“ได้แต่หวังว่าที่อยู่นั้นของถ้ำโบราณ จะไม่ถูกผู้แข็งแกร่งแห่งสำนักเสวียนหยางค้นพบ”
หลังจากที่อาการบาดเจ็บหายดีแล้ว หลัวซิวและเหยียนเยว่เอ๋อร์ก็ลงไปในบ่อน้ำอมตะด้วยกัน ตามตำแหน่งที่ทำเครื่องหมายไว้บนแผนที่ลับ ก็มาถึงที่ตั้งของถ้ำโบราณในพื้นที่นั้น
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เขากังวลมากที่สุดก็ปรากฏขึ้น พลังชีวิตที่เข้มข้นนั้นปรากฏขึ้นที่นี่ ทุกคนต่างก็เป็นผู้แข็งแกร่งระดับราชายุทธ์ขึ้นไป
เมื่อไม่กี่วันก่อน สงครามใหญ่ระดับจักรพรรดิยุทธ์เคยเกิดขึ้นที่นี่ แม้ว่าในตอนแรกหลัวซิวสร้างค่ายกลป้องกัน ทำให้ทางฝั่งของผู้อาวุโสเสวียนหยางพวกนั้นไม่สามารถส่งสาร และกักกันคลื่นลมหายใจแห่งพลังจิตแท้ไม่ให้รั่วไหล
แต่ต่อมา หลังจากที่เขาและเหยียนเยว่เอ๋อร์ออกจากที่นี่ เพราะการตายของผู้อาวุโสจักรพรรดิยุทธ์ สำนักเสวียนหยางจึงได้ค้นหาทั่วทั้งบ่อน้ำอมตะ พบร่องรอยของการต่อสู้ที่มีอยู่ที่นี่ และเศษเสี้ยวพลังชีวิตของผู้อาวุโสเสวียนหยาง
คนจากสำนักเสวียนหยางขุดพื้นที่นี้ลงไปในดินราวสามฟุต ทางเข้าของถ้ำโบราณแม้จะซ่อนเร้นอยู่ แต่ก็ยังถูกค้นพบ
หลัวซิวและเหยียนเยว่เอ๋อร์แค่เฝ้ามองอยู่ไกล ๆ ไม่ได้เร่งรีบที่จะเข้าไป เพราะสำนักเสวียนหยางพื้นที่หลายร้อยลี้รอบนี้ถูกปิดผนึกอย่างสมบูรณ์
“เราควรทำอย่างไร?” เหยียนเยว่เอ๋อร์หันไปมองคนข้าง ๆ ที่หน้าตาอึมครึมอย่างหลัวซิว
คนทั้งสองรีบทางมาถึงที่นี่กว่าพันลี้ อุตส่าห์ฆ่าผู้อาวุโสเสวียนหยางอย่างยากลำบาก จนกระทั่งมาถึงถ้ำโบราณปริศนาแห่งนี้ที่สุดท้ายก็ไม่สามารถรักษาไว้ได้
……
กลางสำนักเสวียนหยางที่ถูกปิดผนึกอยู่นั้น เป็นหนองน้ำแห่งหนึ่งที่ไม่ได้มีอะไรพิเศษ
เพียงแต่ว่าด้านล่างของหนองน้ำที่ในเวลานี้ถูกเปิดออก และกระแสน้ำวนแห่งปริภูมิก็หมุนวนอย่างเงียบ ๆ ราวกับปากใหญ่ ๆ ของอสูรกายเก่าแก่ ที่รอจะกินคนที่ผ่านเข้ามา
บนท้องฟ้าเหนือหนองบึงนี้ ร่างสิบร่างในชุดคลุมสีทอง ทะยานขึ้นไปสู่บนท้องฟ้าและยืนอยู่กลางอากาศ
“ไม่แปลกใจเลยที่ผู้อาวุโสเสวียนหยางจะเข้าไปในบ่อน้ำอมตะอย่างเงียบเชียบเช่นนี้ เขาน่าจะค้นพบทางเข้าของถ้ำโบราณแห่งนี้แล้ว คงจะต้องการสำรวจคนเดียว และเก็บสมบัติที่อยู่ภายในนั้นไว้คนเดียว”
คนแรกที่พูดคือผู้หญิงที่สวมหน้ากากครึ่งสีทอง และเสียงของนางที่เปล่งออกมานั้นดังและชัดเจน
แม้ว่าใบหน้าของเขาจะถูกเปิดเผยเพียงครึ่งเดียว แต่ก็ยังสวยงามมาก
อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครที่กล้าดูหมิ่นนางเพียงเพราะนางเป็นผู้หญิง เพราะผู้หญิงลึกลับที่สวมหน้ากากครึ่งสีทองคนนี้คือเจ้าสำนักเสวียนหยาง!
