพแห่งนี้ ได้มองเห็นฟ้าดินแห่งหนึ่งที่ได้บุกเบิกขึ้น ในตรีภพไร้ขอบเขต

พระอาทิตย์พระจันทร์ดวงดารา แผ่นดินอันกว้างใหญ่ไพศาล ภูเขาและแม่น้ำไร้ขอบเขต นานาสรรพสิ่ง มีทุกอย่างที่ควรจะมี......

“นี่ นี่คือ......”

ยู่เอ๋อร์กับต้วนคงต่างเบิกตาโพลง พวกเขารู้สึกว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามันน่าเหลือเชื่อยิ่งนัก

ดวงดาราซึ่งเป็นที่ตั้งของแผ่นดินซิวหลัว ที่ผ่านมาจักต้องไม่มีแดนตรีภพเช่นนี้อยู่เป็นแน่ และยิ่งไม่มีฟ้าดินที่ได้บุกเบิกขึ้นมาในตรีภพ

“นี่คือฟ้าดินที่ข้าได้สร้างขึ้น”

หลัวซิวก้าวเดินไปข้างหน้าต่อ หยุดลงในฟ้าดินตรีภพแห่งนี้ ใบหน้าเปี่ยมรอยยิ้ม

นี่คือผลเต๋าของเขา เป็นผลสำเร็จจากการฝึกตนวิถียุทธ์ของเขา อาศัยตรีภพ วัฏจักร และลิขิตสามเกณฑ์สูงศักดิ์ใหญ่ เขาได้สัมผัสถึงแดนพระเจ้าผู้สร้างโลก

ตรีภพบุกเบิกฟ้าดิน วัฏจักรควบคุมเกณฑ์ ลิขิตแปรผันนานาสรรพสิ่ง

สามเกณฑ์สูงศักดิ์ใหญ่รวมเป็นหนึ่ง ก็คือพระเจ้าผู้สร้างโลกดั่งฟ้าดิน ดั่งดวงจิตแท้ ดั่งชีวิต ทุกสิ่งสามารถสร้างขึ้นมาได้

“บุกเบิกฟ้าดิน?”

ยู่เอ๋อร์ตกตะลึงขึ้นมาอีกครั้ง ต้วนคงอาจไม่เข้าใจสิ่งเหล่านี้นัก แต่ยู่เอ๋อร์มีผลการฝึกตนที่ใกล้ถึงขอบเขตของการกลายเซียนแล้ว ด้วยเหตุนี้นางจริงเข้าใจดีว่าต้องการทำให้ได้ถึงขั้นนี้ มันยากเพียงใด

สร้างปริภูมิฟ้าดินแห่งหนึ่งขึ้นมาในอนัตตา หลายคนสามารถทำได้ แต่ปริภูมิฟ้าดินเช่นนั้น ถูกเรียกว่าเป็นแดนปริศนา

ในแดนปริศนา เกณฑ์ฟ้าดินจะไม่สมบูรณ์แบบ

แต่การบุกเบิกฟ้าดินนั้นไม่เหมือนกัน นั่นเป็นฟ้าดินที่แท้จริง ไม่ได้แตกต่างไปจากจักรวาลฟ้าดินเลย

แน่นอน ได้รับผลกระทบและพันธนาการแดนการฝึกตนของหลัวซิว อสูรจิตในฟ้าดินตรีภพที่เขาได้บุกเบิกขึ้นแห่งนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะฝึกตนจนถึงแดนที่เหนือกว่าผู้บุกเบิกอย่างเขา

เมื่อแดนการฝึกตนของหลัวซิวได้เพิ่มขึ้นและสมบูรณ์อย่างต่อเนื่อง เกณฑ์ฟ้าดินตรีภพก็จะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้ก็จะมีอสูรจิตที่ร้ายกาจฝึกตนถึงแดนที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นตาม

ฟ้าดินตรีภพเช่นนี้ เหนือกว่าแผ่นดินซิวหลัวที่ผ่านมาไม่รู้สึกกี่เท่า!

แต่ฟ้าดินผืนนี้เพิ่งก่อได้กำเนิด ทุกอย่างยังต้องทำให้สมบูรณ์ ต้องใช้เวลาในการสั่งสมและตกตะกอน

แต่ไม่ว่าอย่างไร สามารถบุกเบิกฟ้าดินได้ มีเพียงผู้แข็งแกร่งที่ฝึกฝนสามเกณฑ์สูงศักดิ์ใหญ่ถึงระดับที่แน่นอนพร้อมกันได้เท่านั้น

มีผู้แข็งแกร่งบางคนที่อาจมีผลสำเร็จในด้านเกณฑ์สูงศักดิ์เหนือกว่าหลัวซิว แต่ผู้แข็งแกร่งที่สามารถควบคุมสามเกณฑ์สูงศักดิ์ได้พร้อมกัน อีกทั้งสามเกณฑ์สูงศักดิ์ใหญ่ยังมีแดนที่พอ ๆ กัน กลับหาได้ยากมาก

อย่างน้อยในบรรดาผู้แข็งแกร่งที่หลัวซิวรู้จัก ก็มีเพียงจักรพรรดิเซียนไท่ซ่างยุคบรรพกาลคนนั้น ที่ฝึกฝนสามเกณฑ์สูงศักดิ์ใหญ่พร้อมกัน

ทว่าจักรพรรดิเซียนไท่ซ่างได้บุกเบิกฟ้าดินตรีภพขึ้นมาหรือไม่นั้น กลับไม่มีประวัติศาสตร์ใด ๆ มาให้พิสูจน์ได้เลย

แต่หลังจากที่หลัวซิวได้บุกเบิกฟ้าดินเองกับมือ เขาก็คิดว่าจักรพรรดิเซียนไท่ซ่างจักต้องทำเช่นนี้เหมือนกันอย่างแน่นอน เพราะในระหว่างที่บุกเบิกฟ้าดินนั้น จะให้การสัมผัสรู้ที่ใหม่ทั้งหมดอย่างหนึ่ง ซึ่งทำให้แดนยุทธ์ของตนเองเพิ่มระดับขึ้น

ระหว่างที่พูดอยู่นั้น หลัวซิวยกมือขึ้นกวัก ลำแสงสายหนึ่งได้ลอยออกมาจากร่างของต้วนคง เป็นหอคอยเซียนหลังหนึ่งนั่นเอง

ในตอนนั้น ต้วนคงได้ใช้หอคอยเซียนหลังนี้พาผู้คนที่อยู่ในแผ่นดินซิวหลัวหลบหนีไป

หอคอยเซียนหลังนี้ได้ถูกต้วนคงฝึกเช่นมาเป็นเวลาหลายปี แต่กลับถูกหลัวซิวกวักมือเรียกไปได้ ราวกับว่าเขาไม่ใช่เจ้าของหอคอยเซียนหลังนี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