เมื่อโดยรอบของประเทศเทียนหวู มีสามมหาอำนาจยิ่งใหญ่ที่สุด และสำนักเสวียนหยางคือหนึ่งในนั้น ผลการฝึกตนของเจ้าสำนักเสวียนหยาง คือผู้แข็งแกร่งแดนจักรพรรดิยุทธ์ขั้นสี่
“เจ้าสำนัก ผู้อาวุโสเสวียนหยางน่าจะถูกคนทำร้าย ในประเทศเทียนหวูแห่งนี้ คนที่สามารถสังหารผู้อาวุโสเสวียนหยางได้นั้นมีจำนวนเพียงหยิบมือ ข้าเกรงว่าความลับของถ้ำโบราณแห่งนี้ พวกเราสำนักเสวียนหยางคงจะไม่ใช่คนแรกที่ค้นพบ” ผู้อาวุโสท่านหนึ่งเอ่ยขึ้นด้วยความเคารพ
“เราต้องเชิญท่านอาจารย์ออกมาหรือไม่?” ผู้คุมกฎอีกคนพูดขึ้น
สำนักเสวียนหยางมีจักรพรรดิยุทธ์สองคน คนหนึ่งคือเจ้าสำนักเสวียนหยาง อีกคนคือผู้อาวุโสเสวียนหยาง
ในตอนนี้ผู้อาวุโสเสวียนหยางได้ตายไปแล้ว ภายในสำนักเสวียนหยาง เหลือเพียงแค่เจ้าสำนักหญิงผู้นี้ที่เป็นจักรพรรดิยุทธ์ผู้แข็งแกร่ง
ภายใต้การบังคับบัญชาของนาง ทั้งเก้าคนนั้น ต่างก็คือราชายุทธ์ผู้คุมกฎแห่งสำนักเสวียนหยาง
ทั่วทั้งประเทศเทียนหวู ระดับราชายุทธ์ผู้แข็งแกร่งมีไม่ถึงสามสิบคน และแค่เพียงในสำนักเสวียนหยาง ก็มีผู้แข็งแกร่งระดับราชายุทธ์แล้วเก้าคน นี่คือรากฐานอันทรงพลังของอำนาจเหนือธรรมชาติ
“อาจารย์คือมกุฏยุทธ์ผู้แข็งแกร่ง ขยับเพียงเล็กน้อยก็เลือนลั่นทั่วทั้งปฐพี หากว่าท่านอาจารย์มาเยือนที่แห่งนี้ด้วยตนเอง ไม่ว่าใครก็คงจะรู้ได้อย่างง่ายดายว่าที่แห่งนี้มีขุมทรัพย์มหาศาล ถือเวลานั้นไม่ต้องพูดถึงตำหนักจื่อและสำนักฉางเหอ เมืองอันห่างไกลที่มีมกุฏยุทธ์ผู้แข็งแกร่งคอยกุมอำนาจไว้ เกรงว่าจะรีบรุดมาทำให้วุ่นวายขึ้นกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...